กพท. เตรียมเชิญ ‘นักบิน–ผู้ช่วยนักบิน’ ถกกรณีนกแอร์ไถลออกนอกทางวิ่ง 3 ก.ค.

กพท.เตรียมเชิญ ‘นักบิน–ผู้ช่วยนักบิน’ถกประเด็นข้อสงสัยกรณีอพยพผู้โดยสารล่าช้า กำชับสนามบิน–สายการบินเร่งคลี่คลายสถานการณ์ คาดสนามบินเปิดใช้งานได้ตามปกติ 4 ส.ค.นี้

2 ก.ค. 2565 – รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุของเครื่องบินสายการบินนกแอร์ที่ประสบเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion) ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) และการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ว่า กพท.ได้เชิญผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์และ ทชร. เข้าชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งกำชับให้สายการบินเร่งแก้ไขปัญหาหน้างานให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด และให้สายการบินสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเข้ามาชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้งกับ กพท.

ส่วนประเด็นด้านการอพยพผู้โดยสาร รวมทั้งการปฏิบัติของภาคพื้น (สนามบิน ดับเพลิง ฯลฯ) ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดการรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ พ.ศ. 2564 ซึ่งกำหนดให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องมีการดำเนินการตามบทที่ 1 ข้อ 13.1 Evaluation of Passenger Evacuation Capability/Emergency Evacuation Demonstrations
ที่ระบุว่า การอพยพผู้โดยสารทั้งหมดออกจากอากาศยานในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องสามารถทำได้ภายในระยะเวลา 90 วินาที ทั้งนี้ การอพยพผู้โดยสารตามมาตรฐานสากลในกรณีฉุกเฉินให้ลุล่วงภายในเวลา 90 วินาทีนี้ ถูกกำหนดขึ้นใช้กับอากาศยานพลเรือนทุกแบบ

ทั้งนี้ในกรณีเกิดเหตุ การตัดสินใจของนักบินในการสั่งการอพยพผู้โดยสารจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะนั้น เช่น หากมีไฟไหม้หรือกลุ่มควัน หรือเหตุที่พิจารณาแล้วว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต ไม่มีทางอื่นนอกจากอพยพโดยทันที (Emergency Evacuation) แต่หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้การควบคุมของนักบินและหลังเกิดเหตุไม่ปรากฏแนวโน้มที่จะเกิดภาวะฉุกเฉินหรืออันตรายต่อชีวิต
อีกทั้งมีปัจจัยอื่นๆ เช่น เวลากลางคืน หน่วยกู้ภัยภาคพื้นยังมาไม่ถึง หรือบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย นักบินสามารถตัดสินใจพิจารณาถึงความปลอดภัยของชีวิตผู้โดยสารเป็นหลักโดยอาจตัดสินใจไม่อพยพผู้โดยสารโดยทันที

ทั้งนี้ เบื้องต้นสายการบินระบุว่า นักบินได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการอพยพในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Evacuation Checklist) รวมทั้งได้ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นของสนามบินขอความช่วยเหลือและลำเลียงผู้โดยสารจากที่เกิดเหตุไปยังอาคารผู้โดยสารอย่างปลอดภัย แต่ระยะเวลาในการอพยพผู้โดยสาร ที่เกิดเป็นประเด็นคำถามทางสังคมถึงความล่าช้านั้น

อย่างไรก็ตาม กพท.มีกำหนดการเชิญนักบินผู้ควบคุมอากาศยานและนักบินผู้ช่วยของเครื่องบินลำที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย เข้ามาสัมภาษณ์ในวันที่ 3 ส.ค. 2565 ด้านการปฏิบัติงานของสนามบินและหน่วยดับเพลิงของสนามบิน กพท.มีข้อกำหนดฉบับที่ 14 ว่าด้วยมาตรฐานสนามบิน หมวด 6 บริการของสนามบิน ส่วนที่ 1 การวางแผนฉุกเฉินของสนามบิน ข้อ 982 ระบุถึงการปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย ณ จุดใด ๆ บนทางวิ่งที่ใช้งานภายใต้สภาพทัศนวิสัยและสภาพพื้นผิวที่เหมาะสม เวลาในการตอบสนองต้องไม่เกิน 2 นาที

อย่างไรก็ตามซึ่งจากการสอบถามข้อเท็จจริงจากสายการบินและสนามบิน พบว่าเป็นไปตามข้อกำหนดข้างต้น คือ ในวันที่เกิดเหตุเวลา 21.10 น. หอบังคับการบินแจ้งหน่วยดับเพลิง ทชร. กรณีการเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง และเมื่อเวลา21.11 น. รถกู้ภัยและรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ แต่ในการอพยพผู้โดยสารออกจากตัวเครื่องบิน กพท. ได้รับรายงานว่าปกติแล้ว ทชร. จะใช้สะพานเทียบอากาศยาน (Aerobridge) ในการขึ้นลงของผู้โดยสาร จึงมีข้อจำกัดเรื่องรถขนส่งผู้โดยสาร

สำหรับการเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุที่ ทชร. สายการบินเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและประสานงานในการกู้และเคลื่อนย้ายอากาศยาน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างการประเมินการเคลื่อนย้ายอากาศยานให้ปลอดภัยที่สุด โดยมีขั้นตอนดำเนินการทั้งเรื่องการสอบสวนและให้เตรียมการเพื่อเคลื่อนย้ายอากาศยาน

โดยทั้งสายการบินและท่าอากาศยานได้ประสานกันอย่างต่อเนื่องและมีการจัดทำแผนตามสภาพหน้างาน และจะต้องมีการปรับปรุงทางวิ่งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานต่อไป โดยสนามบินได้มีการแจ้งให้กับ กพท. ทราบอย่างต่อเนื่องเบื้องต้นระยะเวลา การปิดท่าอากาศยานยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือ 3 ส.ค. 2565

ขณะที่ การดูแลผู้โดยสารในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ กพท.ได้สอบถามกับสายการบินทราบว่าสายการบินได้พยายามดำเนินการตามขั้นตอน แต่เนื่องจากเที่ยวบินเป็นเวลากลางคืนทำให้ไม่สามารถหาอาหารว่างได้และน้ำดื่มมีจำกัด จึงไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง กรณีเรื่องสัมภาระนั้นหน่วยงานสอบสวนได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และได้อนุญาตให้นำสัมภาระออกมาได้

ทั้งนี้ สายการบินนกแอร์แจ้งว่า ได้เริ่มนำสัมภาระของผู้โดยสารออกจากเครื่องบินตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 31 ก.ค. 2565 และได้ประสานให้ผู้โดยสารมารับสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้ว ส่วนสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน มีผู้โดยสารมาแสดงตนขอรับคืนแล้วบางส่วน สำหรับสัมภาระที่ยังไม่มีผู้มาแสดงตนขอรับคืน ยังฝากอยู่ที่ ทชร.

สำหรับเที่ยวบินขากลับจากเชียงรายมายังกรุงเทพ ฯ สายการบินนกแอร์ได้มีการจัดที่พักให้กับผู้โดยสารขากลับและทำการชดเชยผู้โดยสารตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ. 2553 และได้จัดรถเพื่อนำผู้โดยสารมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต่อไป

ส่วนกรณีที่สายการบินได้ออกข่าวไปในเบื้องต้นซึ่งมีประเด็นที่ไม่ถูกต้องนั้น สายการบินจะปรับปรุงโดยให้มีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะออกข่าวนั้นโดยสายการบินออกข่าวใหม่และได้ขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบรวมถึงได้ออกมาตรการชดเชยตามที่เป็นข่าว

ทั้งนี้หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านสิทธิผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนมาได้ที่ https://caat.or.th/complaint/ ทั้งนี้ กพท. ได้กำชับให้สายการบินเร่งแก้ไขปัญหาหน้างานให้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด และให้สายการบินสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเข้ามาชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้งกับ กพท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.สามารถ' ถาม 'กพท.' ไหนว่าจะลดค่าตั๋วเครื่องบิน แนะกำหนดเพดานค่าโดยสารต่อกม.

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ไหนว่าจะลดค่าตั๋วเครื่องบิน มีเนื้อหาดังนี้

'ธนกร' ขอบคุณ 'คมนาคม-กพท.' เร่งแก้ตั๋วเครื่องบินแพง จ่อเพิ่มอีก 8 สายการบิน 60 ลำ

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณี ผู้โดยสารและประชาชนร้องเรียนปัญหาตั๋วเครื่องบินแพงในช่วงเทศกาล ว่า ต้องขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

เอาแล้ว กพท. เรียก ‘นกแอร์’ คุยหลังถูกร้องเรียนปมยกเลิกเที่ยวบิน-เที่ยวบินล่าช้าบ่อย

กพท.เรียก สายการบิน’นกแอร์‘หลังยกเลิกเที่ยวบิน-เที่ยวบินล่าช้าบ่อย กำชับปรับแผนให้เหมาะสมเครื่องบินที่มี ถ้ายกเลิกเที่ยวบินต้องเช่าเหมาลำให้ผู้โดยสาร แนะสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารรับทราบถึงปัญหา

9 สายการบินแห่จดทะเบียนใหม่รับอุตสาหกรรมการบินฟื้น

กพท.เปิดรายชื่อ 9 สายการบินจดทะเบียนใหม่ หนุนภาพอุตสาหกรรมการบินไทยฟื้นตัว การันตีแอร์ไลน์ในไทยยังฐานะการเงินแข็งแกร่ง มั่นใจปี 66 ผู้โดยสารพุ่ง 127 ล้านคน ส่วนปี 67 มั่นใจเป็นปีแห่งการฟื้นตัว