'สุภัทร'ไม่ห่วงไม่ทิ้งภาระให้ใครหลังเกษียณ ขอลุยงาน จนถึงวันสุดท้าย

22ส.ค.2565-นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ตนจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนปีนี้นั้น สิ่งที่ตนได้รับมอบหมายจากนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ขณะนี้ไม่มีงานอะไรที่คั่งค้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหลักเกณฑ์การสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เกณฑ์สรรหาเลขาธิการคุรุสภา และเกณฑ์สรรหา ผอ.องค์การค้าของ สกสค.รวมถึงการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน พ.ศ. 2565 จำนวน 208 อัตรา ได้จัดทำตามข้อสั่งการเสร็จเรียบร้อย ซึ่งตนไม่ห่วงหรือกังวลอะไรแม้จะเกษียณอายุราชการ และจะขอทำหน้าที่สำคัญจนวันสุดท้าย และจะทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายทุกเรื่องไปให้ไกลได้มากที่สุด เพื่อวางงานให้แก่ ปลัด ศธ.คนใหม่ได้สานต่อ เพราะไม่ต้องการทิ้งภาระอะไรให้แก่คนใหม่ต้องมานั่งทำงานแบบหนักใจ

นายสุภัทร กล่าวต่อว่า  ทั้งนี้หากสิ่งที่ยังมีความเป็นห่วงเรื่องการทำงานในสังกัด สป.ศธ.จะเป็นเรื่องการบรรจุแต่งตั้งรองศึกษาธิการจังหวัด (รอง ศธจ.) ทดแทนอัตราเกษียณอายุราชการ ซึ่งปีนี้มีไม่น้อยกว่า 10 ราย และจะต้องมีการดำเนินการเปิดสอบรอง ศธจ.ใหม่ เนื่องจากบัญชีของผู้ที่สอบได้ใกล้หมดอายุในเร็วๆ นี้ อีกทั้งหากในกรณีที่บางจังหวัดมี ศธจ. เกษียณอายุราชการด้วยจนทำให้เหลือรอง ศธจ.ทำงานคนเดียว ก็อาจส่งผลให้การขับเคลื่อนการศึกษาในพื้นที่สะดุดได้  โดยในประเด็นนี้หากตนต้องการจะเร่งดำเนินการเปิดสอบใหม่ก็คงทำได้ แต่คิดว่าไม่ทำ ซึ่งอาจจะร่างหลักเกณฑ์การสอบบรรจุแต่งตั้งไว้คร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ ปลัดศธ.คนใหม่ได้เข้ามาสานต่อ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดสอบรอง ศธจ.รอบใหม่ ห่วงเรื่องการวิ่งเต้นจ่ายเงินซื้อตำแหน่งหรือไม่นั้น นายสุภัทร กล่าวว่า ตนคิดว่าคงมีแต่คนไม่มีสติเท่านั้นที่จะทำ เพราะในยุคของตนทำงานอย่างตรงไปตรงมา แต่หากมีผู้ที่ต้องการที่จะโดนหลอกให้ตกเบ็ดจ่ายเงินกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้