'จุรินทร์' ลุยมอบทะเบียนบ้านมั่นคง ตั้งเป้าล้านหลังใน 15 ปี ดันท่องเที่ยวชุมชนสร้างอาชีพ

27 พ.ย.2564 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ พร้อมด้วย นต.สุธรรม ระหงษ์ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และนายอนันตชาติ บัวสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ ลงเรือติดตามความคืบหน้าการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง มอบทะเบียนบ้านให้ผู้แทนชุมชน และมอบถุงนำ้ใจให้กำลังใจสมาชิกชุมชนประชาร่วมใจ 2 ณ คลองเปรมประชากร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการตั้งแต่ปี 43 ช่วงที่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยโครงการบ้านมั่นคง เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ปี 43 เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดนั้นและต่อยอดจนถึงวันนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ที่ไร้บ้าน หรือมีบ้าน แต่ต้องได้รับการปรับปรุงให้มีความเป็นอยู่ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยภาครัฐจะเข้ามาช่วยส่งเสริมสนับสนุนทำบ้านใหม่ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา และอื่นๆให้ และชาวบ้านลงทุนสร้างบ้านเอง แต่รัฐจะช่วยหาแหล่งเงินกู้ในรูปสหกรณ์หรือตามความเหมาะสม และโครงการบ้านพอเพียง พอช.จะเข้าช่วยสนับสนุนซ่อมแซม สำหรับโครงการบ้านมั่นคงวันนี้เราเดินหน้าได้เร็วขึ้น ปีที่แล้วทำได้แล้วถึง 2 แสนหลังทั่วประเทศ และจากนี้ 15 ปี จนถึงปี 2579 จะทำให้ได้ 1 ล้านหลัง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมการที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ได้มีโอกาสมายังชุมชนริมคลองประชาร่วมใจ 2 ติดตามความก้าวหน้า สิ่งที่เริ่มนับ 1 ที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาชุมชนริมคลองให้พี่น้องทั้งหมดมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากสร้างบ้านให้เสร็จตามเป้าหมายแล้ว หัวใจสำคัญ คือ สภาพแวดล้อมหลังชุมชนใหม่เกิด เราอยากเห็นชุมชนริมคลองในกรุงเทพฯ น้ำใส เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้จากการเดินทางมาของนักท่องเที่ยว ต่อไปชุมชนริมคลองจะเป็นทำเลทองสำหรับทุกคนที่อยู่อาศัย มีท่าเรือ ล่องเรือพานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ บ้านของท่านปรับปรุงพัฒนาเป็นบ้านที่มีหน้าบ้าน 2 ด้าน ทั้งริมคลองและริมถนน ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าชุมชนได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นบ้าน double front

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมวันนี้ (27 พ.ย.) นายจุรินทร์ และคณะได้ลงเรือติดตามตรวจเยี่ยมการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร รวมระยะทางประมาณ 1,800 เมตร จากท่าเรือวัดเสมียนนารีผ่านชุมชนประชาร่วมใจ 1 และชุมชนประชาร่วมใจ 2 เดินเยี่ยมชมบ้านมั่นคงพบปะพี่น้องประชาชน ก่อนมอบทะเบียนบ้านมั่นคงชุมชนริมคลองเปรมประชากรรวม 176 ครัวเรือน และมอบถุงน้ำใจให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีจุดจำหน่ายของโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน มาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษช่วยลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น

อยากได้ก็ตั้งให้! ‘นิพิฏฐ์’ แนะนำ ‘อนุทิน’ ใช้นามสกุล ‘โอษฐภัย’

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ   อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง “โอษฐภัย” โดยมีรายละเอียดว่า ผมฟังท่านนายกรัฐมนตรี อ

เทพไท ไม่แปลกใจ 'อภิสิทธิ์-ปชป.' ฉุดกระแสใต้คืนชีพ ห่วง สส.เขต โดนกระสุนดินดำเอาไปกิน

เทพไท ชี้ ผลการสำรวจของนิด้าโพล อาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึงส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับส.ส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง

ปชป. ขานรับกระแสดีภาคใต้ ลั่นพร้อมสร้างการเมืองสุจริต

“ประชาธิปัตย์” ขอขอบคุณ ความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ พร้อมสร้าง “การเมืองสุจริต” ทำงานด้วย “ความมืออาชีพ” ด้วยนโยบายที่ “ทำได้จริง” เปิดรับสมัคร สส. วันสุดท้ายของแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ”

'อภิสิทธิ์' นำทีม ปชป. ลงเรือช่วยอพยพผู้ติดค้างในบ้าน พบปัญหาไร้ระบบประสานงาน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยผู้บริหารพรรคบางส่วน อาทิ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ภาคใต้ นายวีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรค ตามภาระกอจ นายพงศกร ขวัญเมือง โ

‘โบว์ ณัฏฐา’ ชี้ภาพเลือกตั้งเริ่มชัด เหลือสองพรรคที่ขยับขึ้นมาเด่น

“โบว์ ณัฏฐา” วิเคราะห์แนวโน้มจากโพลชุดล่าสุด ระบุศูนย์กลางการแข่งขันเริ่มขยับเหลือสองพรรคที่โดดขึ้นมา ขณะที่เพื่อไทยถูกทิ้งระยะ แม้คนยังไม่ตัดสินใจมีจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกระหว่างตัวเลือกที่เด่นที่สุดในตอนนี้