
“ดังนั้นการสั่งเครื่องขึ้นไปสกัดกั้นมีองค์ประกอบ รายละเอียดมีมาก ในการใช้ดุลยพินิจว่า “เอาหรือยัง” ในการเข้าไปสะกัดกั้นใครสักคนหนึ่ง การส่งเครื่องบินขึ้นไป หมายความว่า อย่าเข้ามา ถ้าเข้ามา เราจะยิง ส่วนการระวังไม่ให้ข้ามแดนสามารถทำได้ 1. ต้องคุ้นชินกับพื้นที่ 2. ต้องศึกษาแผนที่ทางอากาศเป็นอย่างดี”
12 ก.ค.2565- หลังเกิดกรณีเครื่องบินรบเมียนมาโจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดนและบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทยบริเวณอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในห้วงที่ผ่านมาจนทำให้ กองทัพอากาศ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงระบบการป้องกันภัยทางอากาศ และการตอบโต้ไม่ทันท่วงที
ล่าสุด กองทัพอากาศ ปล่อยคลิปความยาว 40.35 นาที ในหัวข้อ HOT ALERT “ภารกิจป้องกันทางอากาศ”ที่คุณยังไม่เคยรู้โดยมี นาวาอากาศเอก ปรกร จีนะวัฒน์ อดีตผู้บังคับฝูงบินสกัดกั้นของกองทัพอากาศ ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทยไปแล้ว พูดคุยกันในมุมมองต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าใครได้รับข้อมูลมาแบบไหน ซึ่งตนในฐานะนักบินรบก็เข้าใจดีหากประชาชนจะไม่เข้าใจ หากเราไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวหรือข้อมูลไม่เพียงพอ
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น รับทราบว่าเครื่องบินที่ตัดเข้ามาในภูมิประเทศที่เหมือนจิ๊กซอว์ต่อกันมีจะงอยโผล่เข้ามา ซึ่งฝั่งไทยเองก็มีจะงอยโผล่ไปหาเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถือเป็นความเปราะบางและเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควรในพื้นที่นี้ การล้ำเขตแดน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 2 เหตุผล 1. ตั้งใจ 2.ไม่ได้ตั้งใจ
ทุกครั้งที่มีการปฏิบัติการเช่นนี้เรดาร์ของกองทัพอากาศมองเห็น ก็ประสานไปกับกองกำลังทางบกที่อยู่ตามแนวชายแดนก็ทราบว่าเขาใช้อาวุธอยู่ในพื้นที่เขา และบินขึ้น-ลงเป็น100เที่ยวบิน กองทัพอากาศและกองกำลังทางบกก็ดูทุกครั้งว่ามีการข้ามแดนมาหรือไม่ ถามว่สแล้วจะ รู้ได้อย่างไรว่าข้ามเส้นมาหรือไม่ข้ามเส้น ก็ต้องถามไปยัง ผู้กำกับเส้น เพราะเรามีกองกำลังทางบก ที่เปรียบเสมือนผู้กำกับเส้น ซึ่งอยู่ตรงเส้นแบ่งพอดีหากแหงนหน้าขึ้นไปตรงๆเขาจะรู้ว่าข้ามหรือไม่แต่ในวันที่เกิดเหตุมีการข้ามแดนมาประมาณนาทีเศษๆและหายไป
เมื่อเราไปดูภาพจากเรดาร์ก็ทราบว่ามีจะงอยอยู่ส่วนบนที่เป็นลิ้มลงมา เครื่องบินบินวนอยู่ ในจังหวะการเลี้ยวเที่ยวสุดท้ายของเขา มีการเลี้ยวซ้ายแทนที่จะเลี้ยวขวาซึ่งจะอยู่ในแดนของเขา แต่เมื่อเลี้ยวซ้ายก็ลำแดนประเทศไทยผ่านจะงอยด้านบนออกไป นั้น คือสิ่งที่ประเทศไทยบอกว่า มีการทำผิดกติกาเกิดขึ้นแล้ว และนอกจากเครื่องบินที่เขาบินออกไปแล้วกองทัพอากาศพบว่ามีเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำบินเข้ามา จึงส่งF-16 ไปแจ้งเตือน
“นี่เป็นการแสดงท่าทีให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาหลุดเข้ามาประเทศไทยไม่ได้ และเราไม่ยอม อย่า ทำเช่นนี้อีกไม่ว่าสิ่งที่เขาได้กระทำไปนั้นจะเป็นความผลั้งเผลอ ผลาดผิด หรือเจตนาก็ตาม อย่ากระทำเช่นนี้กับประเทศไทยอีก
กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินรบไปบล็อคเอาไว้ เรียกว่า การลาดตระเวนรบติดอาวุธทางอากาศ หรือ COMBAT AIR PATROL ( CAP) ซึ่งเราส่งเครื่องบินที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นเครื่องบินเตรียมพร้อม หรือที่เรียกว่า Quick Reaction Alert (เครื่องบิน alert)ขึ้นไป เพราะ 1.ติดตั้งอาวุธ และถังน้ำมัน ที่มีความเหมาะสมกับภารกิจในการขึ้นไปบินลาดตระเวนรบติดอาวุธ ซึ่งถือเป็นการตอบสนองที่รวดเร็ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าไปสกัดกั้นเครื่องบินข้าศึกที่รุกล้ำน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศจะจัดเครื่องบิน alert ประจำอยู่ทั่วประเทศ” นาวาอากาศเอก ปรกร กล่าวและว่า
