นายกฯ ติดตามภัยแล้ง 'เกาะสีชัง' สั่งทุกหน่วยงานเร่งบรรเทาความเดือดร้อน

แฟ้มภาพ

โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งใกล้ชิด ย้ำผู้ว่าฯ ในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลดผลกระทบพื้นที่ประกาศภัยแล้ง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน พร้อมเตรียมการรองรับพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่ม

3 เม.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งใกล้ชิดหลังมีพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นการประกาศเขตภัยแล้งจังหวัดแรกในรอบปี 2566 นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง และผู้ว่าราชการจังหวัดอื่น ๆ เฝ้าติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่เหลือ

โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีที่หลายพื้นที่อาจเกิดสถานการณ์ขาดแคลนน้ำได้ โดยขอให้ทุกพื้นที่เตรียมการความพร้อมในทุกด้านทั้งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ รองรับสถานการณ์ภัยแล้งและพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่ม ทั้งน้ำอุปโภค บริโภค และพื้นที่เกษตร พร้อมขอให้ทุกจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าเกิดประโยชน์สูงสุด และประหยัดน้ำต่อเนื่องเพื่อให้มีน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูแล้งนี้

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ติดตามสถานการณ์พื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ด้านอุปโภคบริโภค ในเขตการประปาส่วนภูมิภาค กปภ. 16 สาขา 14 จังหวัด ซึ่งล่าสุดพบว่า มี 1 สาขา เริ่มได้รับผลกระทบแนวโน้มน้ำดิบสำหรับผลิตประปาไม่เพียงพอ คือ สาขาสว่างแดนดิน (หน่วยบริการหนองหาน) อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยขณะนี้การประปาภูมิภาคสาขาสว่างแดนดิน ได้จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่ 3 แห่ง ได้แก่ หนองเสวย หนองบ่อ และหนองสระคาม เป็นแหล่งน้ำใช้ผลิตประปา ซึ่งจะสามารถจ่ายน้ำได้ถึงวันที่ 10 มิถุนายนนี้ รวมทั้ง สทนช. ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ประหยัดการใช้น้ำอย่างต่อเนื่องต่อไป

พร้อมทั้งให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1-4 ประสานติดตามสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำเพิ่มเติมจากที่ได้ชี้เป้าพื้นที่เฝ้าระวังไว้เดิม ประกอบด้วย 4 พื้นที่หลัก ซึ่งมีแผนเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ได้แก่ (1) พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำผลิตน้ำประปา จำนวน 3 ตำบล 3 อำเภอ 2 จังหวัด ในเขต จ.เชียงราย และ จ.เพชรบูรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ได้นำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้กับประชาชนและเติมน้ำในบ่อพักน้ำประปาหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว

(2) พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรนอกเขตชลประทาน จำนวน 2 ตำบล 2 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งมักประสบปัญหาน้ำเค็มทำให้ขาดแคลนน้ำจืดในพื้นที่ ซึ่งกรมชลประทานได้มีการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำปราจีนบุรี ตามจังหวะน้ำทะเลขึ้นลง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

(3) พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำสำหรับไม้ผลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ จำนวน 6 ตำบล 4 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.จันทบุรี จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ซึ่ง อบต.ได้นำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายและเติมน้ำในสระให้กับประชาชน

และ (4) พื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านคุณภาพน้ำ (น้ำเค็ม) ในเขตการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบางปะกง และสาขาบางคล้า มีการรับน้ำดิบจากสาขาข้างเคียง จากการประปานครหลวงและจากเอกชน อย่างไรก็ตาม กอนช. จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงแล้งที่ยังเหลืออีกประมาณ 2 เดือนนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกภาคส่วนอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งหวังให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้น้อยที่สุด สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ นอกเขต กปภ. หรือ ประปาท้องถิ่น 136 ตำบล 54 อำเภอ 20 จังหวัด ยังไม่พบพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่ร่วมมือกันเร่งดำเนินการลดผลกระทบประชาชนจากเหตุประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และพื้นที่เกษตร ในพื้นที่หมูที่ 1-7 ตำบลท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ที่กำลังดำเนินการจัดซื้อน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชนโดยเร่งด่วนแล้ว ตลอดจน กอนช. ที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยทหาร จังหวัด ท้องถิ่น โครงการชลประทาน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เข้าไปเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน” นายอนุชา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครั้งแรกในไทย! ยิงพลุดัดแปลงสภาพอากาศ แนวทางใหม่ 'ฝนหลวง' บรรเทาภัยแล้ง

ทัพฟ้าจับมือฝนหลวง ยิงพลุระเบิดแคลเซียมคลอไรด์สูง 1,500 ฟุต ปรับสภาพอากาศ ​รวมเมฆฝน พลิกเกมภัยแล้ง ครั้งประวัติศาสตร์ที่ชุมพร หวังวิจัยเป็นอาวุธใหม่ช่วยประชาชน

'ดร.ณัฏฐ์' ชี้เกมเปลี่ยนม้ากลางศึก นายกฯ คนใหม่อาจเป็น 'ประยุทธ์' หรือ 'ชัยเกษม'

"ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม" วิเคราะห์ศาลรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มชี้ขาดให้ “แพทองธาร” หลุดเก้าอี้นายกฯ 29 ส.ค.นี้ เปิดเกมการเมืองร้อนแรง พรรคเพื่อไทยยังคุมเสียงข้างมาก แต่ตัวเลือกนายกฯ คนต่อไปอยู่ระหว่าง “ชัยเกษม นิติสิริ” กับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งแม้เป็นองคมนตรีแต่ยังไม่ขาดคุณสมบัติ

ดิจิทัลฟุตปริ้นท์ 'พ่อนายกฯ' หลอน 'อิ๊งค์' เคยแนะ 'ประยุทธ์' ถอย ไม่รอศาลตัดสิน

ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยพูดไว้ว่า "ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอศาลตัดสิน ถอยแล้วหล่อกว่า

‘นายกฯอิ๊งค์’ ชมโครงการจัดหาน้ำบาดาลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แก้ปัญหาภัยแล้ง

นายกฯเยี่ยมชมโครงการจัดหาน้ำบาดาลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยันรบ.ทำการบ้านเต็มที่ พร้อมตอบโจทย์แก้ปัญหาให้ปชช. พร้อมใช้โซล่าเซลล์ช่วยลดค่าไฟ

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ปมศาลรธน.ไม่รับคำร้องตั้ง 'ธรรมนัส' ไม่เกี่ยวจริยธรรมร้ายแรง

นักกฎหมายมหาชน เตือน รัฐบาลแพทองธาร เสี่ยงซ้ำรอย “เศรษฐา” หากเดินหน้าดันชื่อ “ธรรมนัส” เข้าครม. ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.กรณีเดิม ไม่ได้ตัดสินเนื้อหา จึงไม่เป็นบรรทัดฐานในการตั้งรัฐมนตรีได้