รบ.เดินหน้าดูแลกลุ่มชาติพันธุ์ ขับเคลื่อนแผนส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม

รัฐบาล เดินหน้าดูแลกลุ่มชาติพันธุ์ ขับเคลื่อนภายใต้แผนส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม (พ.ศ. 2566 – 2570) 

23 ม.ค.2566-น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมของประเทศไทย ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มคนในชาติที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งด้านศาสนาความเชื่อ ภาษา วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายทางด้านชาติพันธุ์ ซึ่งในประเทศไทยมีกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งสิ้น 60 กลุ่ม ประชากรมากกว่า 6 ล้านคน ครอบคลุม 67 จังหวัด ดังนั้น การส่งเสริมให้มีการยอมรับ เข้าใจ เคารพในความหลากหลายและให้เกียรติซึ่งกันและกัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะนำไปสู่ความสมานฉันท์ และความมั่นคงของชาติ ซึ่งขณะนี้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติในฐานะหน่วยงานระดับนโยบายด้านความมั่นคง ได้ดำเนินการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. 2566 – 2570)  เพื่อเป็นแนวทางการเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันของคนทุกกลุ่มทั่วทั้งประเทศ โดยหัวใจของแผนฉบับนี้ คือ การส่งเสริมให้ทุกคนในชาติ ได้รับการการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานและการพัฒนาศักยภาพ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติ มีการบริหารจัดการความหลากหลายภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม

ทั้งนี้ ในระยะแรกจะให้ความสำคัญกับกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งที่เป็นกลุ่มที่อาศัยอยู่บนพื้นที่สูง บนพื้นที่ราบ ในพื้นที่ป่า และกลุ่มที่อาศัยตามหมู่เกาะหรือชายฝั่ง รวมทั้งกลุ่มมลายูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีแนวทางหลัก คือ 1) เสริมสร้างให้เกิดการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข บนการเคารพและ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน 2) เสริมสร้างการเรียนรู้และความเข้าในวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ของแต่ละกลุ่ม 3) ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพให้กับทุกกลุ่ม รวมทั้งให้ความสาคญั กับบทบาทสตรีในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาในหมู่บ้านและ ชุมชนที่อยู่อาศัย และ 4)เน้นให้มีการบริหารจัดการที่ตอบสนองต่อบริบททางสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมได้อย่างเข้าใจ ตลอดจนเสริมสร้างกลไกในการ บูรณาการงานของภาครัฐในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับอำนวยการ และระดับการปฏิบัติ ทั้งส่วนกลางและในพื้นที่

“แผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย (พ.ศ. 2566 – 2570) จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนของทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้คนทุกกลุ่มอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคมเพื่อลดอุปสรรคของกลุ่มจากการได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมืองกฎหมาย และวัฒนธรรมตลอดจนจากความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในสังคม โดยจะได้เสริมสร้างให้มีหลักประกันด้านสิทธิความปลอดภัยตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐานให้ปลอดจากความกลัว อีกทั้งจะหนุนเสริมให้กลุ่มดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเข้มแข็งและพลังทางสังคมต่อไป”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาแล้ว! ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจเลือกตั้ง ครั้งที่ 2 กลุ่มหนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้น ฝ่ายค้านลดลง

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปรียบเทียบผลสำรวจจุดยืนทางการเมืองของประชาชนระหว่าง โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 พบว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34.1 เป็นร้อยละ 39.1 ในขณะที่กลุ่มผู้ไม่สนั

แนะเช็กเว็บ https://www.dot.go.th ก่อนซื้อทัวร์ท่องเที่ยว

รองโฆษกรัฐบาลแนะวิธีตรวจสอบบริษัททัวร์นำเที่ยวผ่านเว็บไซต์กรมการท่องเที่ยว https://www.dot.go.th ก่อนตัดสินใจซื้อทัวร์ ย้ำรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งแก้ไขปัญหาทัวร์เถื่อน ไกด์เถื่อน

นายกฯ ซัดกลับโซเชียลจ้องบิดเบือนเปลี่ยนศาสนา วอนสื่ออย่าขยายความให้ประเทศเสียหาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ชี้แจงจากการเดินทางไปเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า อย่าลืมว่าประเทศไทยเรามีศาสนาหลักอยู่

ครม.ไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้าน! ศาลปกครอง สั่งระงับโครงการพัฒนาริมแม่น้ำเจ้าพระยา

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

เช็กเลย! เที่ยวต่างประเทศช่วงสงกรานต์ ต้องทำอะไรบ้าง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก

เตือน 1 เม.ย. ‘กรมขนส่ง’ เอาจริง มีใบสั่งค้างชำระต่อภาษีรถได้แค่ใบแทน

รองโฆษกรัฐบาล ย้ำเตือนผู้ขับขี่ที่มีใบสั่งค้างชำระ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 ต้องชำระค่าปรับ หากเพิกเฉยต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ใบแทนภาษีชั่วคราวใช้ได้ 30 วัน หากพ้น 30 วัน จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท พร้อมตัดแต้มความประพฤติในการขับรถ