'ปอร์เช่' จับมือ'เชลล์' เปิด 11 สถานีชาร์จไฟฟ้าพลังสูง สร้างมิติใหม่การเดินทางไกลไร้มลภาวะ

บริษัท ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) และ เชลล์ (Shell) ประกาศเปิดตัว Shell High Performance Charging (HPC) สถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงแห่งแรก ณ สถานีบริการน้ำมันรูปแบบใหม่ ‘Site of the Future’ ต้นแบบสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานระดับโลกแห่งแรกในไทยย่านนนทบุรี สำหรับการมาถึงของสถานี HPC เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการเริ่มต้นโครงการ ก่อสร้างสถานีชาร์จพลังงาน 180 กิโลวัตต์ และ 360 กิโลวัตต์ direct-current (DC) ของ Shell รวมทั้งสิ้นอีก 11 แห่งทั่วประเทศไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เกิดเส้นทางสัญจรที่ปราศจากมลภาวะมุ่งสู่การเดินทางที่ยั่งยืน

เมื่อโครงสร้างเครือข่ายเริ่มดำเนินการในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 สถานี HPC ในประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อเพื่อขยายเครือข่ายสถานี HPC ของ Shell ตลอดทั่วทั้งภูมิภาค โดยจะดำเนินงานร่วมกับสถานีอีก 6 แห่งในประเทศมาเลเซีย และ 3 แห่งในสิงคโปร์ เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนที่ตรงกัน พร้อมเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเดินทางด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จุดเริ่มต้นของการกำเนิดเส้นทางปราศจากมลภาวะ ระยะทางมากกว่า 2,200 กิโลเมตร ระหว่างเขตแดน 3 ประเทศในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 800,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นผสานความร่วมมือพันมิตรกันระหว่าง 2 บริษัทระดับโลกอย่างปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) และ เชลล์ (Shell)  มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตให้เป็นเส้นทางปลอดมลภาวะที่มีระยะทางไกลที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเดินทางสัญจรได้โดยไร้ข้อจำกัด

Dr. Henrik Dreier (ดร. เฮนริค ไดรเยอร์) ผู้อำนวยการ New Business Fields ของ Porsche Asia Pacific กล่าวว่า ปอร์เช่ เรายังคงรักษาคำสัญญาในด้านการขับเคลื่อนอนาคตของการคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉกเช่นเดียวกับการยืนยันเจตนารมณ์อย่างต่อเนื่องเรื่องการลดสารประกอบคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ตามความมุ่งมั่นของเรา และความไว้วางใจที่เรามีต่อ Shell ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจนั้น กำลังนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่ ด้วยการเปิดตัวสถานีชาร์จสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง Shell High Performance Charging ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รวมทั้งเครือข่ายการบริการที่มีระยะทางมากกว่า 2,200 กิโลเมตร เราคาดหวังถึงผลประโยชน์สูงสุดที่ผู้ใช้เส้นทางจะได้รับจากการสัญจรทางไกล ตลอดจนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นอีกแรงสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาเลือกใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น

Amr Adel (อาเมอร์ อเดล) รองประธานกรรมการอาวุโสของ Shell Mobility Asia กล่าวเสริมว่า  ผู้ใช้รถ EV ต่างคาดหวังถึงประสบการณ์ด้านการชาร์จพลังงานที่รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงวิธีในการลดมลภาวะที่เกิดจากการขับขี่ยานพาหนะของพวกเขา เมื่อพรมแดนของประเทศต่าง ๆ ในโลกเปิดกว้าง ผู้ใช้รถยนต์จึงเฝ้าค้นหาสถานีชาร์จพลังงานที่สามารถเชื่อถือได้ โดยเฉพาะการเดินทางสัญจรระยะยาวข้ามประเทศ ด้วยเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง HPC สถานีแห่งแรกของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Shell (เชลล์) คือผู้ให้บริการเครือข่ายการบริการสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้ารูปแบบระหว่างประเทศที่แรกในภูมิภาค นี่คือบริการของ Shell Recharge EV network การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ เป็นการประกาศผนึกกำลังและความสำเร็จระหว่างปอร์เช่ และเชลล์ เพื่อขยายการพัฒนาสถานีชาร์จไฟฟ้าสมรรถนะสูง ระหว่างสิงคโปร์ มาเลเซียและเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อตอบรับความต้องการและความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่รถพลังงานไฟฟ้า ทางเชลล์มีความตั้งใจเป็นอย่างสูงในการรับบทบาทสำคัญสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อพลังงานขับเคลื่อนแบบไร้คาร์บอน โดยการร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรและกลุ่มลูกค้า

ความร่วมมือดังกล่าว ทำให้สถานีบริการ Shell จำนวน 11 แห่งในประเทศไทย จะได้รับการติดตั้งจุดชาร์จพลังงานไฟฟ้า DC chargers ขนาด 180 กิโลวัตต์ และ 360 กิโลวัตต์ สำหรับรองรับระบบการชาร์จประสิทธิภาพสูงในประเทศไทย ให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทาง ที่ไร้ซึ่งมลพิษจากจังหวัดสงขลาในเขตภาคใต้ จนถึงจังหวัดเชียงใหม่ในเขตภาคเหนือ เมื่อใช้งานระบบชาร์จขนาด 180 กิโลวัตต์
รถปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) สามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ 80% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) ในส่วนของการใช้งานระบบชาร์จขนาด 270 กิโลวัตต์ อันเป็นกำลังสูงสุดที่ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) สามารถรองรับได้นั้น จะใช้เวลาลดลงเหลือเพียง 22 นาทีเท่านั้น

แผนผังแสดงภาพอนาคตปี2023 ที่จะมีสถานีชาร์จรถไฟฟ้า จากเชียงใหม่ถึงมาเลเซีย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สนพ.วางเป้าไทยมีสถานีชาร์จEV 567 แห่ง ภายในปี 2030

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เผยผลการวิเคราะห์ตำแหน่งที่ตั้งและจำนวนเครื่องอัดประจุที่เหมาะสมสำหรับแผนพัฒนาสถานีอัดประจุสาธารณะ วางเป้าหมายในปี 2030 ไทยควรมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 567 แห่ง และเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Fast Charge 13,251 เครื่อง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย เน้นเข้าถึงง่าย ต้นทุนเหมาะสม

บริษัทคลังน้ำมันออสซี่ออยล์ เดินหน้ารุกธุรกิจพลังงานเพื่อการเกษตรครบวงจร

บริษัทคลังน้ำมันออสซี่ออยล์ เดินหน้ารุกธุรกิจพลังงานเพื่อการเกษตรครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจน้ำมันเพื่อการเกษตรและโรงไฟฟ้าชุมชน