
‘ชัชชาติ’ ถอดบทเรียนอิแทวอน ป้องจุดเสี่ยงวันฮาโลวีน เข้มมาตรการลอยกระทง ห่วงคลองโอ่งอ่างจ่อตั้งศูนย์บัญชาการหน้างานคุมปริมาณคน เล็งบรรจุหลักสูตรซีพีอาร์
31 ต.ค. 2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงโศกนาฏกรรมอิแทวอน เกาหลีใต้ ว่า ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญมากและเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเหตุการณ์ที่อิแทวอน ส่วนหนึ่งเกิดจากที่ไม่ได้จัดงานมา 2 ปี ทำให้มีคนมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้แจ้ง น.ส.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเรื่องนี้ เพราะเทศกาลลอยกระทงเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งไม่ได้จัดงานมา 2 ปี จึงต้องมีมาตรการเรื่องทางเข้าและทางออกอย่างชัดเจน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าเพื่อตรวจนับจำนวนคนภายในงาน ถ้าเป็นไปได้จะให้กล้องซีซีทีวีช่วยจับ โดยมีศูนย์บัญชาการบริเวณทางเข้าทางออก ให้เน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เน้นเรื่องการขายของ รวมทั้งไม่ให้มีการละเล่นในพื้นที่จัดงาน จะให้ออกห่างจากพื้นที่และจัดในที่โล่ง เราไม่ได้กังวลเรื่องการเบียดกันจนเสียชีวิต เพราะการเบียดและตกน้ำอันตรายกว่า ซึ่งทุกเขตที่จัดงานลอยกระทงจะต้องทำแผนเข้ามา
ทั้งนี้ อยากฝากประชาชนทุกคนว่า ต้องระวังตัวกัน เพราะทาง กทม. เอง พยายามจะออกมาตรการที่เข้มงวดที่สุด หากเห็นว่ามีความแออัดก็ให้รอและหมุนเวียนกันเข้าไป อย่างไรก็ตาม ห่วงที่สุด คือคลองโอ่งอ่างที่อยู่ริมน้ำ แต่เรามีกล้องซีซีทีวีคอยจับความหนาแน่นของประชาชนที่เดินทางเข้าออกอยู่ ซึ่งหากตรวจจับได้ว่ามีความหนาแน่นเกินไปก็จะไม่ให้เข้าและให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือรอจนกว่าจะสามารถเข้าได้อย่างปลอดภัย
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สิ่งที่เราเห็นจากเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ จะพบว่าประชาชนสามารถทำซีพีอาร์ได้ ซึ่งทางกทม. ได้สอนในเรื่องนี้ และในอนาคตจะให้โรงเรียนในสังกัดกทมมีหลักสูตรเกี่ยวกับการทำซีพีอาร์อย่างจริงจัง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเกิดเรื่องมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำชับอะไรเกี่ยวกับการจัดงานฮาโลวีนในคืนนี้หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้สั่งการไปหมดแล้ว และช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้สั่งตรวจสอบสถานประกอบการทั้งหมด เพราะเรากังวลเรื่องทางเข้าทางออก จึงต้องเคร่งครัดให้มากขึ้น สภาพพื้นที่ของเราอาจไม่เหมือนที่อิแทวอน แต่มีที่สีลมซอย 2 ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือมีทางเข้าที่แคบและมีร้านค้าหลายร้านอยู่ภายใน จึงต้องไปดูจุดเสี่ยงต่างๆ ตนได้ให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าไปดูจุดเสี่ยงต่างๆ คิดว่าทางเขตมีข้อมูลอยู่ ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือดีมาก ทุกคนเข้าใจว่าหากเกิดเหตุขึ้นมาจะมีความรุนแรงมาก จึงต้องเริ่มตั้งแต่มาตรการป้องกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บวรศักดิ์' ลั่นถอดบทเรียนน้ำท่วมใต้ ต้องนำไปทำจริง ต่อไป ขรก. ใครนิ่งต้องรับผิดชอบ
‘บวรศักดิ์’ ลั่น ถอดบทเรียนน้ำท่วมใต้ต้องนำไปทำจริง ใครนิ่งต้องรับผิดชอบ ไล่ออกโดยไม่ต้องสอบ ตอก ผู้นำฝ่ายค้าน มาบริหารเมื่อไหร่ก็ต้องพึ่งทหาร
นิด้าโพลสำรวจชาวกรุง เช็กผลงาน 3 ปีครึ่งผู้ว่าฯชัชชาติ
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “3 ปีครึ่ง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต
หวังคณะกรรมการถอดบทเรียนหาดใหญ่จบก่อนยุบสภา
'ภราดร' เผย นายกฯตั้ง คกก.ถอดบทเรียนรับมือมหาภัยในอนาคต เชิญนักวิชาการ-เอกชนให้ข้อคิด ระบุ รวบรวมให้เสร็จก่อนยุบสภา
ถอดบทเรียนหาดใหญ่ สู่ป้องกันกรุงเทพ นักวิชาการแนะ ปรับยุทธศาสตร์ลงทุนระบบการบริหารจัดการน้ำ
จากน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และภาคใต้ สะท้อน ความล้มเหลวในการบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ของสังคมไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดผลาดซ้ำเดิมอีก
ปชน.ยังไม่เคาะชื่อชิงผู้ว่าฯ กทม. ไม่ปฏิเสธข่าวทาบ ‘ศิธา’
‘พริษฐ์’ ระบุพรรคประชาชนรอข้อสรุปครบทุกขั้นตอนก่อนเปิดชื่อแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. พร้อมแย้มเตรียมเผยทั้งผู้สมัคร สส. และทีม ครม.-ทีมบริหารของพรรคในงาน

