'อิงฟ้า' เจอ 'โรคซึมเศร้า' เล่นงาน

อิงฟ้า วราหะ นางงามมหาชน ออกมายอมรับผ่านรายการคุยแซ่บshow  ว่ามีภาวะโรคซึมเศร้า โดยแพทย์วิเคราะห์ว่าเรื้อรังมาตั้งแต่คุณพ่อเสียชีวิต ที่ตนเองนั้นอายุเพียง 18 ปี และต้องทานยารักษาตัวจนถึงตอนนี้ แถมในอดีตยังเคยคิดสั้น พร้อมเสิร์ชหาวิธีตายที่ไม่เจ็บปวด

“จริงๆ พยายามคิดว่าเราไม่เป็น พยายามไม่ไปหาหมอ แต่มีช่วงนึงที่มีดราม่าหนักประมาณปีที่แล้ว ทุกอย่างของเราก็สรวนมากขึ้น ไม่ว่าจะอารมณ์ คำพูดคำจา คนรอบข้างก็เลยบอกว่าต้องไปเช็กแล้วแหละ ก็เลยไป พอวิเคราะห์แล้วคุณหมอบอกว่าเป็นเรื้อรังตั้งแต่คุณพ่อหนูเสีย คือช่วงอายุ 18 ก็ทานยารักษากันไปจนถึงตอนนี้ค่ะ (ถึงขั้นคิดทำร้ายตัวเองมั้ย) บ่อยมากๆ ค่ะ มันไปถึงขั้นที่เราคิดว่าการทำร้ายตัวเองหรือการคิดสั้นเหมือนเราคิดมาดีแล้ว แต่แค่ยังรู้สึกว่าเรามองข้ามความเจ็บปวดไม่ได้ แค่กลัวความเจ็บ ถ้าการฆ่าตัวตายแล้วมันไม่เจ็บเลย เราก็คงไปนานแล้ว คงไม่มีอิงฟ้า ณ ตอนนี้แล้ว

วิธีการดึงสติ ดึงยังไง น่าจะคนในครอบครัวก่อนเลย คุณแม่จะบอกว่าไม่เป็นไร เคารพทุการตัดสินใจของเรา หนูเคยมานั่งเสิร์ซว่าช่วงเรากลัวความเจ็บปวด การฆ่าตัวตายอะไรบ้างที่ไม่เจ็บ หนูไปเสิร์ซในอินเตอร์เน็ต ก็ขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกกฎหมาย เราก็คิดว่าโอเค วันนึงเราจะทำงานเก็บเงินเยอะๆ เราอยากลองไปประเทศนี้ดู เขาบอกว่าคนไปสวิตเซอร์แลนด์จะมีสองแบบ คือคนคิดสั้น กับคนที่ไปเห็นความสวยงามบนโลกแล้วเปลี่ยนใจ อยากมีลมหายใจต่อไป เราเลยรู้สึกว่าเราตั้งเป้าใหม่ ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้อยากอยู่บนโลกนี้แล้วจริงๆ ลองให้ตัวเองได้ไปก่อน ไปเพื่อพบความสวยงาม

(อะไรทำให้ไม่อยากอยู่) อาจด้วยช่วงนึงที่ชีวิตเราคอมพรีททุกอย่างแล้ว จริงๆ การคิดสั้นของหนูมีมาก่อนเป็นนางงาม พอคุณพ่อเสีย ครอบครัวเราแตกหมดเลย เหมือนอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นมากๆ พอคุณพ่อเสียครอบครัวกระจายไปหมดเลย เราเคว้งมากๆ จริงๆ แต่ที่เรายังไม่ไปสักทีเพราะเราเป็นห่วงแม่ เหมือนคำสั่งเสียของพ่อหนู เรามีพี่น้องสามคน แต่เขาจะฝากหนูแค่คนเดียวว่าฝากแม่ด้วย เราก็ยังไปไม่ได้ เรายังเป็นห่วงของเราอยู่ แต่ปีที่แล้วที่ดราม่าหนัก เราก็คิดว่าเรามีเงินจำนวนนึงที่แม่เราคงไม่ลำบากแล้วแหละ ไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วงแล้ว ณ ตอนนั้นที่เราคิดว่าเราอยากคิดสั้น เรารู้สึกว่าเราใช้ชีวิตทำไมมันเหนื่อยจังเลย เหมือนเราต้องพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลา เมื่อไหร่เราจะได้หยุดนิ่งใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปสักที ต่อให้อยู่ในวงการหรือทำงานอะไรก็แล้วแต่ เราสามารถอยู่ด้วยความสุข  แต่พอผ่านตรงนั้นมาได้ เราก็ภูมิใจ และดีแล้วที่เราไม่ได้ตัดสินใจในวันนั้น”