'ณวัฒน์-แอน' โชว์กอดอวดสื่อ ประกาศจับมือลุยวงการขาอ่อน

วงการนางงามสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดแถลงข่าวเป็นผู้ถือสิทธิ์จัดการประกวด MISS UNIVERSE THAILANDอย่างเป็นทางการ กินรวบตลอด 5 ปี (ปี 2568 – 2572) ด้วยวงเงิน 180 ล้านบาท โดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ประธานกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พร้อมด้วย แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ CEO of Miss Universe Organization (MUO) ร่วมแถลงข่าว

ซึ่งแน่นอนว่าข่าวนี้สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแวดวงนางงามเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้ ทางบอสณวัฒน์ มีความรู้สึกหมางใจกับเวที MUT มานาน รวมถึงเคยมีเรื่องผิดใจกับ แอน จักรพงษ์ อีกด้วย ซึ่งบนเวทีบอสณวัฒน์ได้เผยว่านี่คือสิ่งที่ตนรอคอยมา 14 ปี  “วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ผมรอคอย ผมใช้ความพยายามกว่า 14 ปี เพราะเชื่อว่าการดูถูกหรือการแข่งขันในตลาดสากลของ Beauty Pageant เป็นการต่อสู้ของประเทศมหาอำนาจกับประเทศที่กำลังพัฒนา ผมจึงไม่ละความพยายาม โดยมีความมุ่งมั่นอยู่เสมอ จากนี้ไปเราคงพูดถึง Miss Universe ได้เต็มปากและเต็มหัวใจ จากที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ มา 14 ปี”

นอกจากนี้ยังได้เปิดในกับสื่อฯ ต่อว่า “เราคุยกันมาระยะหนึ่ง  ก็เหมือนเพื่อน เหมือนพี่เหมือนน้อง ไปมาหาสู่กัน ทำงานด้วยกันเยอะ ตามประสาเพื่อนมันก็อาจจะมีบ้างที่น้อยใจ ก็อาจจะมีเป็นบางโอกาส ก็ยอมรับ แต่มันไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นอย่างนั้นตลอด แล้วเราเคยทำงานด้วยกันตั้งแต่คุณแอนกลับมาจากออสเตเลียใหม่ๆ ก็เลยคิดว่าเราน่าจะคุยกัน ใช้เวลาพอสมควร แต่เพิ่งเป็นทางการเมื่อวาน ก่อนหน้านี้เราก็ต้องเกียรติคนเดิมในการใช้สิทธิ์ในการถือลิขสิทธิ์ จริงๆ ผมเจอคุณพอลล่า ชูการ์ (อดีตประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส) มาก่อน เวทีนี้เป็นเวทีศักดิ์สิทธิ์ เราเคยมองแล้วก็คิดว่าเราอยากทำมันให้ดีที่สุด แต่ว่าโอกาสมันไม่ถึง ผมต้องขอบคุณคุณแอนที่ไปกระชากจากคนอเมริกันมาอยู่ในมือคุณแอนได้ อันนี้มันยากมาก

(ลงทุน 180 ล้านบาท) จ่ายไป 180 เมื่อสักครู่รับมา 115 ล้าน ไม่รวมพีดี MUT อีก ตอนนี้ก็ไปหลายสิบล้านแล้ว ผมคิดว่าก่อนที่เราจะจัดประกวดในปีนี้คิดว่าคุ้มทุนเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็เป็นกำไรไปแล้วกันนะครับ แต่ที่สำคัญที่สุดต้องบอกทางผู้ถือหุ้นทุกท่านด้วยว่าเรามิได้เพิ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น เราไม่ได้ทำอะไรในเรื่องกลยุทธทางการเงิน เราใช้เงินที่เรามีอยู่จ่ายไป 180 ล้าน

(เวที MUT จะทับซ้อนกับ MGT มั้ย) ไม่ทับซ้อนหรอกครับ ถ้าผมไม่ได้ทำคนอื่นก็ทำ คนอื่นเขาก็ต้องมีวิธีหาเงินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันไม่ได้บดบังกัน ผมเข้าไปทำอีกอันหนึ่ง ผมจะไปขยี้ให้รายได้มันพอกพูนยิ่งขึ้น บอกเลยครับในเมืองไทยมันสามารถทำให้มันเป็นเงินเป็นทองได้ อย่างสปอนเซอร์ที่เราเห็น เป็นไปได้เหรอ 30 ล้าน เราเป็นบริษัทมหาชนนะ เราไม่กล้าผิดเรื่องตัวเลขแม้แต่ตัวเดียว อาจทำให้เราหลุดจากตลาดหลักทรัพย์ได้ ผมขอโอกาสนี้มาพัฒนามิสยูนิเวิร์สให้เป็นเนื้อเป็นหนัง ที่ผมเข้ามาไม่ใช่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อย่างเดียว หลังจากเราคุยไปคุยมา กลับไปนั่งคิดทำไมเราประทับใจละก็สงสาร ทำไมเธอจะต้องวุ่นวายอยู่คนเดียว ทำไมคุณแอนจะต้องเอาทุกอย่างใส่หัวขนาดนี้กับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ ทำให้รู้สึกว่าเราพร้อมจ่าย อยากซัพพอร์ต เขามีของดี มีทิศทางดี แต่เหมือนมีขยะลอยมาหาเขาอยู่เรื่อย ก็เลยบอกให้เขาทิ้งขยะลงไปบ้าง

และสำหรับเจ้าภาพเราได้มีการคุยกันเบื้องต้น คุณแอนมีความชัดเจน บนเวทีจะมีการพูดถึงประเทศไทย พูดเรื่องการท่องเที่ยว มันก็ตอบโจทย์ชัดเจนว่าอะไรที่เราซัพพอร์ตได้เดี๋ยวเราต้องไปคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ก็ช่วยดูหลายๆ อย่างให้ทาง MUT แต่รอให้ประกาศอย่างเป็นทางการจริงๆ ก่อน เพราะคณะกรรมการความเสี่ยงต้องมาประเมิน เราไม่ได้ตัดสินใจแค่ลำพังแต่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเลข และการประกวดทั้ง 2 เวที มีความแตกต่างกันแน่นอน สำหรับ MGI คือ คนบ้า เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์ แต่ MUT จะเหมือนกับการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น เราอยากได้ผู้หญิงที่หาความสวยแบบแผ่นดินสยาม แต่ภาษาอังกฤษต้องพอสื่อสารได้”