
“ปิติพงศ์” ระบุพรรคเป็นธรรมให้โอกาส “ก้าวไกล” แก้ตัว ดันสุดทาง “พิธา” นั่งนายกฯอีกรอบ ไม่ติดหากชวดอีก เปิดทางเพื่อไทย หวั่นครั้งนี้อาจมีคู่แข่ง
16 ก.ค.2566 – นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกฯครั้งที่ 2 ว่า วันที่ 18 ก.ค. ทั้ง 8 พรรคจะพูดคุยจะเสนอใครอย่างไรหรือจะเป็นใคร ซึ่งพรรคร่วมให้เกียรติทั้งพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยอยู่แล้ว ในการที่จะเสนอบุคคลเป็นนายกฯ และจากข่าวคิดว่าพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯน่าจะขอโอกาสอีกครั้ง
เมื่อถามว่า มองว่าหากการโหวตครั้งที่ 2 นายพิธายังไม่ผ่านอีก ควรเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่ นายปิติพงศ์ กล่าวว่า ตนเองยอมรับแนวทางนีั แต่ทั้ง 2 พรรคต้องคุยกัน ตนเองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ยินดีสนับสนุน ขอให้เป็นฝั่งประชาธิปไตยเท่านั้น พรรคเล็กอย่างตนเองสนใจเรื่องนี้เป็นหลัก ทั้งนี้พรรคเป็นธรรมและแต่ละพรรคต้องประชุมว่า โหวตครัังที่ 2 ยังยืนยันที่จะสนับสนุนผู้ที่ถูกเสนอชื่อจากพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่ ต้องรอความชัดเจนทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลก่อนเป็นหลัก โดยตนเองยังยืนยันหลักการพรรคอันดับ 1 สมควรต้องมีโอกาส เพราะเขายังยืนยันขอแก้ตัว
เมื่อถามว่า ประชุมวันที่ 18 ก.ค.จะมีเป็นมติเลยหรือไม่หากโหวตเลือกนายกฯครั้งที่ 2 นายพิธาไม่ผ่านอีกจะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ นายปิติพงศ์ กล่าวว่า ตนเองว่าเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลจะต้องรู้ตัวเองและอาจจะขอเองสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เราทำตามมติของทั้ง 2 พรรคอยู่แล้ว ต้องนั่งคุยกัน แล้วก็ต้องกลับมาคำถามที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใคร เพราะมีถึง 3 คน ซึ่งตนเองยังไม่ทราบว่าจะเสนอใครและพรรคเพื่อไทยก็ต้องกลับไปถามมติกรรมการบริหารพรรคหรือ ส.ส .จะเสนอใครที่จะนำมาบอกพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาล
นายปิติพงศ์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่เป็นห่วงไม่ได้ห่วงว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอใคร แต่เป็นห่วงการโหวตครั้งที่ผ่านมาเป็นการเสนอเพียงคนเดียวโดยไม่มีคู่แข่ง การโหวตครั้งต่อไปอาจจะมีคู่แข่ง โดยพรรคการเมืองอื่นเสนอชื่อขึ้นมา ขณะเดียวกันถ้าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเสนอพร้อมกันเราก็จะโหวตลำบาก ก็ต้องพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่สมการจับขั้วทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลง เพราะเริ่มมีกระแสข่าวพรรคพรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรคพลังประชารัฐ นายปิติพงศ์กล่าวว่า ตนเองยังเชื่อมั่นที่พรรคเพื่อไทยพูดกับพรรคร่วมและพูดต่อประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยยังยืนยันยึดมั่นใน 8 พรรคร่วมอยู่ ไม่มีแตกแถว และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนยังยืนยันที่จะยึดมั่นข้อตกลงเอ็มโอยู คงยังไม่ถึงกลายเป็นไปอีกฝั่งหนึ่ง แต่ถ้าเปลี่ยนพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจริง อาจมีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปก็ต้องปล่อยให้พรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าจะยึดข้อตกลงที่มีร่วมกันอยู่ไหมหรือจะเปลี่ยนแปลงไป แล้วแต่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พี่ศรี' ฉับไว! ยื่น กกต. สอบคนนอกครอบงำ พรรคประชาชน
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสให้
เด็กเสียนิสัย! ‘ชูวิทย์’ อบรม ‘ธนาธร’ ปมหากพิธาเป็นนายกฯ ในวันนั้น
“ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” โต้คำกล่าวของธนาธร ชี้เกมชายแดนต้องใช้ประสบการณ์และชั้นเชิง ระบุพรรคประชาชนยังอ่อนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
‘ปิยบุตร’ เผยเบื้องหลัง MOA ปชน.-ภูมิใจไทย เป็นการ ‘ทดลอง’
เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยอมรับเสียใจ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว ชี้เป็นการ “ทดลอง” ภายใต้ข้อจำกัดในระบบการเมือง
ชำแหละปิกนิกขอโทษประชาชน ขอเป็น ‘รัฐบาลพรรคเดียว’ ขอมากไปไหม
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วิจารณ์ปิกนิกขอโทษประชาชนของพรรคประชาชน กรณีแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ตั้งคำถามความเหมาะสมของการจัดกิจกรรมกั
โชคดีประเทศไทยที่ ‘พิธา’ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
คำพูดของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ระบุว่า “ถ้าวันนั้นพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้สถานการณ์จะไม่มาถึงจุดนี้เด็ดขาด” ถูกก
'ชูวิทย์' โพสต์เดือด! จี้ 'เท้ง' หุบปาก ไม่ใช่เวลาหาเสียง ปล่อยทหารปกป้องอธิปไตย
ายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่านักการเมืองหยุดหาเสียง

