ผู้ปกครองยุค 'โควิด-19' สุดเหนื่อยค่าใช้จ่ายเพิ่ม - เรียนออนไลน์ไม่มีคุณภาพ

สรุปผลการสำรวจ : หัวอกผู้ปกครองในยุคโควิด-19

13 ก.พ. 2565 – สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานในวัยเรียน เรื่อง “หัวอกผู้ปกครองในยุคโควิด-19” จำนวนทั้งสิ้น 1,089 คน ระหว่างวันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่า ผู้ปกครองมีบุตรหลาน ที่ต้องดูแลรับผิดชอบ จำนวน 1 คน ร้อยละ 46.84 จำนวน 2 คน ร้อยละ 41.51 มีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเทอม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนมากที่สุด ร้อยละ 78.26 รองลงมาคือ ค่าอาหารการกิน ร้อยละ 76.23 เรื่องที่หนักใจคือเรื่องสุขภาพของบุตรหลาน การฉีดวัคซีนโควิด-19 ร้อยละ 83.79 รองลงมาคือ การเรียนออนไลน์ ร้อยละ 70.63 ส่วนมาก ไม่ค่อยเชื่อมั่นต่อคุณภาพของการเรียนการสอนออนไลน์ ร้อยละ 55.52 โดยอยากให้โรงเรียน/สถานศึกษาออกแบบการเรียนการสอนที่สนุกและได้สาระความรู้ ไม่เครียด บรรยากาศการเรียนดี ร้อยละ 87.42 ทั้งนี้ค่อนข้างมีความกังวลกับการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก (อายุ 5 ปีขึ้นไป) ร้อยละ 45.54 สิ่งที่กังวลใจคือเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน ร้อยละ 72.72 และมองว่าสำหรับการป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มบุตรหลานนั้นต้องฉีดวัคซีนและป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวดควบคู่กัน ร้อยละ 66.75

วิกฤติเด็กไทยที่อัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเจนจากจำนวนบุตรหลานที่ผู้ปกครองดูแลมีประมาณ 1-2 คน เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นกลับมีภาระค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูอยู่ไม่น้อย และโควิด-19 ก็ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ การเรียนออนไลน์ อาหารการกิน ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องตัดสินใจเกี่ยวกับวัคซีนของบุตรหลาน อีกด้วย หัวอกของผู้ปกครองในยุคโควิด-19 นี้จึงมีปัญหาที่น่าหนักใจหลายอย่าง การให้กำลังใจดูแลซึ่งกันและกัน ในครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกกานต์ วีระกุล ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ปัจจุบันผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมากในเรื่องการเรียนของบุตรหลาน อันเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีการเรียนการสอนออนไลน์เป็นหลัก ทำให้ผู้ปกครองมีภาระค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง และการเรียนออนไลน์ยังคงเป็นปัญหากับผู้ปกครองและเด็กในหลายครอบครัว โดยเฉพาะในครอบครัวที่เป็นเด็กเล็ก ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการปรับตัวของครูและโรงเรียนอาจไม่ตอบโจทย์การเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ บรรยากาศการเรียนการทำกิจกรรมยังไม่หลากหลาย ไม่น่าสนใจ ทำให้ผลลัพธ์การเรียนรู้ของบุตรหลานยังไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในเรื่องของสุขภาพและการฉีดวัคซีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลงานวิจัยต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพของวัคซีน และอาการข้างเคียงยังมีไม่มากพอ และการฉีดวัคซีนยังไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองก็ยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขคือการฉีดวัคซีน และให้บุตรหลานป้องกันตนเองอย่างเข้มงวด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดุสิตโพล' เผยดัชนีการเมืองไทย พ.ย. ตก มหาอุทกภัยหาดใหญ่กดคะแนนรัฐบาล

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน

‘ดุสิตโพล’ ชี้ภูมิใจไทยได้เปรียบสุดในการเลือกตั้ง

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “พรรคการเมืองไทย พรรคใดได้เปรียบ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,794 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2568 พบว่า พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่มีความได้เปรียบมากที่สุดถึง 8 ข้อ

บุกโรงเรียนกลางวันแสกๆ พ่อเดือดใช้ปืนตบนักเรียน ม.2 ศีรษะแตก-นิ้วหัก

เหตุระทึกกลางสถานศึกษา นครศรีธรรมราช ผู้ปกครองบุกโรงเรียน หลังลูกชายโทรฟ้อง ถูกเพื่อนแกล้ง คว้าปืนตบเด็กวัย 14 ปี บาดเจ็บเลือดอาบ ตำรวจเร่งสอบสวนเอาผิด พร้อมตรวจวงจรปิดหาหลักฐาน

ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568  พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81

ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน