
ผู้กำกับชื่อดัง ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้เดินทางไปยังสำนักการสอบสวนและนิติการวังไชยา เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบและเพิกถอนสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โดยตั้งข้อสงสัยถึงการบริหารเงินทุนจาก ทักก้า (THACCA) หรือ Thailand Creative Content Agency หลังจากที่เจ้าตัวพยายามสอบถามข้อมูลจากทางสมาคมฯ แต่ไร้คำตอบ จึงขอให้ภาครัฐช่วยตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส
“เรียกว่าแค่ลองตรวจสอบดูเฉยๆ สมาคมฯ เมื่อก่อนมันก็เก็บเงินสมาชิกธรรมดา ไม่ได้มีเงินก้อนใหญ่อะไร แต่ตอนนี้พอสมาคมฯ ได้เงินจากทักก้า ซึ่งมันอาจจะถึง 100 ล้านได้ เราก็เลยสงสัยว่าเขาจะจัดการ เรื่องเงินเรื่องบัญชียังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้ไม่มีการแจงบัญชีอะไรเลย ถามไปถามไปแล้วเขาก็เงียบ ถามทั้งเหรัญญิก ถามทั้งนายกสมาคมฯ เขาก็ไม่ตอบอะไร ก็เลยจำเป็นต้องให้ทางกรมการปกครองเป็นคนช่วย พี่ไม่ได้สงสัยเรื่องจำนวน พี่สงสัยเรื่องการจัดการ การดูแลในสมาคมฯ นี้ใครรับผิดชอบใครดูแลแค่นั้นเอง แล้วความถูกต้องในกฎของสมาคมฯ นี้มันคืออะไร คือการตรวจสอบนี้จะไปทั้งหมด ตรวจสอบย้อนหลัง เขาน่าจะตรวจสอบได้ดีกว่า เพราะเราขี้เกียจไปถาม เรามีอย่างอื่นทำไง ก็เลยโยนภาระให้เจ้าหน้าที่รัฐก็แล้วกัน
(ได้ถามไปทางสมาคมฯ หรือยัง) ก็ถามทางสมาคมฯ ถามเมื่อวานนี้แหละ ถามว่าเงินจากทักก้าเข้ามาเท่าไหร่ เพราะว่าจากที่เห็นในเอกสารของ OFOS เขาเรียกโครงการ OFOS มันมี 170 ล้าน ก็เลยถามว่าเข้าบัญชีสมาคมฯ เท่าไหร่ แต่ไม่มีใครตอบ ก็ไม่รู้จะถามยังไง ถ้าเขาไม่ตอบ จะให้พี่ทำยังไง (อะไรที่ทำให้เราสงสัยจึงอยากตรวจสอบ) พี่อยู่ในสมาคมฯ นี้มานาน แล้วก็ไม่ได้สนใจ จนมันเริ่มมี เรื่องของการก่อตั้งทักก้า แล้วก็มีชื่อของสมาคมฯ เข้าไปรับงานอะไรหลายอย่างมาก พี่ก็ดูๆ อยู่ ครั้นพอหลังจากที่ ทักก้าโดนยุบหรือเปล่าพี่ไม่รู้นะ แต่ว่ามีคนเริ่มตรวจสอบเรื่องเงิน เส้นทางการเงิน เราอยู่ในสมาคมฯ เราก็เป็นห่วง ถ้าเกิดเราเป็นกรรมการอยู่ ไม่โดนหางเลขไปด้วยเหรอ ก็เลยถามหน่อยว่ามันยังไง
มีรุ่นพี่ที่อยู่ในสมาคมฯ เขาเคยตักเตือนกลุ่มที่ดูแลสมาคมฯ ไม่ว่าจะเลขาหรือเหรัญญิก แต่ว่าการทำงานกับภาครัฐ เรื่องเงินต้องทำให้ถูกต้อง ไม่เหมือนการทำม็อบนะ มันไม่เหมือนการทำกิจกรรมกันเอง เก็บเงินสมาชิกแล้วเอาเงินสมาชิกมาบริหาร เงินสมาชิกมันไม่ใช่เงินภาษีของประชาชน ตอนนี้เงินที่ได้มาจากทั้ง การท่องเที่ยวแล้วก็ทุกกรมในนามของทักก้ามันเป็นเงินของเงินภาษีประชาชน พี่มองว่าการทุจริตในองค์กรของตัวเองมันไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันมีการทุจริตเงินภาษีของรัฐ อันนี้มันหนักเราก็เลยเป็นห่วง ก็เลยถามไปก่อน พอถามดันเหมือนมีพิรุธ ไม่ตอบ เราก็ว่ามันไม่ใช่ล่ะ

เมื่อผลประโยชน์มันไม่เยอะ มันเก็บเงินเฉพาะเงินสมาชิกพี่ไม่ค่อยได้สนใจ แล้วพี่ก็ไม่ได้จ่ายเงินค่าสมาชิก ออกมาน่าจะหลายปีแล้ว แต่พี่เป็นห่วงแค่ว่ามันมีกรรมการที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในนั้น เขาอาจจะไม่รู้เลยว่าพวกคุณทำอะไรกัน มันมีคนบริหารกลุ่มใหม่ แล้วกลุ่มใหม่ส่วนใหญ่ก็รับเงินจากทักก้า ซึ่งในเงินของทักก้าพี่ก็ไม่รู้ว่าเงินมาจากไหนบ้าง (มีเงินเข้ามาเยอะมั้ย) OFOS เท่าที่เขาเห็นที่เขาตั้งขึ้นมาในงบเนี่ย OFOS เป็นทุนที่ให้เอามาพัฒนาบุคคล เปิดเวิร์กช็อปเปิดสอนโน่นนี่นั่น ซึ่งโครงการนี้มันรับในนามสมาคมฯ น่าจะประมาณ 21 โครงการ กับ 12 โครงการครับ ถ้าโครงการละ 3 ล้านมันก็ 30 กว่าล้านเข้าไปแล้ว อันนี้แค่ OFOS นะ แล้วมันยังมีทุนอีกหลายอย่างที่ไปเมืองนอก ไปเปิดบูธไปเปิดตัวอะไรพวกนี้อีก น่าจะถึง 100 ล้านแน่ๆ
พี่ไม่ได้สนใจเรื่องทุจริต พี่สนใจเรื่องคุณจะบริหารจัดการเงินนี้ยังไง เข้าใครรับใครออก มันผิดกฎไหม เพราะว่าในในลักษณะถ้าคุณเป็นองค์กรของภาครัฐ คุณเป็นกรรมการ คุณเป็นอนุกรรมการ คุณไม่ใช่เอาเงินตั้งโปรเจกต์แล้วเอาเงินเข้ามาแล้ว เอาเงินให้บริษัทตัวเอง ให้ชื่อตัวเอง อันนี้มันจะกลายเป็นทุจริต แต่พี่ยังไม่ได้ตรวจสอบไปถึงการทุจริตนะ พี่ให้ทางกรมการปกครองเขาดูแลในเรื่องว่า การจัดการในสมาคมองค์กรของประชาชนเขาทำยังไงแค่นั้น
ทักก้าเขามีคนวิเคราะห์ว่าองค์กรนี้มันเป็นแค่ชื่อ แต่เงินทั้งหมดที่ออกในนามซอฟต์พาวเวอร์จะฝากผ่านกระทรวงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวหรืออะไรต่างๆ ที่ตรงหน่วยโน้นหน่วยนี้ทีเพื่อส่งมาตั้งอยู่ในงบกลางของทักก้าซึ่งดูแลโดยนายกรัฐมนตรี แล้วงบพวกนี้ก็จะถูกแบ่งไป เป็นสมาคมนั่นตั้งโปรเจกต์มาก็จ่าย ซึ่งในสายภาพยนตร์และซีรีส์ สมาคมฯ เอาชื่อสมาคมภาพยนตร์ไปรับเยอะมาก 20 -30 โครงการ (ที่อนุมัติทำหนัง) ไม่ใช่ทำหนังคือมันหลายอย่าง คือเงินอาจจะได้มากับผู้กำกับในสมาคมฯ ได้ไปเที่ยวเมืองนอก ได้จัดสอน แต่ถามในวงการอุตสาหกรรม แล้วอย่าบอกว่าหนังเรื่องผีใช้ได้เรื่องเดียวเป็นที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่มาจากคานส์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่รางวัลของเทศกาลหนังที่เมืองคานส์ สมมุติคุณลงเงินไปพันล้านแล้วได้หนังมาแค่นี้ พี่ว่ามันไม่มีประโยชน์
(การใช้เงินผิดวัตถุประสงค์มั้ย) ผิดวัตถุประสงค์พี่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ พี่ถามแค่ว่าพวกคุณจะจัดการเรื่องบัญชียังไงของสมาคมฯ แค่นั้นเอง (ยื่นกรมการปกครองคาดหวังยังไงบ้าง) ต้องให้นักข่าวคอยตามว่าไปถึงไหนล่ะ มีเรื่องทุจริตไหม พี่เป็นผู้กำกับเฉยๆ พี่ไม่ใช่ตำรวจต้องคอยไปตรวจสอบสมาคม (คือเรามายื่นตามระบบ) ใช่ เขาเรียกสิทธิหน้าที่ของพลเมืองดี คือบางทีคนส่วนใหญ่ในสมาคมก็เถอะ เวลาเห็นเรื่องที่ดูเหมือนจะผิดปกติ ส่วนใหญ่ไม่กล้าพูด แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป กลัวอะไรก็ไม่รู้ แล้วค่อยมาด่าทีหลัง มันไม่มีประโยชน์หรือเปล่า (วันนี้ความคาดหวังเป็นยังไง) ก็แล้วแต่กรมการปกครอง ระบบตรวจสอบของภาครัฐ เข้มแข็งแค่ไหน มีนอกมีในไหม
(เรื่องงบที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรม คิดว่าใช้ได้ไกลแค่ไหน) เรามองว่าถ้าเขาใช้ 3,000,000,000 บาท ถ้าจะให้เป็นผลจริงๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ ก็ขนผู้กำกับทั้งประเทศมาทำหนังพันล้านสักแค่เรื่องเดียว ทำให้ประเทศไทยดัง คนเก่งๆ ผู้กำกับสัก 100 คน พันล้านเรื่องเดียวแล้วจะส่งไปไหนก็ได้ จะได้เห็นผลชัดๆ อยากทำหนังแนวไหนโปรโมตอะไรก็ทำเรื่องเดียว ถ้าเก่งจริง แต่ก็ไม่มีใครทำแบบนั้น กลับไปปาร์ตี้ข้างนอก ไปจัดเวิร์กช็อปบ้าบอ
