'ศาลปกครองสูงสุด' ยืนทุเลาคำสั่งปลด 'ชัยวัฒน์'

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนทุเลาคำสั่งปลด ‘ชัยวัฒน์’ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบจากยุทธการตะนาวศรี ชี้ไม่ตั้งกรรมการสอบ-ไม่แจ้งข้อกล่าวหา ทำให้มีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย

17 มี.ค. 2566 – ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ลงโทษปลดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ออกจากราชการ ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น กรณีนายชัยวัฒน์ (ผู้ฟ้องคดี) ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

ทั้งนี้ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าการมีคำสั่งให้ลงโทษปลดนายชัยวัฒน์ออกจากราชการ โดยไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนและไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายชัยวัฒน์ทราบ น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมาย และการให้คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่นายชัยวัฒน์ที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง และการที่ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งดังกล่าว ยังไม่อาจฟังได้ว่ามีผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐหรือการบริการสาธารณะ

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นทุเลาการบังคับตามคำสั่งดังกล่าว และมีคำสั่งยกคำขอของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามที่ขอให้ระงับคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของศาลปกครองชั้นต้นไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยอุทธรณ์

สำหรับคดีดังกล่าว นายชัยวัฒน์ ยื่นฟ้อง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) จากกรณี ป.ป.ท. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายชัยวัฒน์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 และกระทำความผิดวินัยร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จากกรณีเป็นผู้เห็นชอบโครงการอพยพชุมชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-พม่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หรือยุทธการตะนาวศรี ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติฯ และขัดกับมติคณะรัฐมนตรี จากนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมีคำสั่งให้ลงโทษปลดนายชัยวัฒน์ออกจากราชการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองนายกฯ สุชาติ เดินหน้ามาตรการเข้ม คุมโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล ลดฝุ่น PM2.5 รับมือหมอกควันปี 2569

นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายสำคัญให้หน่วยงานในสังกัดเดินหน้าจัดการมลพิษเชิงรุก เพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปี 2569

“สุชาติ” ประสานไก่ CP ส่งผ่าน เครื่องบิน ทส. ช่วยโรงครัวมูลนิธิเพชรเกษม ประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า วันนี้ได้สั่งการให้เครื่องบินเล็ก ของ ทส. รับมอบไก่สดจาก CP จำนวน 1 ตัน มูลค่ากว่า 1 แสนบาท ไปส่งให้มูลนิธิเพชรเกษม

รองนายกฯ สุชาติ ขอบคุณและให้กำลังใจทีม ทส. ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้​ พร้อมส่งกำลังใจพี่น้องประชาชน​ และเผยแผนกำลังพล​ ทส.​ รวม​ 910 เข้าสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูวันนี้​

1 ธันวาคม​ 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความขอบคุณและให้กำลังใจแก่ทีมงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม

เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.

'มทภ.4' ระดม 400 นาย เร่งฟื้นฟู 'รพ.หาดใหญ่' ให้เสร็จวันนี้

'มทภ.4' กำชับทุกหน่วย-ทส. ระดมกำลังกว่า 400 นาย เร่งฟื้นฟูโรงพยาบาลหาดใหญ่ ปรับสภาพผิวจราจรโดยรอบให้เสร็จวันนี้ พร้อมลุยต่อถนนเส้นหลัก เปิดการจราจรให้ประชาชน ก่อนบิ๊กคลีนนิ่งเมืองทั้งหมด

‘ธารน้ำใจหลั่งไหลไม่หยุด’ รองโฆษกฯ ส่งต่อสิ่งของจำเป็นขึ้นเครื่องบิน ทส. ช่วยชาวใต้ แม้น้ำลดแล้วแต่ยังเดือดร้อนจำนวนมาก - รมว.สุชาติสั่งดูแลประชาชนต่อเนื่อง

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เป็นตัวแทนประชาชนจากหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ส่งมอบสิ่งของจำเป็นและของใช้ประจำวัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังมีหลายครอบครัวที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน