'วันนอร์' เผย 5 โมงเย็น 13 ก.ค. เริ่มโหวตนายกฯ แบ่งเวลาอภิปราย ส.ส.-ส.ว. รวม 6 ชั่วโมง

‘วันนอร์’ ระบุ เคาะ 13 ก.ค.เริ่มโหวตนายกฯ 5 โมงเย็น แบ่งเวลาอภิปราย ส.ส. 4 ชม. - ส.ว. 2 ชม. ลั่นขอโฟกัสโหวตรอบแรก อย่าเพิ่งคิดไปถึงรอบอื่น ยันสภาฯ มีหน้าที่หานายกฯ ให้ได้ แนะพรรคการเมืองดึงสติมวลชนอย่าวุ่นวาย

11 ก.ค.2566 - เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวิปสามฝ่ายเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธาน พร้อมด้วยตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและส.ว.ร่วมประชุม โดยใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 12.50 น. นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมระหว่างวิปของ ส.ว.และพรรคการเมือง โดยที่ประชุมหารือประเด็นการโหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งจะมีการอภิปรายและจะมีการโหวตกันได้ในเวลา 17.00 น. โดย ส.ว.ได้เวลา 2 ชั่วโมง และ ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองได้เวลา 4 ชั่วโมงส่วนตัวเชื่อว่าการประชุมมีข้อบังคับอยู่ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยสมาชิกที่เข้ามาประชุมนั้น ตนจะนัดคุยกับตำรวจสภาฯ ในเวลา 15.00 น. เพื่อหารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยจะให้เป็นไปตามประกาศชุมนุมในที่สาธารณะ ขณะที่ประชาชนรวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และพรรคการเมืองก็ควรไปชี้แจงเพราะเชื่อว่าคนที่มาส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ตนเชื่อในเจตนาดีของประชาชนที่อยากเห็นบ้านเมืองได้นายกฯ และเห็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง หากได้นายกฯ ล่าช้า บ้านเมืองก็จะเกิดความเสียหาย ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุน จึงขอให้คิดให้หนักว่าจะทำอย่างไรให้ได้นายกฯ ด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ สภาฯ ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยสมาชิกเท่านั้น แต่ประชาชนที่มาสังเกตการณ์นั้นเราก็จะจัดสถานที่ให้ด้วย

เมื่อถามว่าหากโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ไม่ผ่านในรอบแรก จะสามารถโหวตรอบที่ 2 ได้หรือไม่เนื่องจากมี ส.ว. บางส่วนออกมาท้วงติงว่าสามารถเสนอชื่อได้เพียงครั้งเดียว นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่นายพิธาสามารถแสดงวิสัยทัศน์ก่อนได้ ทั้งนี้ เรายังไม่รู้ว่านายพิธาจะได้รับเสียงโหวตหรือไม่ผ่าน แต่ถ้าไม่ผ่านก็ต้องมาพิจารณา โดยยึดตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ และมติที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยมาแล้วแม้จะไม่เกี่ยวกับกรณีนี้โดยตรง และความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาว่าจะสามารถทำได้อย่างไร ดังนั้นขอให้การพิจารณารอบแรกเสร็จสิ้นเสียก่อน ถ้าไม่ได้นายกฯ ถึงอย่างไรสภาฯ ก็ต้องดำเนินการให้ได้นายกฯ เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง แต่จะเสนออย่างไร กี่ครั้งและคนเดิมได้หรือไม่ ขอให้จบรอบแรกไปก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐสภาผนึก สสส.ชวนคนไทย “ดื่มไม่ขับ ปีใหม่เดินทางปลอดภัย” ช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 25 ธันวาคม 2568 นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา และรองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมสื่อสารรณรงค์ “ปีใหม่เดินทางปลอดภัย ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง”

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี

พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน

ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม

'ธนาธร' กล้าพูด หาก 'พิธา' เป็นนายกฯ สถานการณ์ชายแดนจะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในกิจกรรม “ปิกนิก พรรคประชาชนพบประชาชน ขอโทษจากใจขอไปต่อด้วยกัน”