'ไบร์ท วชิรวิชญ์' พูดครั้งแรก หลังมีชื่อเอี่ยว Forex 3D

หลังมีคลิปและภาพของพระเอกคนดัง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ร่วมเฟรมกับ อภิรักษ์ โกฎธิ CEO Forex 3D แถมยังมีเพจดังออกมาเปิดเผยว่า หนุ่มไบร์ท ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้มีการลงทุน Forex 3D ด้วย จำนวนเงิน 775,000 บาท ล่าสุดหนุ่มไบร์ทได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่ช่องวัน31 ผ่านรายการวันบันเทิง

โดยเผยว่าได้รู้จักกับ อภิรักษ์ โกฎธิ ซีอีโอ Forex 3D ตอนอายุ 15 ปี รู้จักกับ นิคโก้ ทำรายการด้วยกัน เลยทำให้ได้รู้จักกับอภิรักษ์ บางวันที่ต้องกลับบ้านดึกที่ จังหวัดนครปฐม ก็เลยขอไปนอนบ้านนิคโก้ ซึ่ง นิคโก้อาศัยอยู่กับ อภิรักษ์ ที่เห็นมีคลิปร้องเพลงเล่นกีต้าร์ร่วมกัน นั่นคือวันแรกที่ได้เจอกัน ซึ่งความสัมพันธ์กับอภิรักษ์ ณ ปัจจุบันนี้ ไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ตั้งแต่มีเรื่องนี้ขึ้นมาอีกฝ่ายก็หายจากวงสังคมเพื่อน ติดต่อไม่ได้

จุดเริ่มต้นการลงทุน FOREX 3D ไบร์ทเผยว่าตอนนั้นทุกคนรอบตัว ก็ลงทุนตรงนี้ เห็นเป็นปีๆ ว่ามันได้เงินจริง เลยรู้สึกว่าน่าจะโอเค น่าจะเชื่อถือได้ เงินก้อนแรกที่เอามาลงทุน ขอแม่มา 5 หมื่นบาท ในวันแรกได้จริงๆ ได้มาเรื่อยๆ ทำให้ตอนนั้นงานทุกชิ้นที่ทำ รายได้ต่างๆ ที่ได้รับ ก็จะเก็บและเอาลงทุน  เพราะในตอนนั้นรู้สึกว่านี่คือการลงทุน คิดว่าคือการออมเพื่ออนาคต

ยอมรับว่าตอนนั้นเชื่อมากถึงขนาดบอกแม่ เอาเงินประกันมาลงเลย เรียกว่าเงินนั้นเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัว คือเงินก้อนใหญ่ที่บ้านมี และก็เสียไปกับตรงนั้นทั้งหมด เป็นเงิน 775,000 บาท และตอนที่  Forex 3D เริ่มมีปัญหาแรก ยังสามารถติดต่อกับอภิรักษ์ได้ แต่อีกฝ่ายก็จะพูดให้มั่นใจตลอดว่ามันยังอยู่ในกระบวนการ 

“เขาจะมีเหตุผลของเขา เราก็เชื่อสนิทใจ เพราะเขาคือพี่ที่เรารู้จักตั้งแต่เด็กอายุ 15-16 เหมือนเราอยู่ใกล้ เรายิ่งไม่เห็นความจริง  (ตอนนั้นรู้ตัวหรือยังว่าตัวเองโดนหลอก) ผมน่าจะรู้ช้ามากๆ ครับ ด้วยความที่เราอยู่ใกล้ คนอื่นมองเข้ามาอาจจะเห็นภาพรวมความจริงว่ามันคือการหลอกหลวง คือการฉ้อโกง แต่สำหรับผม เราแค่รู้สึกว่าเขาน่าจะมีปัญหาและจัดการได้ กว่าผมจะรู้จริงๆ คือผมว่าคนอื่นน่าจะรู้กันหมดแล้ว คือเราเห็นนะ แต่เราไม่เชื่อ  มันคือความโลภครับ ผมรู้สึกว่าวันนั้นมันคือความโลภที่มันบังตา ถ้ามองดีๆ เราจะเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเร็วขนาดนั้น

 (มีลูกข่ายที่มาจากการชักชวนของไบร์ทหรือไม่) ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องภายในเลยครับ ถ้าเอาจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมก็คือเหยื่อที่มาลงกับเขาตรงนี้ ถามว่าชักชวนใครไหม มันไม่ได้มีการชักชวนเกิดขึ้นเลย คนที่มาเล่นส่วนใหญ่ก็เป็นคนใกล้ตัวผม เป็นคนที่ผมรักทั้งนั้นก็คือ แม่ เพื่อนสนิท และถ้าผมทราบว่ามันคือการฉ้อโกง ถ้าผมรู้ว่ามันคือการหลอกลวงผมไม่มีทางปล่อยให้คนที่ผมรัก แม่ มาเสียหายตรงนี้ด้วย อย่างตัวผมเองถ้าผมรู้ผมก็คงเอาเงินออกมาหมดแล้ว ไม่มาทิ้งไว้จนเงินทั้งครอบครัวผมจะเสียหายอย่างนี้

ทำไมไม่แจ้งความ  คือวันนั้นมันคือการตัดสินใจของเราเอง มันคือการพลาด ไม่ได้อยากจะไปกล่าวโทษใครเลย คือไม่ได้มีใครชักชวน เราเห็นเขาทำแล้วมันได้ เราก็พุ่งไปเอง ไม่ได้อยากกล่าวโทษใคร แต่ ณ วันนี้ ผมพูดเลยว่าถ้าเกิดว่าทางเจ้าหน้าที่ DSI จะให้ผมให้ข้อมูล ไปเป็นพยาน ผมพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เลยครับติดต่อมาได้เลยครับ

ยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวไม่สบายใจเลยครับ ความเครียดมันไม่ได้ตกอยู่ที่ผมแค่คนรอบตัวหรือแม่ คือเรารู้สึกว่า ณ วันนั้นเราเครียดกับผลกระทบที่มันเกิดขึ้น พอวันนี้มีข่าวอีกก็หนักมาก ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณคนที่เชื่อใจ ขอบคุณแฟนๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผม อยากจะขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดกับตัวผม อยากจะให้เป็นบทเรียนกับทุกๆ คนเลย ไม่อยากให้ใครต้องมาถูกหลอก ไม่อยากให้ใครจะต้องมาเสียหายกับเรื่องแบบนี้ ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนครับ“