'หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน' ปักป้ายระนอง ย้ำต้องใช้ ม.112 จัดการพวกล้มล้างสถาบันฯ

"หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน" นำประชาชนชาวระนองประกาศปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ดึงเป็นโมเดลภาคใต้ "เมืองแห่งความจงรักภักดี" ย้ำให้รัฐบาลใช้มาตรา 112 กับผู้จาบจ้วงล้มล้างสถาบันอย่างเด็ดขาด

17 มี.ค.2565 - ที่บ้านพรรั้ง ต.บางริ่น อ.เมือง จ.ระนอง นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางนิตยา นาโล รองประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันฯ นายทวี ประหยัด ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคใต้ นายยะผาด สัมฤทธิ์ “โต๊ะอิหม่าม” เป็นผู้นำศาสนาอิสลาม นางจันทร์เพ็ญ สุเด็น เลขาคณะทำงานฝั่งอันดามันภาคใต้ นายสุริยา แสวงผล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันจังหวัดระนอง นางดวงใจ จิตต์บำรุงสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพิพิธภัณฑ์บ้านเหมืองแร่นอง นายอภิชา ทองสุย นางประไพ เรืองฤทธิ์ ผู้ประสานงานจังหวัดระนอง และ ประชาชน ร่วมเปิด "หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน"

พร้อมประกาศเจตนารมณ์ขอ“อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ตามแนวทาง “แรมโบ้”นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันจังหวัดระนอง พร้อมจัดกิจกรรมพูดคุยกับสมาชิก และ ประชาชนชาวจังหวัดระนอง ถึงพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทุกพระองค์และร่วมปกปัองสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสิ่งที่ทำให้พวกเรารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากในขณะนี้ ก็คือการออกมารณรงค์ให้คนไทยออกมาปกป้องสถาบันจากกลุ่มคนที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขจากบรรพบุรุษสายเลือดไทยที่มีความคิดที่จะล้มล้างสถาบัน นั่นคือความเจ็บปวดที่พวกเรากำลังได้รับ จากผลแห่งการกระทำของลูกหลานไทยที่เราหวังให้เป็นอนาคตของชาติ ถ้าพวกเรายังคงนิ่งเฉย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะเป็นอย่างไรเราคงรู้อยู่แก่ใจ

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า พวกเราขอเรียกร้องให้ทางรัฐบาลใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้จาบจ้วงและหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งผู้กระทำและผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง อย่าปล่อยให้คนไทยหลายล้านคน ต้องอดสูและยอมไม่ได้ต้องยกทัพมวลชนออกมาขับไล่พวกหนักแผ่นดิน ออกไปจากประเทศไทย ทางพวกเราจึงได้เดินทางมาเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ให้ความรู้ปกปัองสถาบันพระมหากษัตริย์ทางภาคใต้ กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดระนอง เพื่อเป็นโมเดลขยายต่อไปในจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้

"เพราะจังหวัดระนองได้ขึ้นชื่อว่า ระนองเมืองแห่งความจงรักภักดี เพราะประชาชนชาวระนองรุ่นปู่ย่าตายายหรือรุ่นพ่อรุ่นแม่ ยังจดจำได้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2502 และนับเป็นจังหวัดที่ 2 ของการทรงออกเยี่ยมราษฎรทางภาคใต้ในครั้งแรกของรัชกาลของพระองค์ และเป็นครั้งเดียวที่เสด็จระนอง พวกเราชาวหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันจึงเอาจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ นำเรื่องเล่าพระเจ้าอยู่หัวฯมาเล่าสู่กันฟัง ไปตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดต่างๆ" นายอานนท์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์

อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข

ตุลาการภิวัฒน์ นิติสงคราม: จาก 'นั่งลงลูก' ถึงคำพิพากษาที่สังคมตัดสินซ้ำ!

ศาลเคยถูกมองว่าเป็น ตุลาการภิวัฒน์ เมื่อคำพิพากษาพ้องใจกับฝ่ายหนึ่ง และถูกมองว่าเป็น นิติสงคราม เมื่อไม่ตรงใจกับอีกฝ่าย กระทั่งถ้อยคำสั้น ๆ ที่กลุ่มหนึ่งยืนยันว่าได้ยินว่า “นั่งลงลูก” ขณะที่อีกกลุ่มบอกว่า “นั่งลงครับ” ก็ยังถูกขยายเป็นชนวนความระแวง ที่ทำให้ทุกคำพิพากษาไม่เคยหยุดอยู่แค่บัลลังก์ หากยังถูกสังคมตัดสินซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า

เตือน 'ทักษิณ' รอด 1 คดี ไม่ได้แปลว่ารอดหมด!

อดีต สส.นครศรีธรรมราช วิเคราะห์หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ของทักษิณ ระบุอย่าดีใจกันเกินไป ยังเหลืออีก 2 คดีใหญ่ ทั้ง “แพทองธาร” เสี่ยงหลุดเก้าอี้ และคดีชั้น 14 ลุ้นคำสั่งศาลฎีก

เมื่อฝนซา พายุใหญ่ยังตั้งเค้า: คดีทักษิณกับชะตากรรมการเมืองไทย

การรอดพ้นจากคดี 112 ของ ทักษิณ ชินวัตร อาจคล้ายฝนที่ขาดเม็ดลงชั่วขณะ แต่ขอบฟ้ายังเต็มไปด้วยเงามืดของ พายุใหญ่—คดีบังคับโทษในศาลฎีกาฯ ที่รออยู่เบื้องหน้า มิใช่เพียงการตัดสินชะตาชายคนหนึ่ง หากคือการวัดพลังและรอยร้าวของการเมืองไทยทั้งผืน ที่ไม่เคยสมานได้ตลอดกว่าสองทศวรรษ