ส่วนองค์ประกอบการสั่งเครื่องวิ่งขึ้นเพื่อ ทำการเป็นสกัดกั้น 1 . สถานการณ์ตอนนั้น ตามหลักสากลในการป้องกันห้วงอากาศ มีคำว่า DEFCON DEFENSE CONDITION LEVEL1-5 หมายถึง สถานการณ์อยู่ในการเตรียมพร้อม ไม่มีแนวโน้มเกิดความรุนแรง พิจารณาว่าเขาพยายามเป็นศัตรูกับเราหรือไม่ 1 เจตนา หรือ สิ่งบอกเหตุ 2. เมื่อเราส่งเครื่องบินไปสกัดกั้น เครื่องบินที่เข้ามาปกติจะไม่บินลำเดียวเด็ดขาด จะมา 2 ลำขึ้นไป แต่ในวันนั้นเขามาเพียง 1 ลำ และ 3 อาวุธที่เขานำมาคืออะไร ถ้าดูตามข่าว อาวุธติดมากระบอกจรวดเป็นส่วนใหญ่ ไม่สร้างความเสียหายในระดับรุนแรง และมีปืน นอกจากปกติเมื่อบินในพื้นที่ประเทศของเรา จะเปิดเครื่องพิสูจย์ฝ่ายว่าเป็นฝ่ายเดียวกัน หรือ ข้าศึก หากเราจะไปรบกับใครจะไม่เปิดเครื่องนี้ ไม่เช่นนั้น เขาจะรู้รายละเอียดของเราทั้งหมด เช่น บินความสูง ความเร็วเท่าไหร่ มากี่ลำ
สำหรับเงื่อนไขการพิจารณาสั่งเครื่องวิ่งสกัดกั้น คือ 1.วิ่งขึ้นจากสนามบินที่เราเพ่งเล็งหรือไม่ 2.ติดอาวุธอะไรขึ้นมา เป็นอาวุธสุ่มเสี่ยง สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยหรือไม่ 3.ติดถังเชื้อเพลิงสำรองหรือไม่ 4. เครื่องไฟเตอร์ มีการประกอบเป็นหมู่บิน 5.เปลี่ยนแปลงความสูงขึ้น-ลงในเวลาไม่ถึง 10 วินาที
“ดังนั้นการสั่งเครื่องขึ้นไปสกัดกั้นมีองค์ประกอบ รายละเอียดมีมาก ในการใช้ดุลยพินิจว่า “เอาหรือยัง” ในการเข้าไปสะกัดกั้นใครสักคนหนึ่ง การส่งเครื่องบินขึ้นไป หมายความว่า อย่าเข้ามา ถ้าเข้ามา เราจะยิง ส่วนการระวังไม่ให้ข้ามแดนสามารถทำได้ 1. ต้องคุ้นชินกับพื้นที่ 2. ต้องศึกษาแผนที่ทางอากาศเป็นอย่างดี”
นาวาอากาศเอก ปรกร ยังกล่าวถึง ความเปราะบางบริเวณตามแนวชายแดน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของประเทศที่มีเขตแดนติดต่อกัน และไม่ได้ทุกขั้นด้วยแม่น้ำหรือเทือกเขา ใครจะข้ามไปฝั่งไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรามีกองกำลังทางบกคอยประสานงานติดต่อกันอยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพยังไม่พบเหตุละเมิดหยุดยิง ยันห้ามเขมรกลับเข้า 'บ้านหนองจาน'
กองทัพยันยังไม่พบเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 72 ชม. ไทยยึดเคร่งครัด แจงชาวกัมพูชากลับเข้า 'บ้านหนองจาน' ในเขตฝ่ายไทยไม่ได้
'ทอ.' เช็กแล้ว! เที่ยวบิน 'เบลาลุส-พนมเปญ' อย่ากังวลพร้อม 24 ชม.
'ทอ.' เช็กเที่ยวบิน 'เบลาลุส-พนมเปญ' ยันถ้าเติมของและใช้กระทำฝ่ายไทย มีมาตรการตอบโต้-รับมือ ย้ำอย่าวิตกกังวล ชี้ช่วงนี้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
ทอ. ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด ควบคุมพื้นที่บ้านหนองจาน ชี้กัมพูชาไม่จริงใจหยุดยิง สันติภาพไม่เกิด
ทอ. ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด “ บ้านหนองจาน” ห่างจากปอยเปต 25 กม. ชี้ถ้ากัมพูชาไม่จริงใจในการหยุดยิง สันติภาพไม่เกิด ระบุกองทัพไม่มีทางเลือก นอกเหนือจากเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างจริงจัง-ต่อเนื่อง-เต็มกำลังความสามารถ
ทอ. ส่ง F-16 ทิ้งระเบิดทำลายกาสิโนทมอดาซิตี้ หลังพบกัมพูชาเสริมกำลังอาวุธหนักอีกรอบ
ทอ. ส่ง F-16 สนับสนุนปฏิบัติการ "ตราดปราบปรปักษ์" วันที่ 12 ทิ้งระเบิดทำลายกาสิโนทมอดา หลังพบกัมพูชาเสริมกำลังอาวุธหนักอีกรอบ
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย
อดีตนักบินขับไล่ เชียร์ทัพฟ้า เร็ว-รุนแรง-เด็ดขาด จบเกมรบกัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจ ปชช.
‘กัปตันตุ้ย- ปุญณัฐส์’ เชียร์ ‘ทัพฟ้า’ จบเกมรบกัมพูชา ‘เร็ว-รุนแรง-เด็ดขาด’ แนะผนึก 3 เหล่าทัพเปิดปฏิบัติการ ‘ยึดจุดสำคัญก่อนเจรจา’ เร่งปิดฉากสู้รบภายในสิ้นปี สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน

