รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาบุคลากรสาธารณสุข เห็นชอบ 5 ข้อ ไฟเขียวเพิ่มหมออีก 10,929 คน ภายในปี 2569 มีหมอเพิ่มเป็น 35,578 ตำแหน่ง แก้ปัญหาภาระงานล้นมือ
22 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทยที่ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนอย่างหนักมาโดยตลอดทั้งสถานการณ์ปกติและช่วงสถานการโควิด-19 ทำให้ประเทศสามารถผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ รวมทั้งได้รับความชื่นชมและยอมรับจากต่างประเทศในมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย ทั้งนี้ จากกรณีที่พบว่าปัจจุบันภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพิ่มขึ้นมากซึ่งมาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งการเข้าสู่สังคมสูงอายุ การให้บริการผู้ป่วยยาเสพติดตามพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่กำหนดให้การบำบัดดูแลผู้ติดยาเสพติดเป็นบทบาทหน้าที่หลักของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมากถึง 1 ล้านคน การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่พบปัญหาว่าบางแห่งยังไม่สามารถจัดบริการตามที่ประชาชนคาดหวังได้ ทำให้ประชาชนกลับมารับบริการที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น ตลอดจนประชาชนมีความคาดหวังต่อรับบริการสาธารณสุขมากขึ้นด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อปรับเปลี่ยนและปรับปรุงระบบบุคลากรทางการแพทย์และสาธารสุขให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงให้ความสำคัญกับแรงจูงใจ ขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์และด้านสาธารณสุขด้วย
นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้หารือร่วมกันในการหาแนวทางแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เกิดขึ้นแล้ว โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่วมกันในประเด็นสำคัญ 5 ข้อ ได้แก่ 1.เห็นชอบที่จะมีการเพิ่มตำแหน่งข้าราชการแต่ละวิชาชีพให้ได้ตามกรอบขั้นสูงที่กำหนด ภายในปี 2569 เช่น แพทย์ปัจจุบันมี 24,649 คน เพิ่มเป็น 35,578 คน พยาบาลปัจจุบันมี 116,038 คน เพิ่มเป็น 175,923 คน เป็นต้น
2.การดูแลเรื่องความก้าวหน้าในวิชาชีพ เช่น วิชาชีพพยาบาล ที่ไม่สามารถขึ้นเป็นระดับชำนาญการพิเศษได้เนื่องจากไม่ตรงตามข้อกำหนดในระเบียบ จะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อดูเกณฑ์ที่ติดขัดว่าผ่อนปรนได้หรือไม่ 3.การจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอ โดยเฉพาะแพทย์ รวมทั้งจะเสนอแพทยสภาในการศึกษาต่อแพทย์ประจำบ้าน ให้เพิ่มการฝึกอบรมในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 48 แห่งของกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นสถานฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านมากขึ้น เพื่อคงอัตรากำลังแพทย์ไว้ในพื้นที่ และเสนอ ก.พ. ไม่นับเป็นการลาศึกษาต่อ เนื่องจากเป็นการไปฝึกปฏิบัติงานในอีกหน่วยบริการหนึ่ง เพื่อให้ไม่เป็นข้อจำกัดในการเลื่อนขั้นเลื่อนระดับ
4.การจัดสรรแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (แพทย์ใช้ทุนปี 1) ให้เพียงพอกับภาระงาน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงฯ ได้รับจัดสรรไม่ถึง 70% จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ (Consortium) ขอรับการจัดสรรเพิ่มเป็น 85% และ 5.โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) พบว่าแพทย์คงอยู่ในระบบมากถึง 90% ดังนั้นจะขยายการผลิตให้ได้แพทย์ภาพรวมแต่ละปีประมาณ 2 พันคน ตามความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง 2 เรื่องนี้จะมีการเสนอกับแพทยสภาต่อไป โดยหลังจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข และ ก.พ. จะมีการตั้งคณะกรรมการในระดับปฏิบัติการ เพื่อร่วมกันทำงานในการแก้ไขปัญหา ข้อติดขัดต่างๆ ให้มีความคืบหน้าภายใน 30 วัน
“นายกฯ ให้ความสำคัญและชื่นชมแพทย์และบุคลากรทางสาธารณสุขที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ปฏิบัติภารกิจในการรักษา ดูแลประชาชนมาอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี รวมถึงการร่วมกันแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 จนทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้มาได้ จนประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศทั่วโลก โดยเชื่อว่าด้วยจรรยาบรรณและจิตวิญญาณของแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุขจะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนงานสาธารณสุขไทยอย่างไม่ย้อท้อ เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” นายอนุชากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอนามัย ถอดบทเรียนภัยพิบัติ ยกระดับทีม SEhRT และการจัดการศูนย์พักพิง สร้างระบบสุขภาพเข้มแข็งรองรับภาวะฉุกเฉิน
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับทีม SEhRT การจัดการศูนย์พักพิง จากการถอดบทเรียนภัยพิบัติน้ำท่วมใต้ สู่ชายแดนไทย – กัมพูชา รับนโยบาย รมว.สธ. วางระบบฟื้นฟูการดูแลสุขภาพ สุขอนามัย และสุขาภิบาลให้กับประชาชนในศูนย์พักพิงเข้มข้
กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน Thailand ATMP Roadmap 2025 เดินหน้าเร่งรัดการเข้าถึงและนวัตกรรมการแพทย์ขั้นสูง มุ่งสู่การขึ้นทะเบียน ATMP ที่รวดเร็วที่สุดในอาเซียน
กระทรวงสาธารณสุข จัดงาน “Thailand ATMP Roadmap 2025 : Fast-Track to Access & Innovation Fastest in ASEAN” ระหว่างวันที่ 22–23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์
รัฐบาลไทยเร่งแก้ปัญหาท้องในวัยรุ่น บูรณาการความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ถอดบทเรียน 8 คู่มือปฏิบัติงานเสริมสร้างกลไภความเข้มแข็งในระดับพื้นพื้นที่
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน พิธีเปิด "การประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งมอบผลงานโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของประเทศ" โดยจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร
"พัฒนา" เมิน "บิ๊กโจ๊ก" ปูดตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน ชี้ตัวเลข 140 รายของสธ. ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์ชี้ชัดอะไรไม่ได้
สธ. แถลงยอดผู้เสียชีวิต 'น้ำท่วมสงขลา' 140 คน คาดจากนี้เพิ่มแค่หลักหน่วย
นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิจากเหตุน้ำท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่า จะยึดข้อมูลที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นหลัก เพราะศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลา 16.00 มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน
'โจ้ - ธนา' เขียนถึง 'โต้ง - สิริพงศ์' โฆษกผู้น่ารัก ความหวัง-ความภูมิใจ ของจังหวัดศรีสะเกษ
โจ้ - ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ และเจ้าของเพจ "เขียนไว้ให้เธอ" เขียนถึง โต้ง - สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ในหัวข้อ "โฆษกผู้น่ารัก" มีเนื้อหาดังนี้

