'จุ๋ย วรัทยา' ชี้แจงทั้งน้ำตา ประเด็นไม่ไปงาน 'แตงโม'

หลังจากที่ จุ๋ย วรัทยา และ พุฒ พุฒิชัย ได้ตอบคำถามของ มดดำ คชาภา ในรายการแฉ ถึงสาเหตุที่ไม่ได้ไปร่วมงานพิธีไว้อาลัย แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์  ก็เจอทัวร์ลงชุดใหญ่ จนเกิดกระแสดราม่าจากชาวเน็ต จน จุ๋ยและพุฒ ต้องออกมาไลฟ์ผ่านอินสตาแกรม เพื่อชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  งานนี้ทำเอาจุ๋ยถึงกับเสียน้ำตา

โดยจุ๋ย วรัทยา เล่าว่า “ประเด็นดราม่ามาจากที่ไปออกราการแฉ พี่มดดำถามว่าจุ๋ยจะไปงานศพหรือเปล่า  จุ๋ยก็พูดไปตามความจริงแต่ไม่ได้ขยายความอะไรไปมากเพราะมันเป็นช่วงสั้นๆ ของรายการที่พี่มดดำจะปิดเบรกแล้ว จุ๋ยตอบไปว่าโดยส่วนตัวจุ๋ยไม่ได้ทำงานร่วมกับน้อง จุ๋ยคงไม่ได้ไป แล้วก็ขอแสดงความเสียใจเป็นวิธีการอื่น สำหรับจุ๋ยตั้งแต่ทราบว่าน้องโมเสียชีวิตแล้วจริงๆ จุ๋ยตกใจมาก แล้วก็เป็นคนในวงการที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงแม้ว่าจุ๋ยไม่เคยร่วมงานกับน้อง แต่จุ๋ยก็เสียใจเหลือเกินกับการจากไปของน้อง เศร้าจริงๆ

แล้วในวันที่พี่มดดำถามจุ๋ยก็ตอบตามความเป็นจริง แล้วจุ๋ยก็ตอบในส่วนของจุ๋ยไม่ได้ตอบในส่วนของพุฒ จุ๋ยทราบว่าพุฒเล่นกับน้องโม ซึ่งคิดว่าเดี๋ยวพี่เขาคงถามพุฒ แต่รายการตัดออกเบรกไปแล้ว หลายคนบอกว่าเราตอบเหมือนเราใจร้าย แต่จุ๋ยพูดตามความจริงว่าไม่เคยร่วมงานกับน้องแต่ขอแสดงความเสียใจโดยวิธีอื่น ตอนที่รู้เรื่องน้องเราก็อินไปกับข่าว จุ๋ยสวดมนต์ ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลให้น้อง เราทำได้ในส่วนที่เราทำ เราอยากให้น้องมีความสุขในส่วนของน้องที่อยู่ในภพภูมิในตอนนี้ “

ส่วนพุฒ พุฒิชัยที่เคยละครเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิวกับแตงโม แล้วทำไมไม่ไปที่งานแสดงความไว้อาลัย  “ขอบอกตรงนี้นะครับ ในวันที่พี่แตงโมตกเรือแล้วยังหาไม่เจอ วันนั้นถ่ายละครยังคุยกับพี่ๆ คุยกับจุ๋ยเลยว่า ขอให้เจอ ขอให้มีปาฏิหาริย์ พอมาทราบว่าเจอพี่โมแล้วเราก็เสียใจ พี่โมเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เรากับจุ๋ยเสียใจมากๆ กับการจากไปของพี่แตงโม มีคนเข้ามาว่าเราเยอะมากเลยครับ ทำไมพุฒไม่ไปงานศพพี่โม คือตัวพุฒเองมีภารกิจ ภาระหน้าที่  มีละครที่ต้องถ่าย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ ก็เลยไม่ได้ไป

ตอนนี้มันไปกันใหญ่มากๆ แล้วเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้น อยากขอร้องทุกคนที่เสพข่าวจากทางไหนก็แล้วแต่ อยากให้มีสติกันนิดหนึ่ง เราเองเราก็มีความรู้สึก เราเจอแบบนี้เราก็รู้สึกแย่ อีกเรื่องที่เราสองคนไม่อยากออกมาพูดตรงนี้ แต่วันนี้อยากเล่านิดหนึ่งเหมือนกัน คือเราสองคนอยู่ในช่วงกำลังเตรียมตัวมีน้องกัน คุณหมอแนะนำว่าอยากให้หลีกเลี่ยงในการไปที่ที่คนเยอะๆ ด้วย เพื่อที่จะเซฟที่สุดในวิธีการทางแพทย์เพื่อที่จะมีน้อง“

