26 ก.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐนตรี (ครม.) ว่า การประชุม ครม.วันนี้มีเรื่องพิจารณาที่สำคัญ โดยเฉพาะการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการขับเคลื่อนประเทศท่ามกลางวิกฤตที่ยังคงอยู่ในโลก เรื่องแรกคือ มาตรการช่วยเหลือ ลดภาระค่าใช้ครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการใช้เงินกู้ ในปี 64 ต่อเนื่องมา 2 ปีกว่า จนถึงปัจจุบัน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือเยียวยาด้านเศรษฐกิจ ให้แก่ประชาชน ผู้มีรายได้น้อย แรงงานประกันสังคม ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ กว่า 45 ล้านคนวงเงินประมาณ854,000 ล้านบาท รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการจ้างงาน วงเงินประมาณ 280,000ล้านบาท
นายกฯ กล่าวว่า โดยครม.พิจารณาเห็นชอบการเติมเงินช่วยเหลือแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตัง ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนและผู้มีภาวะพึ่งพิงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เป็นระยะเวลา 2 เดือน วงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 400 บาท ตั้งแต่เดือนก.ย. - ต.ค.
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ครม. ยังพิจาณาเห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ให้ใช้สิทธิ 2 เดือนวงเงิน 800 บาทต่อคน โดยใช้ได้ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน โดยทั้ง 2 โครงการ จะเริ่มใช้สิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยให้มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ เศรษฐกิจจะได้ไม่ติดขัด เกิดเงินหมุนเวียนในระบบขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการขับเคลื่อนประเทศ อย่างต่อเนื่องไม่ให้สะดุด และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก โดยเฉพาะการผลักดันบทบาทของประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งตนไม่ได้บังอาจว่าจะใหญ่ที่สุด ดีที่สุด ไม่ใช่ แต่ให้เป็นแห่งหนึ่งของโลก ให้มีความก้าวหน้าให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งครม.เห็นชอบมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมคือ 1. การลดอัตราภาษีประจำปีลงร้อยละ 80 จากอัตราที่กำหนดตามขนาดของรถเป็นระยะเวลา 1ปี สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2565 ถึง 30ก.ย. 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในช่วงดังกล่าวมากกว่า 128,000 กว่าคัน
นายกฯ กล่าวว่า มาตรการที่ 2 การยกเว้นอากรศุลกากร สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ได้แก่ รถยนต์นั่งทั่วไป รถยนต์โดยสารสำหรับไม่เกิน 10 คน รถกระบะแบบพลังงานไฟฟ้าที่ประกอบผลิตในประเทศ ตั้งแต่วันที่ร่างประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31ธ.ค. 2568 ซึ่งปัจจุบันรถยนต์แบบแบตเตอรี่ไฟฟ้ายังไม่มีการผลิตภายในประเทศ แต่เราก็เตรียมการเพื่อสนับสนุนในการผลิตในประเทศไทย โดยทั้ง 2 มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งในหลายมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ตนได้ประกาศเป้าหมายพลิกโฉม การผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และฝุ่น PM 2.5 ในอากาศแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ
นายกฯ กล่าวว่า โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re- Open เพื่อธุรกิจโรงแรมและSuppply Chain ของโรงแรมต่าง ๆ ให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอเป็นเงินในฟื้นฟูกิจการให้สามารถกลับมาดำเนินการธุรกิจต่อไปได้
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ทั้งในระบบและนอกระบบ การลงจากต่างประเทศในเรื่องของการถ่ายทอดเทคโนโลยี การฝึกฝีมือแรงงาน การให้ความรู้ต่างๆ นั้น ครม.ได้พิจารณาและอนุมัติการปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัว สำหรับผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ที่ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายจริงไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ได้มีการปรับมามากกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งปรับครั้งสุดท้ายในปีการศึกษา 2553 ทั้งนี้มีหลายอย่างที่ต้องสนับสนุนเพิ่มเติมต้องใช้เงินหลายพันล้านบาท ซึ่งเป็นภาระผูกพันงบประมาณต่อไปในอนาคต
นายกฯ กล่าวว่า ครม.ได้พิจารณา ร่างแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการพัฒนาประเทศไทย พ.ศ. 2565 – 2570 หรือ AI ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศภาพรวมในวันข้างหน้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' หัวโต๊ะถกชายแดน 'ผบ.ทบ.' เครียด 'บิ๊กต่าย' จัด คฝ.-ตชด. ดูแลพื้นที่
'ผบ.ทบ.' สีหน้าเครียด ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้าน 'บิ๊กต่าย' พร้อมเป็นหน่วยหนุนกองหลัง จัด คฝ.-ตชด. ดูแลพื้นที่ หลัง นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ถกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกฯ ปรับแผน! ถกด่วนหน่วยมั่นคง เลื่อนลงพื้นที่ชายแดนไทย-เขมร
สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งสื่อมวลชน ปรับแผนการเดินทางลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล
หัวหน้าทีมศก.’ไทยก้าวใหม่’ แนะใช้ยาแรงพักหนี้ - ลดดอกเบี้ย
“ดร.บิ๊ก“ชี้ ความเสียหายจากน้ำท่วมสมทบกับภาระหนึ้ครัวเรือน ฉุดเศรษฐกิจไทยซึมยาว ฟื้นตัวยาก
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา
นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

