'สร ชลนสร' เผยเบื้องลึกความสนิทเด็กไทยกับ 'แบมแบม-ลิซ่า' ในวงการเกาหลี

สร-ชลนสร สัจจกุล หรือ "สร CLC" ไอดอลสาวชาวไทยที่ไปโด่งดังในวงการ K-Pop อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง CLC โดยล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวดราม่าที่ผ่านมาในชีวิต หลังออกจากค่ายเพลงเกาหลี เคว้งถึงขนาดเคยคิดจะเลิกร้องเพลงออกจากวงการ และบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีต พร้อมเล่าถึงความสนิทกับกลุ่มเด็กไทยในวงการเกาหลีอย่าง ลิซ่า และ แบมแบม ฯลฯ

วันนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะพี่ไม่เคยคุยกับสรแบบเป็นทางการเลย สรไปเดบิวต์ที่เกาหลีตอนนั้นอายุเท่าไหร่ ?
สร : เดบิวต์ตอนนั้นอายุ 18-19 ปี

ช่วงเวลาผ่านไป ได้เป็นศิลปินแก๊งค์เด็กไทยที่ไปอยู่เกาหลีด้วยกัน เจอกันได้ยังไงเพราะว่าต่างคนก็ต่างไป กลายมาเป็นกลุ่มที่มีไลน์กรุ๊ปกันได้ยังไง ?
สร : ก็คือตอนที่สรกำลังจะย้ายไปที่เกาหลี ตอนแรกสรเรียนร้องเพลงกับครูโรจน์ แล้วครูบอกสรว่าที่เกาหลีมีน้องที่ไปแล้ว 2 คน ก็คือน้องที่ชื่อ แบมแบม และ น้องลิซ่า ไปแล้ว ซึ่ง ลิซ่า กับ แบมแบม เคยเรียนกับครูคนอื่นที่อยู่ภายใต้ครูโรจน์ ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเอาคอนแทคให้ พวกยูไปติดต่อกันเองจะได้มีเพื่อนอยู่ที่โน่น ตอนนั้นสรอายุห่างจากแบมแบมกับลิซ่าแค่ปีเดียว ก็เลยได้ไลน์มาแล้วก็ทักไป แล้วตอนที่เราเป็นเด็กฝึกหัดพวกเราทุกคนจะได้วันหยุดคือวันอาทิตย์ ตัวค่าย JYP Entertainment กับ Cube Entertainment ตึกอยู่ข้างๆ กัน เวลาเรากินข้าวเที่ยงก็ต้องไปกินข้าวที่เดียวกัน แล้วสรเจอแบมตั้งแต่ตัวเล็กๆ สรก็เลย เอ๊ะ! น้องคนนี้แน่เลยที่ชื่อแบมแบมก็เลยเข้าไปทัก

ก็เหมือนเขารู้กันอยู่แล้วว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาก็เลยเป็นเพื่อนกัน ส่วนลิซ่าก็คืออยู่ YG Entertainment ก็ทักเขาไปว่าเราเพิ่งมาถึงเกาหลี เขาก็เลยบอกว่าถ้าวันอาทิตย์ถ้าว่างเจอกัน ตอนนั้นก็อายุ 14-15 เด็ก 2 กันไปนั่งกินข้าวกัน ส่วน มินนี่ เป็นเทรนนี่คนไทยคนต่อไป ต่อจากสร พอน้องเข้ามาบริษัทตอนนั้น สรก็เดบิวต์แล้ว ค่ายก็บอกว่าจะมีเด็กใหม่ช่วยไปดูให้หน่อย พ่อกับแม่น้องเขาก็เป็นห่วงน้อง ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาก็จะเห็นมินนี่เหมือนเป็นน้อง เทคแคร์น้องตลอด ส่วนพี่นิชคุณ ทุกคนก็รู้จักกันอยู่แล้ว และในกรุ๊ปไลน์ก็จะมี เตนล์ อีกคนหนึ่ง ซึ่งเราก็จะรู้จักผ่านเพื่อนๆ คนอื่นเหมือนกัน ก็เลยสร้างไลน์กรุ๊ปขึ้นมาให้เพื่อนได้คุยกัน ก็เลยกลายเป็นกลุ่มเพื่อนซี้แก๊งค์หนึ่งที่อยู่ในวงการเดียวกัน

มาเจอกันบ้างไหมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ?
สร : เจอกันบ้างนะคะ แบบจะไปกินข้าวบ้านใคร หรือไปกินข้าวที่ร้านอาหารไหน แต่ว่าด้วยความที่ทุกคนยุ่ง บางทีก็เจอกันไม่ครบบ้าง บางทีก็เจอกัน 3 คน บางทีก็เจอกัน 4 คน บางทีเจอกันแค่สาวๆ อะไรอย่างนี้

เวลาอยู่ด้วยกันแก๊งค์ไทยที่โน่น จะพูดภาษาเกาหลีหรือภาษาไทย ?
สร : (หัวเราะ) คือเวลาอยู่ด้วยกัน เคยแซวกันเองว่าถ้ามีใครมาเห็นเราคุยกันเขาคงหมั่นไส้เนอะ เพราะว่าเราจะพูดอังกฤษคำ ไทยคำ เกาหลีคำ คือพูดแบบสลับภาษา บางทีคุยกันเองยังงงเลยค่ะ เพราะว่าเหมือนสลับกันไม่ทันจน สรคิดว่าโชคดีมากๆ ที่มีเพื่อนในวงการเดียวกันที่ประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะว่ามันทำให้เราเห็นสเกลว่าถ้าเราจะได้ดีมากๆ มันต้องเป็นแบบนี้ แต่ถ้าแบบไม่ดีเลยมันจะเป็นแบบนี้ สรเห็นสโคปของดีที่สุดและไม่ดีที่สุด เรารู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรต้องทำอะไรบ้าง สรก็หยิบตรงนั้นมาเป็นการเรียนรู้

ตอนที่จะเลิกตอนนั้นชีวิตก็ไม่น่าจะเหมือนตอนแรก เชื่อว่าสรคงเจอเรื่องราวมากมาย ที่อาจจะไม่เคยเปิดใจเล่า ตัวตนของเราเองกับการเป็นคนดัง มีหลายเรื่องที่อาจจะไม่เข้าตา หรือทำให้บางคนไม่ชอบ คุณนึกถึงเหตุการณ์ไหนเกี่ยวกับตัวตนในอดีตที่ผ่านที่รู้สึกว่ามันสอนเรา ?
สร : ในอดีตสรก็มีประเด็นค่อนข้างเยอะ แบบว่าทำอะไรไม่คิด

เป็นเพราะว่าสรได้คอนโทรลตัวเองในโซเชียลมีเดียด้วยหรือเปล่า ?
สร : ใช่ค่ะ พอเราเริ่มเปิด Instagram เปิด Tiktok เปิด Youtube ค่ายเขาจะไม่ค่อยคอนโทรลเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ ก็เลยกลายเป็นว่าเวลาเราจะลงอะไรทำอะไรได้เองหมดเลย มีอิสระในการลง ตัดภาพมาตอนนี้ก็เลยกลายเป็นคนที่รอบคอบมากขึ้นมากกว่าก็คือเรียนรู้จากอดีต จากที่เราเคยลงโน้นลงนี่ก็กลายเป็นว่าไม่ค่อยอยากจะลงมากเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยที่จะเปิดเผยว่าตัวเองคิดอะไรทำอะไรอยู่ เพราะว่าเรากลัวว่ามันจะผิดจังหวะอีก

ตัวตนของสรเป็นแบบไหน ?
สร : เป็นคนที่อินโทรเวิร์ตมากๆ เป็นคนที่เก็บเนื้อเก็บตัว แล้วก็ไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่น เพราะว่าไม่ค่อยมีพลังในการไปสุงสิงกับคนอื่น แต่ว่าเป็นคนที่มีสวิตซ์ในการ เปิดและปิดด้วยความที่อาชีพด้วยเนอะ เลยกลายเป็นว่าถ้าต้องเปิดก็เปิดไปเลย ถ้าต้องปิดก็คือจะเงียบๆอยู่คนเดียว ค่อนข้างเซนซิทีฟ มีอีโมชั่นเยอะ เป็นคนหลายอารมณ์มาก ที่บ้านพี่ๆที่โตมาด้วยกันก็จะชอบพูดว่าสรเป็นเด็กที่ติสมาก บางทีก็อารมณ์ดี บางทีก็อารมณ์ไม่ดี แล้วเป็นคนที่ชอบทำงานมาก เวลาที่ไม่มีงานก็จะหางานให้ตัวเองทำ จะไม่มีวันที่อยู่บ้านเฉยๆ เวลาที่ไม่ทำจะรู้สึกว่าตัวเองถอยหลังไม่ทันเขา มันเป็นมายเซ็ทที่ทำให้สรช่วยผลักตัวเองเรื่อยๆ วันที่ไม่มีงานหรือไม่ทำอะไรเลยเราจะเสียเวลาไป 1 วันในการที่จะเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้น ด้วยความที่เดี๋ยวนี้มีดาราเซเลปและอินฟลูเอนเซอร์เยอะ เราก็จะรู้สึกว่าเหมือนเราค่อยๆ เฟดหายไป

ที่ผ่านมาเคยรู้สึกไม่แฮปปี้กับตัวเองไหม ตอนออกจากค่ายช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เคยมีแว๊บว่าฉันหลงทาง ไม่รู้จะไปไหนต่อไหม ?
สร : มีแว๊บบ่อยนะ ช่วงที่พอออกมาจากค่ายเก่าก็รู้สึกว่าเราไม่ใช่ K-pop อีกต่อไปแล้ว เพราะว่าเราไม่มี CLC ก็เลยคิดว่าหลังจากเกาหลีจะไปอยู่ไหนดี เราไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปแล้ว เราก็ไม่ได้ออกเพลงภาษาเกาหลี เพราะฉะนั้นเราไม่เมคเซ้นส์ที่จะเรียกตัวเองว่า K-pop อีกต่อไป แล้วตัวสรเองก็ชอบเพลงแบบแนวป๊อบมากกว่า เพลงฝรั่งมากกว่าก็เลยอยากจะไปอยู่ตรงนั้น ก็คิดในใจว่าโอเคอยากไปอยู่ LA ถ้าใครติดตามอินสตาแกรมสร จะรู้ว่าสรเป็นคนชอบ LA มาก อยากอยู่อยากมีชีวิตที่โน้น อยากทำเพลงที่โน้น เวลาไปทีไรจะมีความสุขเกินเบอร์มาก คือตัวอยากไปอยู่ แต่ถามว่าในแง่ของอาชีพไปอยู่ได้หรือยัง แต่คุณมีตลาดหรือยัง มีคนดูหรือยัง ยังไม่ได้มีใครฝั่งโน้นที่จะรับรองเรา เอเจนซี่ บริษัทที่คอนเฟิร์มได้ว่าคุณจะสามารถไปสร้างอาชีพตรงนั้นได้หรือยัง ถ้า LA ไปอยู่ไม่ได้ก็ต้องกลับไทย
แต่ช่วงที่ออกมาจาก CLC ก็มีประเด็นมาเรื่อยๆ แล้วที่ไทยก็ยังมีคนที่ไม่ชอบเราอยู่เยอะ เลยคิดในใจว่าถ้ากลับไทยต้องเครียดหนักเลย กลัวว่า ณ ตอนนั้นยังมีคนอยู่เยอะที่เขาไม่เอาเราแล้ว คนไม่ชอบเราเยอะจนขนาดพี่แฟนคลับชาวไทยต้อง DM มาบอกเราว่าน้องสรไม่อยากซัพพอร์ตแบบโจ่งแจ้งเกิดไป เพราะว่าเขาก็กลัวว่าจะโดนคนอื่นๆ โจมตีเขา เขาเลยบอกพี่ขอส่งเป็น DM ละกันนะคะ อยากจะบอกน้องว่ายังคงซัพพอร์ตน้องเสมอไม่ว่าน้องจะทำอะไรแต่ช่วงนี้กระแสกับความเข้าใจผิดของคนมันเกินเลยไปมากกว่าที่พี่จะมานั่งแก้ให้ทีละข้อ เลยคิดว่าสงสัยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะกลับไปที่บ้านเกิดของตัวเอง ตอนนั้นเป็นช่วงที่โหว่งมาก แต่เราก็ยังไม่อยากจะทิ้งความฝัน ตอนนั้นคิดว่ามีความสามารถก็จริงแต่ถ้าไม่มีตลาดไหนหรือประเทศไหนที่ซัพพอร์ตเรามันก็อยู่ไม่ได้ หรือว่าเลิกดีนะ ก่อนที่จะมาเซ็นกับ WILD Entertainment ตอนแรกสรบอกกับทุกคนไว้แล้วว่าเลิกดีกว่า จนมาเจอ WILD Entertainment โชคดีจังหวะดีมากอยู่ดีๆ มีงานที่สิงคโปร์เข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็ไปเจอโปรดิวส์ที่ถูกใจ ก็ลองทำเพลงมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นทุกวันนี้

ใน 10 ปีที่ผ่านมาคุณมีความรักบ้างไหม คุณเป็นแฟนประเภทไหน ?
สร : หนูเป็นคนที่ชอบดูแลคนมาก และมีความสุขมากเวลาได้ดูแลแฟนตัวเอง ทุกคนที่คบมาจะคบกันนาน 2-3 ปีขึ้นหมดเลย เป็นคนที่ชอบความสัมพันธ์ที่จริงจัง ที่มั่นคง แล้วชอบคนที่สามารถซัพพอร์ตเราทางด้านงาน จริงๆ แล้วเป็นคนที่ชอบเทคแคร์คนอื่น ไม่ใช่แค่แฟนคือทุกคนที่อยู่รอบข้าง มีความสุขกับการได้ช่วยเหลือคน

ส่วนใหญ่เป็นคนไทยหรือต่างชาติ
สร : ยังไม่เคยคบคนไทยเลยค่ะคบแต่ต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นเกาหลีเชื้อสายอเมริกันมากกว่า ไม่เคยคบเกาหลีด้วย ไม่เคยคบคนไทบจ๋า ตอนนี้สเปคไม่รู้ว่าเพราะโตขึ้นหรือเปล่า แต่ในตอนนี้คือไม่ได้มีสเปคด้วยนะ อารมณ์แบบว่าถ้ามันคลิกกันก็คือคลิกกันไม่แคร์ว่าเป็นชาติอะไร ตอนนี้ยังโสดค่ะ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เกิดไม่ใช่คนที่แบบออกไปหา คือเราตั้งใจและมีความสุขกับการทำงานดีกว่า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'DE GIFT' (เดอ กิฟท์) เตรียมปล่อยของ โชว์ Performance ที่เวียดนาม

เพิ่งเดบิวท์เปิดตัวซิงเกิล “จะแคร์เพื่อ "Who Cares?" มาบุกตลาด T-Pop ได้ไม่ทันไร ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ไฟแรงวง 'De GIFT’ (เดอ กิฟท์) ภายใต้สังกัด Just Dance Entertainment ที่มาพร้อมกับแนวเพลง Pop Dance & Performance อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตัวแทนของหญิงสาวยุคใหม่ที่พร้อมจะนำเสนอตัวตนและความมั่นใจในแบบของตัวเอง

'บิ๊ก D Gerrard' รับเคยท้อจนคิดสั้น ใช้ดนตรีเป็นที่พึ่งจนประสบความสำเร็จ

จากชีวิตในวัยเด็กของ "บิ๊ก D Gerrard” หรือ ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบียล เติบโตมาพร้อมกับความเข้มงวดของครอบครัว โดนกลุ่มเพื่อนวัยเด็กบูลลี่ และทำร้ายร่างกาย

'แจ็คสัน หวัง' ศิลปินจีนคนแรกที่ขึ้นโชว์โคเชลลาเป็นครั้งที่ 3

ศิลปินหนุ่ม Jackson Wang (แจ็คสัน หวัง) ปรากฏตัวบนเวทีของงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ อย่าง Coachella Music Festival ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งล่าสุดเขาได้ร่วมแสดงโชว์ให้กับศิลปินวง Number i ในเพลง 'GOAT (Jackson Wang Remix)' และศิลปินสาว BIBI ในเพลง ‘Feeling Lucky'

เอ็นดู 'WONDERFRAME' จากนักร้องสู่ผู้ประสบภัย คนดูฉีดน้ำขึ้นเวทีจนไมค์พัง!

เป็นอีกหนึ่งศิลปิน ที่ออกมาส่งความสุข สาดความสนุกให้กับแฟนๆ ในเทศกาลสงกรานต์ สำหรับนักร้องสาว “WONDERFRAME” หรือ ศุภัคชญา สุขใบเย็น

'พระดล' ฟีเวอร์ 'ปั๊บ โปเตโต้' รับติดใจการแสดง ได้ไอเดียอัลบั้มใหม่ต่อเลย!

นาทีนี้มีแต่คนเรียก “พระดล” กันหมดเพราะกระแสตั้งแต่ภาพคาแรกเตอร์แรกของ “ปั๊บ โปเตโต้ (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข)” จากซีรีส์เรื่อง “สาธุ” ปล่อยออกมา ชวนให้ทุกคนลืมภาพนักร้องไปหมดสิ้น

เซ็กซี่หนักมาก! 'BNK48' ปล่อยเพลง 'Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?'

ทำเอาแฟนคลับร้องว๊าว! หลังจากเปิดตัวพร้อมลุคสุดเซ็กซี่ไปไม่นาน ล่าสุดค่าย iAM ได้ส่ง BNK48 ยูนิต Next Girls หรือสาวๆ ที่แฟนคลับโหวตให้ติดอยู่ในอันดับ 33-48 จากงาน “BNK48 16th Single Senbatsu General Election” ที่ผ่านมา พร้อมปล่อยเพลง “Kurumi to Dialogue - แล้ว…ต้องทำยังไงล่ะ?”