ด้าน จุ๋ย วรัทยา เสริมต่อว่า “จริงๆ ต้องบอกว่าการไปร่วมงานเราทราบมาว่าต้องมีญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทแฟนคลับคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาก ที่จะต้องไปร่วมงาน ทราบมาว่าเขาอาจจะต้องลงทะเบียนหรือมีความยุ่งยากในการตรวจ ATK ในลักษณะที่เราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการที่อยู่รอบนอก เรารู้สึกว่าเราอยากจะให้พื้นที่นั้นให้กับคนที่เขาสนิทกับน้องโมจริงๆ คนที่น้องโมอยากจะเห็นหน้าเขาจริงๆ ค่ะ แล้วก็ไม่ไปทำความเดือดร้อน ไม่ไปแย่งพื้นที่ในการที่จะร่วมไว้อาลัยกับน้องเป็นครั้งสุดท้าย ถามว่าเราดูไหม เราดูภาพจากบรรยากาศในการไลฟ์ในวันนั้นอยู่แล้ว รู้สึกว่างานสวยงามจังเลย และทุกคนที่ไปพูดถึงน้องในทางที่ดีมากๆ เลย ซึ่งในลักษณะของการเป็นรุ่นพี่ในวงการ เรารู้สึกว่าเราชื่นชมในความกตัญญู แล้วก็ชื่นชมโมในความที่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งแข็งแรง แล้ววันนี้ที่ตัดสินใจมาพูดเรื่องนี้ก็คืออยากให้เป็นเหมือนสังคมได้เห็นว่า บางทีการอินเกินไปหรือการมีส่วนร่วมในการคอมเมนต์แต่ไม่ได้รู้เรื่องในชีวิตของเราสองคนจริงๆ ว่าเราสองคนต้องเผชิญอะไรบ้าง

เอาจริงๆ แล้วจุ๋ยก็อยู่ในโปรเซสที่ห้ามเครียดเลย เราก็ต้องดูแลตัวเองไม่ให้ติดโควิด ถ้าสมมุติว่าจุ๋ยติดโควิดทุกอย่างที่จุ๋ยทำมามันจะสูญเปล่าหมดเลย จุ๋ยใช้เวลาเป็นปีๆ ในการทำเรื่องแบบนี้ แต่ว่าจุ๋ยก็ไม่สามารถอธิบายได้ในรายการแฉ ดังนั้นวันนี้ก็เลยอยากมาบอกให้ฟัง จริงๆ ไม่อยากร้องไห้แต่ว่ามันเกิดเรื่องในขณะที่จิตใจเราอ่อนแอมากๆ ด้วยความที่จุ๋ยก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ติดโควิด อะไรหลายๆ อย่าง คุณพุฒเองเขาเป็นคนที่อยู่กับจุ๋ยตลอดทั้งวัน เขาก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อให้เขาไม่นำความเสี่ยงมาให้จุ๋ยดังนั้น อะไรที่เราตัดความเสี่ยงไปได้ การไปรวมกลุ่มกับคนหมู่มาก ร้อยคนขึ้นไป สองร้อยคนขึ้นไป เราก็จำเป็นจะต้องทำในบทบาทหน้าที่ของความเป็นเราค่ะ แต่ถามว่าเราใจดำหรือไม่ได้รู้สึกสูญเสียหรือเสียใจต่อการจากไปของน้องมั้ย มันไม่จริงเลย ก็เลยอยากจะมาบอกให้ฟัง

อีกอย่างหนึ่งคือ อยากให้ใช้สติในการคอมเมนต์ ตอนนี้มันลามไปถึงต่างชาติคือชาวเวียดนาม จุ๋ยก็ไม่สามารถสื่อสารกับเขาได้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ก็ค่อนข้างอึดอัดกันพอสมควร แต่ก็อยากให้คนไทยเข้าใจในความเป็นเรา 2 คน และขอยืนยันตรงนี้ว่าเรา 2 คนไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับคนในวงการ หรือนอกวงการ หรือว่าพี่น้องที่เป็นนักแสดงเลย และคิดดีกับทุกคน ครั้งนี้ถึงมันจะทำให้จุ๋ยเสียใจและตกใจ แต่จุ๋ยพยายามไม่โมโห ไม่โกรธ ไม่เคืองกับข้อความใดๆ ขออภัยให้กับทุกคน ไม่ถือโทษโกรธ อโหสิกรรมให้หมดทุกอย่างนะคะ ขอให้ตรงนี้เป็นอภัยทาน และไม่อยากให้ห่วงกรรมหรือเศษกรรมที่เกิดจากการทำร้ายจิตใจกัน พูดไม่จริงต่อกัน ส่อเสียดต่อกัน ใช้วาจาที่ไม่เป็นมิตรต่อกัน จุ๋ยอโหสิกรรมให้ทุกคนที่คอมเมนต์มา ที่พูดมา ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆ จากแฟนคลับ และคนที่ใกล้ชิดที่เข้าใจในความเป็นตัวเรา ว่าเราไม่เคยมีจุดประสงค์ไม่ดีกับใคร และก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่ได้เคยรู้สึกกับใครที่ไม่ดี ส่วนเรา 2 คนชื่นชมน้องในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ในฐานะลูกกตัญญูคนหนึ่ง ในฐานะผู้หญิงที่ต่อสู้กับคำว่าร้าย กับสิ่งที่ต้องโดนในโซเชียลคนหนึ่ง เราเข้าใจมากๆ”