นายกฯ ห่วงสถิติอุบัติเหตุสงกรานต์ กำชับ จนท. คุมเข้มทุกเส้นทาง

นายกฯ ห่วงสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ช่วงสงกรานต์ 2566 เกิดอุบัติเหตุ 1,744 ครั้ง กำชับคุมเข้มเส้นทาง ขอประชาชนเพิ่มความระมัดระวังใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจรเคร่งครัด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เสียสละทำงานช่วงวันหยุดสงกรานต์

16 เม.ย.2566-นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 พร้อมรับทราบการรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ที่ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11 – 15 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,744 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 197 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,738 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (15 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 7 จังหวัด

นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อการเดินทางสัญจรของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในวันที่ 16-17 เมษายน 2566 เป็นวันที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้ถนนสายหลักและสายรองมีปริมาณการจราจรหนาแน่น รวมทั้งจะมีปริมาณการเดินทางสูงในเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีจึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัด และส่วนท้องถิ่น ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางกลับ เน้นดูแลเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ-ขาออกจากจังหวัด รวมทั้งเส้นทางสายรอง ทางเลี่ยง ทางลัดที่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง ซึ่งผู้ขับขี่จะใช้ความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ย้ำเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงเตรียมพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เน้นย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ เข้มแข็ง อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 นี้

“จากการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ โดย ปภ.และภาคีเครือข่าย มีสถิติเกิดอุบัติเหตุ 311 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 31 ราย ผู้บาดเจ็บ 304 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 35.37 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.93 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 42.77 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.41 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบวันที่ 16 เมษายน 2566 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางจำกัด ประกอบกับความอ่อนล้าจากการขับรถทางไกล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรีห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนผู้เดินทางทุกคน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญคือเพื่อให้ทุกคนเดินทางกลับถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย”

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 พร้อมรับทราบการรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ที่ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 11 – 15 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,744 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 197 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,738 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (15 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (59 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 7 จังหวัด

นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยต่อการเดินทางสัญจรของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในวันที่ 16-17 เมษายน 2566 เป็นวันที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ทำให้ถนนสายหลักและสายรองมีปริมาณการจราจรหนาแน่น รวมทั้งจะมีปริมาณการเดินทางสูงในเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีจึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จังหวัด และส่วนท้องถิ่น ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางกลับ เน้นดูแลเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ-ขาออกจากจังหวัด รวมทั้งเส้นทางสายรอง ทางเลี่ยง ทางลัดที่เป็นถนนทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง ซึ่งผู้ขับขี่จะใช้ความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ย้ำเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด โดยเฉพาะขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงเตรียมพร้อมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว เน้นย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อดูแลประชาชนให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ เข้มแข็ง อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 นี้

“จากการรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ โดย ปภ.และภาคีเครือข่าย มีสถิติเกิดอุบัติเหตุ 311 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 31 ราย ผู้บาดเจ็บ 304 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 35.37 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.72 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.93 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 42.77 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.41 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน มีผลกระทบวันที่ 16 เมษายน 2566 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางจำกัด ประกอบกับความอ่อนล้าจากการขับรถทางไกล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรีห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชนผู้เดินทางทุกคน จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ รวมถึงปฏิบัติตามกฎจราจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญคือเพื่อให้ทุกคนเดินทางกลับถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' คาดได้เป็นเสนาบดีเพราะ'เศรษฐา' ต้องการพลังคนรุ่นใหม่!

'น้ำ จิราพร' เผยได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดงเพราะนายกฯ หวังใช้พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงาน รับ อายุน้อยสุดในครม. ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนกพร้อมทำทุกหน้าที่

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลตีปี๊บ มิ.ย.ลงทะเบียน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

​โฆษกรัฐบาลเผย OFOS สร้างคน ยกระดับ ศักยภาพคนไทย พร้อมลงทะเบียน มิ.ย.2567 ตั้งเป้ายกระดับคนไทยสร้างสรรค์ มีคุณภาพ 296,610 คน ภายในปีงบประมาณ 2567 ต่อยอดพัฒนา 20 ล้านคน ในเวลา 4 ปี