'อ.เจษฎา' ฟันเปรี้ยง! มันคือ 'ปลาหมอคางดำที่อ้วน' ไม่ใช่ปลานิลที่กลายพันธุ์

31 ก.ค.2567 - ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเจ้าของวังกุ้ง พบ ”ปลานิลคางดำ” ในวังกุ้งคลองด่าน จ.สมุทรปราการ คาดว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างปลานิลกับปลาหมอคางดำ ว่า

มันคือ "ปลาหมอคางดำที่อ้วน" แค่นั้นแหละครับ .. ไม่ใช่ปลานิลที่กลายพันธุ์

เช้าวันนี้มีพาดหัวข่าว กันหลายสำนักข่าวเลย ว่าเจอ "ปลานิลคางดำ" ปลานิลกลายพันธุ์มาจากปลาหมอคางดำ หรือเป็นลูกผสมระหว่างปลานิลกับปลาหมอคางดำ !?

ซึ่งผมว่า มันไม่ใช่ปลากลายพันธุ์หรือปลาลูกผสมอะไรหรอกครับ เพราะดูตามในรูป ในคลิปข่าวแล้ว ก็ปลาหมอคางดำนั่นแหละครับ ... แค่มันกินจนอ้วนใหญ่ จนคนไม่คุ้นตากัน เพราะคิดว่ามันจะต้องผอมเรียวยาวเท่านั้น

จากข้อมูลของที่แอฟริกา ปลาหมอคางดำนั้น ถ้าเติบโตดี อาหารดี จะยาวเฉลี่ย 8 นิ้วนะครับ และสถิติตัวยาวสุดนี่ ถึงขนาด11 นิ้วเลยครับ (และเป็นปลาอาหารชนิดหนึ่ง ของคนในท้องถิ่นครับ)

การจำแนกความแตกต่างระหว่าง "ปลาหมอคางดำ" ออกจาก "ปลาหมอเทศ" และ "ปลานิล" ให้ดูที่ลักษณะจำเพาะของมัน อย่าดูแต่ความอ้วนผอมครับ

โดย ดร.ชวลิต วิทยานนท์ นักวิชาการอิสระ ด้านความหลากหลายของสัตว์น้ำ เคยโพสต์ข้อมูลไว้ว่า ปลาหมอคางดำ หรือ blackchin tilapia (หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Sarotherodon melanotheron) จะมีลักษณะเด่นคือ ใต้คาง มักมีแต้มดำ หางเว้าเล็กน้อย และไม่มีลายใดๆ

ในขณะที่ ปลาหมอเทศ หรือ Mozambique tilapia (ชื่อวิทยาศาสตร์ Oreochromis mossambicus) จะมีแก้ม ในตัวผู้มักมีแต้มขาว หางมน มีขอบแดงเสมอ

ส่วนปลานิล หรือ Nile tilapia (ชื่อวิทยาศาสตร์ O. niloticus) จะมีแก้มและตัวสีคล้ายๆ กัน หางมน และมีลายเส้นคล้ำขวางเสมอ

ซึ่งถ้าพิจารณาดูจากปลาต้องสงสัยในคลิปข่าวแล้ว ก็จะเห็นว่า ไม่ได้มีลักษณะ "ลายเส้นคล้ำขวาง (ตามลำตัว และหาง)" แบบปลานิล ที่จะให้คิดว่าเป็นปลานิลกลายพันธุ์มาคล้ายปลาหมอคางดำ หรือเกิดลูกผสมกัน .

.. แต่มีรูปร่างหน้าตาสีสันไปทางเดียวกับปลาหมอคางดำตามปกติ เพียงแต่ตัวอ้วนกว่าเท่านั้นครับ !
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ปลานิลและปลาหมอเทศนั้น (สกุล Oreochromis) เป็นปลาคนละสกุล กับปลาหมอคางดำ (สกุล Sarotherodon) เลยครับ การที่อยู่ๆ ในเวลาไม่กี่ปีนี้ มันจะกลายพันธุ์มาคล้ายกันได้นั้น ก็เป็นไปไม่ได้เลย

ส่วนการเกิดลูกผสมข้ามสกุล ระหว่างปลานิลกับปลาหมอคางดำนั้น เคยโพสต์อธิบายอย่างละเอียดแล้ว ว่ามีการทดลองทำได้จริงในระดับงานวิจัย แต่ทำลูกผสม F1 สำเร็จได้ในปริมาณที่น้อยมากๆ และไม่มีรายงานว่าเกิดขึ้นในธรรมชาติครับ

ลองอ่านข่าวที่รายงานกันอยู่นะครับ ว่าสมเหตุสมผลแค่ไหนครับ
----------
(ข่าว) เจ้าของวังกุ้ง พาผู้สื่อข่าวตรวจ ‘ปลานิลคางดำ’ คาดกลายพันธุ์จาก ปลาหมอคางดำ ชี้เพิ่งพบในบ่อ ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ว่ามีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน

นายอดิศร จันทร์สุขสวัสดิ์ เจ้าของวังกุ้ง พื้นที่หมู่ 6 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พาผู้สื่อข่าวเข้าไปทอดแห สุ่มจับปลาในบ่อเลี้ยงขึ้นมาดูว่ามีลักษณะผสมกันระหว่าง ปลาหมอคางดำ กับ ปลานิล แล้วกลายพันธุ์เป็น “ปลานิลคางดำ” จริงหรือไม่

จากการทอดแห 2 ครั้ง จับได้ปลาขึ้นมาหลายชนิด คือ ปลากะพง ปลานิล ปลาหมอคางดำ ปลาซักเกอร์ และปลาเป้าหมาย ที่มีลักษณะเหมือนที่ตั้งข้อสังเกตสงสัยว่าจะเป็นปลากลายพันธุ์

ซึ่งมีลักษณะเหมือนปลานิลแต่ที่คางสีดำ พร้อมทั้งได้นำปลานิลตัวโตวางเรียงไว้ด้านบน ต่อด้วยปลานิลตัวเล็ก และปลาต้องสงสัยว่ากลายพันธุ์อยู่ล่างสุด โดยปลาทั้งสามตัวมีรูปร่างลักษณะเหมือนกัน แต่ตัวล่างสุดที่คางมีสีดำ

นายอดิศร กล่าวว่า ปลานิลจะมีลักษณะตัวอ้วนกลม คางไม่มีสีดำ ปากจะยื่นยาวแหลมกว่าปลาหมอคางดำ ที่ตัวผอมยาวหัวโต

ส่วนปลาต้องสงสัยว่ากลายพันธุ์ ตัวอ้วนกลมเหมือนปลานิล แต่ที่คางมีสีดำเหมือนปลาหมอคางดำ ตอนนี้ในบ่อเลี้ยงเพิ่งพบปลาลักษณะนี้ ยังไม่รู้ว่าถ้าหากเป็นปลาที่กลายพันธุ์จริง ๆ จะมีผลกระทบกับเกษตรกรอย่างไร...

ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มานำตัวอย่างไปวิจัยถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ถ้ามีผลเสียมากกว่าจะได้หาแนวทางป้องกันได้ทันเวลา ไม่ส่งผลกระทบสร้างปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นอีก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เก็บตกจากงานเสวนา...กรมประมงชี้ปลาหมอคางดำลดลงชัดเจน สะท้อนผลสำเร็จมาตรการบูรณาการทั่วประเทศ

กรมประมงรายงานสถานการณ์ปลาหมอคางดำจากการสำรวจในพื้นที่ระบาดและพื้นที่กันชนล่าสุด มีความคืบหน้าเชิงบวกจากการดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลสำรวจเดือนกันยายน 2568 พบว่าพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดลดลงเหลือ 17 จังหวัด จากเดิม 19 จังหวัด

กรมประมงเดินหน้าปล่อย “ปลานักล่า” ต่อเนื่อง กทม.บูรณาการทุกภาคส่วนคุมเข้ม “ปลาหมอคางดำ”

กรมประมงยังคงเดินหน้ามาตรการควบคุมและจัดการ “ปลาหมอคางดำ” อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความหนาแน่น และควบคุมการแพร่กระจาย โดยใช้แนวทางบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน

เกษตรกรปากพนังพลิกวิกฤตเป็นโอกาส! ใช้ปลาหมอคางดำเลี้ยงปูขาว ลดต้นทุน-สร้างรายได้ชุมชน

เกษตรกรในอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มอง “ปลาหมอคางดำ” ซึ่งถูกมองว่าเป็นปลาต่างถิ่นชนิดพันธุ์รุกรานในแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็น “ทรัพยากที่มีมูลค่า” ของชุมชน โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในลุ่มน้ำปากพนังมากกว่า 30 ราย ได้นำปลาหมอคางดำที่จับได้ใช้เป็นอาหารเลี้ยงปูขาว แทนการใช้ปลาทะเลสด ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรจากการเลี้ยงปู พร้อมทั้ง

ชะอำเดินหน้าแผนลดปลาหมอคางดำ ซีพีเอฟหนุนปลานักล่า เสริมโอกาสเกษตรกร

เพชรบุรีเดินหน้าบูรณาการองค์กรส่วนท้องถิ่น ชุมชนและชาวบ้านลดและกำจัดปลาหมอคางดำ ตามแนวทาง “เจอ แจ้ง จับ จบ” จัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ทุกเดือนควบคู่กับการปล่อยปลานักล่า

อัยการนนทบุรีมีคำสั่งฟ้อง "ไบโอไทย" มีมูลใช้ภาพเท็จ

วันนี้ 10 ก.ย.68 -- ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานอัยการ จังหวัดนนทบุรี ว่า อัยการจังหวัดนนทบุรีได้มีคำสั่งฟ้อง นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการ มูลนิธิชีววิถี หรือ Biothai และมูลนิธิ

ตำรวจสมุทรสงคราม ปิ๊งไอเดีย ฝึกทักษะหมัก ‘น้ำปลาหมอคางดำ’ ช่วยบำบัดคนเสพยา

สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสงครามเกิดไอเดียสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิด “ใช้ปัญหาเป็นเครื่องมือแก้ปัญหา” นำปลาหมอคางดำ มาใช้เป็นสื่อกลางในบำบัดและฟื้นฟูผู้เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านการ ฝึกทักษะการหมักน้ำปลา เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน รวมถึงต่อยอดเป็นทักษะอาชีพที่ช่วยสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น