นายกฯ สั่งตั้ง คกก.ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านยาเสพติด ลงโทษข้าราชการให้เด็ดขาด

นายกฯ สั่งตั้ง กก.คณะกรรมการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมนั่งเป็นประธาน ลั่น ดินหน้าทำลายกระบวนการ พร้อมให้ผู้เสพเข้าถึงการบำบัด เยียวยา รักษา

11 ต.ค.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชทานกำลังใจ พระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จากเหตุสลดใจที่เกิดขึ้นที่ศูนย์เด็กเล็ก จ. หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจแก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะรัฐมนตรีร่วมยืนไว้อาลัยประมาณ 1 นาที ก่อนเริ่มการประชุมด้วย

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นการปราบปราบยาเสพติดและกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นที่ จ. หนองบัวลำภู ส่วนหนึ่งมาจากปัญหายาเสพติดและสภาพจิตใจของผู้ก่อเหตุ ทำให้รัฐบาลยิ่งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกัน ปราบปราบยาเสพติดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครอบคลุมทั้งการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพิษภัยยาเสพติดในทุก ๆ ช่องทาง เปิดช่องทางเพิ่มเติม ให้ประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสและแชร์ข้อมูล อีกทั้งทบทวนมาตรการนำเสนอหรือเผยแพร่ภาพ เสียง หรือ บทสัมภาษณ์ หรือข่าวสารรวมทั้งการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเคารพสิทธิ์ของผู้เสียหายและป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

นายกรัฐมนตรีได้ให้เร่งรัดจับกุม ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการผลิตการนำเข้าการนำผ่านและการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และสารตั้งต้นต่างๆอย่างรวดเร็วและจริงจัง ยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด การทำลายยาเสพติดที่ได้จากการยึดโดยเร็ว รวมถึงการทบทวนหลักเกณฑ์การเสนอขอรับพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุน รวมทั้ง การประสาน และให้ความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำจัดแหล่งผลิตยาเสพติดและส่งเสริมอาชีพทดแทน อีกทั้งให้มีมาตรการลงโทษข้าราชการ พนักงานรัฐลูกจ้างรัฐและวิสาหกิจ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

ขณะเดียวกัน เร่งบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้เสพ ให้กลับมาเป็นคนดีและพลังบวกของสังคม ไม่หวนกลับไปติดยาเสพติดอีก การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันครอบครัวอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสังคม รวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพและหางานให้ รวมถึงการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งการเข้าถึงจิตแพทย์ของประชาชนทั่วไปเพื่อบำบัดรักษาผู้ซึ่งมีความเครียด ซึ่งอาจต้องเพิ่มจำนวนจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา อีกทั้งการเยียวยาหรือให้การสงเคราะห์ที่รวดเร็วแก่ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นคดีอาญาด้วย

นอกจากนี้ ยังให้มีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมและพกพาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้มีการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่บังคับใช้อยู่ และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและมาตรการในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่เข็มข้นนี้ด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการบูรณาการการทำงานด้านการป้องกันและปรับปรามยาเสพติด นายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน และรัฐมนตรีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เข้มงวด และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จัดทำระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและครม.ต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้น 'รถไฟฟ้า-รถเมล์' ฟรี 7 วัน! รัฐบาลล้วงงบกลางแก้ฝุ่น PM2.5

นายกฯ สั่งคมนาคม ให้ประชาชนขึ้น 'รถไฟฟ้า - รถขสมก.' ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค. แก้ปัญหา PM 2.5 เตรียมชงครม.ใช้งบกลางชดเชย 140 ล้านบาท พร้อมตั้ง 8 จุตรวจจับควันดำ

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'อำนาจนอกระบบของทักษิณ'

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “อำนาจนอกระบบของทักษิณ" มีเนื้อหา ดังนี้

บี้ 'อิ๊งค์' ปกป้อง 'เอกนัฏ' ล่าไอ้โม่งลงขันเปลี่ยนตัว รมว.อุตสาหกรรม

24 ม.ค. 2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ปกป้อง เอกนัฏ" โดยระบุว่า ติดตามข่าวการตอบกระทู้ถามสด ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ถึงการเลือกปฏิบัติในการรับซื้ออ้อยเผาของ นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย รู้สึกตกใจกับคำตอบของนายเอกนัฏ ตอนหนึ่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีการลงขันจำนวนเงิน 200- 300 ล้านบาท เพื่อย้ายนายเอกนัฎ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการเมืองไทย ที่มีกลุ่มทุนอิทธิพลเหนือการเมือง ใช้เงินลงขันด้วยเงินหลักร้อยล้านบาท เพื่อเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ขอให้กำลังใจนายเอกนัฎ ในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และควรจะเปิดเผยชื่อตัวการลงทุนย้ายนายเอกนัฎออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี หากไม่สามารถเปิดเผยชื่อต่อสังคมได้ ก็ควรนำเรื่องนี้ไปเรียนให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบว่ามีกลุ่มบุคคลหนึ่ง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือการเมือง สามารถใช้เงินทุนโยกย้ายเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้ หากนางสาวแพทองธาร ยังเอาไม่อยู่ เพราะไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็ต้องนำเรื่องนี้ให้ถึงมือของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจทางการเมืองสูงสุด เป็นเจ้าของรัฐบาลตัวจริง และสามารถสั่งการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีได้แต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากเรื่องนี้เป็นความจริง นางสาวแพทองธาร จะต้องปกป้องนายเอกนัฎ เพราะการดำเนินนโยบายห้ามไม่ให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผา เป็นมาตรการป้องกันมลพิษ PM 2.5 ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร แต่ถ้าเมื่อนายเอกนัฎได้ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของนางสาวแพทองธารแล้ว แต่ไปสะดุดต่อ นางสาวแพทองธารในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องรับผิดชอบ และสืบหาตัวไอ้โม่งผู้อยู่เบื้องหลังการลงขัน เพื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมให้ได้ ขอให้สังคมเรียกร้อง กดดันให้รัฐบาล เปิดโปงขบวนการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีออกมาให้สังคมรับรู้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลกลุ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น.

'นายกฯอิ๊งค์' ขอบคุณผู้นำอาร์เมเนีย หนุนเริ่มต้นเจรจา FTA ไทย-ยูเรเชีย

'นายกฯอิ๊งค์' ขอบคุณผู้นำอาร์เมเนีย สนับสนุนเริ่มต้นเจรจา FTA ไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย พร้อมเพิ่มพูนการค้า ดึงศักยภาพ ศก. ร่วมกัน

'เท้ง' ลั่น 'อุ๊งอิ๊ง' ไปหาโอกาสใหม่ใน ตปท.ได้แต่ควรแก้ปัญหาในบ้านก่อน

'เท้ง' ชี้ 'นายกฯ' ไปหาโอกาสใหม่ต่างประเทศทำได้ แต่ควรแก้ปัญหาฝุ่นในไทยก่อน เชื่อ ปชช.เรียกร้อง-รอคอยอยู่ เผย 'ปชน.' เตรียมเสนอ มาตรการที่เป็นรูปธรรม หวังรัฐบาลรับไปดำเนินการ

นายกฯ ยินดีคู่รัก LGBTQIA+ สมรสถูกต้องตามกฎหมาย

นายกฯ แสดงความยินดีคู่รัก LGBTQIA+ สมรสถูกต้องตามกฎหมาย จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ สร้างความเท่าเทียมให้ทุกเพศ เคารพในความแตกต่างทั้งเพศสภาพ เพศวิถี เชื้อชาติ ศาสนา