นายกฯ ชื่นชมโครงการ “DIPROM Startup Connect” ได้รับความร่วมมือต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมสตาร์ตอัป ยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท
04 พ.ค.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการดำเนินโครงการดีพร้อม สตาร์ตอัป คอนเน็ค (DIPROM Startup Connect) ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมีผู้ประกอบการไทยจาก 25 กิจการ และภาคเอกชนขนาดใหญ่จาก 7 บริษัท ให้ความสนใจเข้าร่วมเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 300 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน (Micro Enterprises) โดยล่าสุดได้จัดทำโครงการดีพร้อม สตาร์ตอัป คอนเน็ค (DIPROM Startup Connect) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีผู้เข้าร่วมจากผู้ประกอบการไทย 25 กิจการ และภาคเอกชนขนาดใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด บริษัท แมกซ์ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัท บางกอกอินดัสเทรียล แก๊ส จำกัด และบริษัท ฮอนด้าเทรดดิ้ง เอเชีย จำกัด เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน รวมถึงเป็นเวทีให้กลุ่มผู้ประกอบการไทยได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีผ่านสินค้าหรือบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนคุณภาพ (Corporate venture capital : CVC) และส่งเสริมให้มีการขยายตลาดร่วมกันในอนาคต
สำหรับในปี 2566 นี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการฯ คือ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) หรือเทคโนโลยีทั่วไปที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ การแพทย์ครบวงจร วัสดุชีวภาพ และพลังงาน โดยมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมร่วม (Co-Creation) ให้ผู้ประกอบการสามารถทดลองใช้นวัตกรรม หรือโซลูชั่นส์ในตลาดจริง (Proof of Concept : POC) โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับผลการพัฒนาต่อเนื่องจากโครงการฯ ใน ปี 2565 ที่มีผู้ประกอบการไทยจาก 17 บริษัทได้นำเสนอโมเดลธุรกิจต่อภาคเอกชน นำไปสู่การเจรจาจับคู่ธุรกิจร่วมลงทุนกว่า 176 ล้านบาท และขยายฐานลูกค้าและสร้างนวัตกรรมร่วม ได้กว่า 76.5 ล้านบาท
“นายกฯ ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคธุรกิจ SMEs ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โครงการดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้เข้าถึงการดูแลของภาครัฐ และเชื่อมโยงไปยังภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ช่วยขยายโอกาสทางการตลาด พร้อมนำพาภาคอุตสาหกรรมทั้งกระบวนการให้เติบโตไปด้วยกัน สามารถเพิ่มรายได้ให้ประเทศ รวมไปถึงกระจายรายได้ไปยังประชาชนในทุกกลุ่มธุรกิจได้อย่างครอบคลุม” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สวนดุสิตโพลตอกย้ำปากท้องสำคัญสุดส่วนแก้ไขรัฐธรรมนูญแทบถูกเมิน
'สวนดุสิตโพล' เปิดผลสำรวจกลางสัปดาห์ เจาะปม 5 นโยบายเร่งด่วยรัฐบาลเศรษฐา ชาวบ้านหวังเรื่องปากท้องเป็นหลัก ส่วนแก้รัฐธรรมนูญไม่รีบ ซ้ำร้ายส่วนใหญ่ไม่แน่ใจสำเร็จ
เปิดภาพ 'ลุงตู่' สุขภาพดียิ้มแย้มแจ่มใส ฝากความคิดถึงพี่น้องชาวไทยทุกคน
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยภาพคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับระบุว่า คิดถึงจึงมาหา.
ประเดิมกระทู้สด! เด็กเพื่อไทยถาม รมต.เพื่อไทยตอบปมหุ้นสตาร์ค
'เลิศศักดิ์' ถาม รมว.การคลังถึงความคืบหน้ากรณีฉ้อโกงหุ้นสตาร์ค ชี้เสียหายหลายล้านบาท ขณะที่ 'จุลพันธ์' แจง ขณะนี้ทำงานร่วม ก.ล.ต. - DSI พร้อมแก้ไขข้อบังคับ ป้องไม่ให้เกิดซ้ำ
นายกฯ ส่งเสียงข้ามโลกยังไม่เคาะชื่อ ผบ.ตร.
นายกรัฐมนตรีส่งเสียงข้ามโลก บอกตอนนี้ยังไม่ได้เคาะชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
'เศรษฐา' ห่วงปัญหาน้ำท่วมอีสาน
'เศรษฐา' รับห่วงปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคอีสาน เผยสั่ง อนุทิน-ธรรมรักษ์ ดูแลตั้งแต่ก่อนมาประชุมยูเอ็น
นายกฯ กำกับเข้มเรื่องวีซ่าฟรี 'จีน-คาซัคสถาน'
นายกฯ ยันปัญหา ตม.ไม่พอรองรับการเปิด Visa-Free ได้สั่งการแก้ไขแล้ว ยันรัฐบาลให้ความสำคัญไม่ใช่แค่เฮชั่วครั้งชั่วคราว