"บิ๊กตู่" ตรวจความคืบหน้าการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เผยนักท่องเที่ยวเหยียบสนามบินวันละ1.5 แสน วอนมองผลงานรัฐบาลด้วยตา อย่าจ้องแต่ติติง ขัดแย้ง จนชาติเดินไม่ได้
7 ส.ค.2566 - ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคม และรักษาการราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจความพร้อมเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1)โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) และตรวจเยี่ยมพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1) พร้อมดูพื้นที่ทางวิ่งเส้นที่ 3 บริเวณอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1) ด้านทิศตะวันตกทั้งนี้ระหว่างการตรวจเยี่ยม นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย ได้รายงานถึงความคืบหน้าในการดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ โดยได้เชิญนายกรัฐมนตรี ทดลองนั่งรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับเพื่อใช้ในการรับส่งผู้โดยสาร พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินการในทุกๆด้านและชื่นชมการทำงานที่ดำเนินการมาได้อย่างดี รวมถึงการนำ ประติมากรรมช้างคู่โลหะ หงส์คู่ พระปางเปิดโลก จากวัดผาซ่อนแก้วจังหวัดเพชรบูรณ์ มาจัดไว้ให้ผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศประทับใจถึงศิลปและวัฒนธรรมไทยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะยังได้แวะพักอิริยาบถ ด้วยการดื่มกาแฟและของว่างหลังจากที่เดินตรวจความพร้อม ระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตรต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังตรวจความพร้อมเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันทำงานของรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายอย่างที่ได้ทำไว้แล้ว ซึ่งตนจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนในพื้นที่อีอีซี สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือ อีกครั้งเพราะนี่คือผลงานที่รัฐบาลได้เริ่มไว้แล้ว และถือเป็นความก้าวหน้า"ถ้าเรามองอย่างเป็นธรรม เห็นด้วยตาอ่านอะไรก็แล้วแต่ขอให้ดูว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ถ้าเราไม่ร่วมมือกันมันทำไม่ได้ทั้งหมด และนี่คือตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าวันข้างหน้าเราจะต้องร่วมมือกันอย่างนี้ ซึ่งจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นอีกมากมายหลายมิติ วันนี้จากการรับฟังรายงานทราบว่าทุกอย่างดีขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 150,000 คน ขณะเดียวกันการบินไทยก็พลิกฟื้นขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วกว่าเดิม 1 ปีในการที่จะเป็นสนามบินแห่งชาติ ถือว่าทุกคนช่วยกัน ดังนั้นไม่ว่าจะติติงอะไรต่างๆก็ตามอย่าลืมว่าเราทำอะไรและจะได้อะไร อะไรที่ยังไม่เคยทำ แล้วทำหรือเปล่า อันนี้ต้องคิดและช่วยกันทำความเข้าใจด้วย อย่าให้มันมีความขัดแย้งไปเรื่อยๆทุกๆเรื่องจนกระทั่งประเทศชาติเดินหน้าไปไม่ได้ ผมมีแค่นี้ และต้องขอบคุณทุกคน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวมชุดนายกองใหญ่ ลงพื้นที่อีสานใต้ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย สวมชุดนายกองใหญ่ ออกเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจง 3 เหตุไม่ขึ้นเวทีดีเบต
'อนุทิน' เปิดเพจหาเสียง ประเดิมแจงเหตุไม่ร่วมเวทีดีเบต ร่ายยาว 3 ข้อจำกัด เลือกใช้ช่องทางนี้สื่อสารประชาชนแทน
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
จับตาหยุดยิง72ชม. หากเขมรจริงใจเดินหน้าปฏิญญา/‘บิ๊กเล็ก’จ่อลงนาม27ธ.ค.
"สมช." ไฟเขียวข้อเสนอวงถกฝ่ายเลขาฯ GBC ไทย-กัมพูชา หยุดยิง 72 ชม.
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ

