สพฐ.ลั่นไม่เลื่อนเปิดเทอมแน่นอน รับเด็กอนุบาล-ประถมฯน่าห่วงสุด ความรู้หายไป 2ปีช่วงเรียนออนไลน์

14 มี.ค.65-นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า  ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้วางแผนการบริหารจัดการการศึกษาภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในปีการศึกษา 2565 ซึ่งในปีการศึกษานี้ สพฐ.ได้ตั้งเป้าหมายให้เป็นการเติมเต็มทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างเข้มข้น เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิดส่งผลให้โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ โดยยอมรับว่าการเรียนในรูปแบบนี้ไม่ตอบโจทย์กับนักเรียนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กปฐมวัยไปจนถึงประถมศึกษาตอนปลาย ดังนั้นรูปแบบการบริหารจัดการศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เราจะไม่มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนอีกแล้ว ซึ่งจะเปิดภาคเรียนที่ 1 ตามกำหนดปฏิทินเดิมในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2565  ซึ่งหากโรงเรียนใดยังไม่มีความพร้อมหรือผู้ปกครองมีความสมัครอยากจะให้บุตรหลานของตัวเองยังเรียนออนไลน์อยู่ก็สามารถทำได้ เพราะเราจะต้องอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้ อีกทั้งที่ผ่านมามาตรการแผนเผชิญเหตุโควิด-19 ในโรงเรียนหลายแห่งทำได้ดี เมื่อมีนักเรียนติดโควิดจะปิดเฉพาะห้องเรียนไม่มีการปิดทั้งโรงเรียน

“ในปีการศึกษาหน้าจะไม่มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 อีกแล้ว ส่วนการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2565 เราไม่ห่วงทักษะการเรียนของกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กโต ไม่มีปัญหาด้านการเรียนออนไลน์ เพราะเด็กโตสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตัวเองจากสื่อเทคโนโลยีด้านต่างๆ แต่เรามีความเป็นห่วงทักษะการอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นในกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษามากกว่า” เลขากพฐ.กล่าว


นายอัมพร กล่าวอีกว่า ดังนั้นในปีการศึกษาหน้า จะไม่มุ่งจัดการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลักแล้ว แต่จะให้เน้นทักษะการอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเป็นในกลุ่มเด็กป.1 2 และ 3 โดยจะเป็นการสอนที่บูรณการร่วมกับวิชาอื่นๆ เราจะไม่จัดการเรียนการสอนแบบเหมาเข่ง แต่จะเคี่ยวทักษะเด็กประถมศึกษาอย่างเข้มข้นให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดสอนเสริมเติมความรู้ในสิ่งที่ขาดหายไปในเด็ก เพื่อทดแทน 2 ปีที่ผ่านมาที่โรงเรียนได้รับผลกระทบจากโควิด-19    

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สพฐ. ระดมคาราวานใหญ่ลงใต้ ส่งมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนหลังสถานศึกษากว่า 800 แห่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ หนุนรถบรรทุกเสริมกำลังขนส่งสิ่งของ ขณะรัฐมนตรีศึกษาธิการย้ำยืนเคียงข้างครู-นักเรียนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “คาราวานช่วยเหลืออุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ประจำปี 2568” เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือเร่งด่วนให้แก่สถานศึกษา นักเรียน ครู และบุคลากรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคใต้

'น้ำท่วมหาดใหญ่' ดับพุ่ง 110 ราย! เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ ก่อนทยอยคืนญาติ

'บิ๊กต่าย' เผยยอดเสียชีวิตจากน้ำท่วมหาดใหญ่พุ่ง 110 ราย ส่งทีมแพทย์-สพฐ. ลงพื้นที่ เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ให้เสร็จพรุ่งนี้ ก่อนทยอยคืนร่างให้ญาติ

สานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ พร้อมส่งมอบรถโมบาย สื่อการสอนสมัยใหม่ มุ่งขยายผลองค์ความรู้สู่เยาวชน และการประยุกต์ใช้ให้เห็นผลอย่างยั่งยืน

สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมอบทุนการศึกษา โครงการสานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ ภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนบพระราชดำริสู่เยาวชน ประจำปี 2568

ปฏิรูปห้องเรียนอีสาน! ครู 10 จังหวัดรวมพลังพลิกวิธีสอน สู่ยุค Active Learning ด้วย GPAS 5 Steps

ในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าแผนการสอน... ครูไทยต้องลุกขึ้นมาเป็น "ผู้นำการเรียนรู้" ไม่ใช่แค่ "ผู้ถ่ายทอดความรู้" และครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อขับเคลื่อนห้องเรียนไทยให้เข้าสู่การเรียนรู้เชิงรุกอย่างแท้จริง

“รมว.นฤมล”นำ ศธ.-สพฐ.ปล่อยคาราวานช่วยชายแดนไทย และอุทกภัยภาคเหนือ ย้ำ ดูแลครูนักเรียนทั้งกายใจ เผย ย้ายสนามสอบครูผู้ช่วยในพื้นที่เสี่ยง แต่ไม่เลื่อนวันสอบ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.เวลา 09.30 น. ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดกิจกรรมปล่อยคาราวาน “สพฐ. และ ศธ. ร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือ โดยการปล่อยขบวนคาราวานสิ่งของอุปโภคบริโภค เครื่องใช้จำเป็น และเวชภัณฑ์เพื่อส่งไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา