‘อำนวย’ ชี้บังคับใช้ พรบ.ตำรวจฉบับใหม่ ตร.ต้องเร่งทำความเข้าใจลูกน้อง

16 ต.ค.2565-พล.ต.ท.อำนวย  นิ่มมะโน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565” ระบุว่า สิ้นสุดการรอคอย..   เมื่อมีการลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 ส่งผลให้พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปคือ 17 ตุลาคม 2565 โดยทันที…..

ภาระงาน หลายเรื่องหลายราว จึงตกอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้องเตรียมความพร้อมรองรับการใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ในกรณีที่มีบทเฉพาะกาล และจะต้องใช้โดยทันทีกรณีไม่มีบทเฉพาะกาล……     บางเรื่องก็ต้องรีบเร่งทำความเข้าใจแก่ข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เขาเลือกที่จะไปสังกัดอยู่ในสายงานใดสายงานหนึ่งในห้าสายงานตามมาตรา 61  ด้วยความ พึงพอใจ เต็มใจ สมัครใจ จะได้ไม่เกิดการฆ่าตัวตายกันขึ้นดั่งแต่ก่อนอีก ข้าราชการตำรวจเองก็จะต้องสำรวจตรวจดูตนเองให้แน่ชัดว่ามีความชอบ  มีความถนัดในสายงานใด? เพื่อจะได้ไปเข้าสายงาน  เข้าสังกัด  เข้าค่ายให้ถูกต้อง  เพราะต่อไปการย้ายข้ามสายงานก็ดี….โยกย้ายข้ามกองบัญชาการก็ดี จะทำได้ไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว   และการที่จะยกเว้นกฎกติกาให้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายจะไม่มีอีกแล้ว (ทุกคนอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์การแต่งตั้งอย่างเท่าเทียมกัน) 

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง  ที่กระผมต้องหันมาเขียนเรื่องนี้อีก  ก็เพราะว่าทันทีที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ได้มีข้าราชการตำรวจหลายนายโทรศัพท์มาสอบถามว่าการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะถึงในไม่ช้าไม่นานนี้(น่าจะเป็นหลังการประชุมเอเปค) จะใช้หลักเกณฑ์ใด ซึ่งจากคำถามนี้ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าเขาเหล่านั้นไม่ได้อ่านพระราชบัญญัติฉบับใหม่มาก่อนเลย ซึ่งคำตอบมีอยู่ใน มาตรา 178 ” ในวาระเริ่มแรก ภายในร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ  การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง  ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ”    ก็ย่อมมีความชัดเจนอยู่ในตัวว่าการแต่งตั้งใช้หลักเกณฑ์ เดิมไปอีก 180 วัน (6 เดือน) ซึ่งเรื่องนี้หากท่านใดติดตามความคืบหน้าของพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็จะทราบว่ามีการต่อสู้กันในสภาอย่างถึงพริก ถึงขิง………     จึงขอฝากน้องๆ ลูกๆ หลานๆ ข้าราชการตำรวจทุกนายให้รีบไปศึกษาทำความเข้าใจกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ให้เข้าใจโดยถ่องแท้โดยด่วน  เพราะมันเป็นเรื่องของเรา(ตำรวจ) และทุกข์ สุขของประชาชนโดยตรง….

หันมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติบ้าง   กฎหมายลูก..กฎหมายรอง..ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องรองรับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่นี้ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วหรือยัง!!!     เพราะเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้วต้องใช้ได้จริงจะกล่าวอ้างความไม่พร้อมคงไม่ได้     ในพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้……. ให้มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. ภายใน 240 วัน นับตั้งแต่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้  โดยองค์ประกอบมาจาก ข้าราชการโดยตำแหน่งหรือจากการสรรหา  การคัดเลือก และการเลือกตั้ง ซึ่งล้วนต้องเตรียมความพร้อม     โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิประเภทอดีตข้าราชการตำรวจที่บัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้ง โดยให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผู้กำกับการหรือเทียบเท่าขึ้นไปเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง  ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่จริงๆที่ต้องเร่งเตรียมความพร้อมอย่างจริงจังเพราะองค์ประกอบของ ก.ตร.  จากการเลือกตั้งส่วนหนึ่งไปเป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการอื่นด้วย

ถ้าไม่เตรียมการหรือกระทำอย่างล่าช้าผลที่ตามมาก็จะกระทบกันเป็นลูกโซ่ คำว่าภายใน 180 วัน ไม่ได้หมายความว่า ทำไปเรื่อยๆ ให้เสร็จในวันที่ 180     แต่แปลว่าอย่างช้าที่สุดต้องไม่เกิน 180 วัน   ยิ่งเสร็จเร็ว ยิ่งดี  เพราะคณะกรรมการทั้ง 3 – 4  คณะนี้จะได้ไปขับเคลื่อนพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้เป็นรูปธรรม สมดังเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อบำบัดทุกข์สองทุกข์ คือ  ทุกข์ของประชาชนหนึ่ง และทุกข์ของข้าราชการตำรวจอีกหนึ่ง  ให้ได้ด้วยดีและอย่างมีประสิทธิภาพ  ขอรับ

อนึ่ง ขณะเขียนบทความผู้เขียนมีสติสัมปชัญญะสมประกอบ  ไม่ได้เสพหรือเมากัญชา เพราะนโยบายกัญชาเสรี(แต่บอกว่าใช่ในทางการแพทย์เท่านั้น ..งง) ห้ามนำไปเสพจนเมาแล้วเที่ยวด่า ว่า เกะกะระรานคนอื่นเขา ไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านของเมือง…..