18 ธ.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลานและจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง
ตามที่ได้มีการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิรินจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง ตามประกาศลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2565 ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขยายผลการปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และสามารถจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งสามารถคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น แต่ปรากฏว่ายังคงมีการก่อเหตุการณ์ร้ายแรงเพื่อสร้างสถานการณ์ อีกทั้งยังพบแหล่งหลบซ่อนและซ่องสุมกำลังพลเพื่อเตรียมก่อเหตุ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการและยังมีความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงด้วยการใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยมุ่งหวังให้เกิดการเกรงกลัวอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนจนไม่อาจดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
จึงสมควรขยายระยะเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของรัฐและของบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาตรการตามพระราชก าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในการแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 11 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง ออกไปอีกเป็นเวลาสามเดือน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2565
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ 269,979 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกูฎไทยชั้
'ก้าวไกล' จี้ 'เศรษฐา' แก้ฮั้วประมูล ให้ตอบกลับเป็นหนังสือลงราชกิจจาฯ
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมเพื่อศึกษาการบริหารงบประมาณ ในการกำหนดหลักเกณฑ์
โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา 12 ธ.ค.66
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน มีเนื้อหาว่า
พระบรมราชโองการ แต่งตั้ง 20 กรรมการมหาเถรสมาคม
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง แต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ 403,981 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยชั้นต่ำกว่าสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๕
โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ 12,582 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทยประจำปี ๒๕๖๕