ที่หลายคนมองว่าเราไม่มีพื้นที่ในการทำหนัง พี่ไม่เคยต้องการงบเวลาทำ ไม่เคยร้องขอภาครัฐ จะบอกว่าจะทำหนังดีไม่เกี่ยวเงินน้อย ถ้าผู้กำกับเก่งหนังจะดี 10 บาทมันก็ทำได้ มาอ้างเรื่องรัฐไม่สนับสนุน คนเก่งไม่ต้องการการสนับสนุน มันเป็นของมันเองได้ ลิซ่าเคยขอเงินรัฐเหรอ แล้วพอการที่เขาให้งบมา ในมุมมองของเราคือมันตีกรอบอยู่แล้ว เขาให้งบมาก็ต้องทำตามงบ ทำตามนโยบาย ซึ่งเรามองแค่ว่าเอาเงินพันล้านมาลงกับคนที่มีความสามารถมันไม่เวิร์ก เงินพันล้านมันไม่สามารถทำให้ผู้กำกับไทยเก่งขึ้นได้ พวกนี้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเจ๋งมันเจ๋งด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เราไม่ได้มองว่างบที่ถูกนำมาใช้มันนำมาใช้ผิดวิธี เราไม่ได้สนใจว่าจะใช้วิธีไหน เราสนใจแค่ว่าจัดการเงินยังไงให้มันถูกกฎหมาย แต่ถ้าถามเราเรื่องภาพยนตร์ เราไม่ได้ต้องการงบ เราบินไปเมืองนอกเราใช้ตั๋วของตัวเอง ไม่เคยมาโอดโอยว่าไม่ได้รับการสนับสนุน ไม่เคยมีปัญหากับเซ็นเซอร์ด้วย พวกผู้กำกับมันปัจเจก มันใช้กฎไม่ได้ โดยเฉพาะกฎของเงิน ไปใช้เงินแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมาคมผู้กำกับฯ' โต้เดือด 'ต้อม' ลาออกแล้วไม่มีสิทธิถาม
หลังจากที่ผู้กำกับชื่อดัง ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค เดินทางมาที่สำนักการสอบสวนและนิติการ วังไชยา เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบเพิกถอนสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ล่าสุดทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้โพสต์ภาพจดหมายโต้กลับ ต้อม ยุทธเลิศ พร้อมทั้งเขียนข้อความชี้แจง ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
ลาม! สส.กรุณพล ยุฟ้อง 'ต้อม ยุทธเลิศ' ข้อหาฉ้อโกงปมระดมทุนสร้างหนัง
จบไม่ลง! สส.กรุณพล เรียกร้องคนที่โอนเงินให้ 'ต้อม ยุทธเลิศ' นำไปสร้างหนังต่อต้านเผด็จการ ในโครงการ 'นายทุน 100 บาท สร้างหนัง 100 ล้าน' ฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง เพราะตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ยังไม่มีการสร้างหนังจริง
คุก 6 เดือน 'สส.กรุณพล' หมิ่น 'ต้อม' อ้างรับสารภาพเพราะไม่อยากเสียเวลาไปแลกกับคนแบบนี้
นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าฟังคำพิพากษา ในกรณีที่เคยโพสต์ข้อความพาดพิง และถูกนายยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์ ฟ้องหมิ่นประมาท
'ต้อม ยุทธเลิศ' เผย 'เพชร กรุณพล' รับสารภาพผิดคดีหมิ่น คิวต่อไป 'บุ๊ง' ผู้รับบริจาคเงินม็อบ
นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรม baddirector.nmg ระบุข้อความถึงนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล คู่กรณีคดีหมิ่นประมาทว่า
คิวต่อไป! 'ต้อม ยุทธเลิศ' จัดหนัก 'เพชร กรุณพล' ไม่ต้องมาขอโทษเหมือนไอซ์ รักชนก
นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรม baddirector.nmg ระบุข้อความถึงนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล ว่า คิวต่อไปของพรุ่งนี้ครับ
ชนวนเหตุโกงเงินม็อบ! 'ไอซ์ รักชนก' ขอโทษ 'ต้อม ยุทธเลิศ' คดีดูหมิ่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Rukchanok Srinork ระบุข้อความถึงนายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง คู่กรณีคดีหมิ่นประมาท โดยระบุว่า ข้าฯ นางสาว รักชนก ศรีนอก ขอโทษ




