![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/08/บิ๊กป้อม-2.jpg)
28 ส.ค. 2566 – ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี รมว.มหาดไทย และ รมช.กลาโหม เข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการปฎิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) พ.ศ. 2548 ห้วง 20 มิ.ย. 66 ถึง 20 ส.ค. 66 ซึ่งมีแนวโน้มของสถานการณ์ที่มีความสงบเรียบร้อยมากขึ้นตามลำดับ และมีสถิติการก่อเหตุความรุนแรงลดลง สามารถพัฒนาไปสู่การปรับลดพื้นที่ออกจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้มากขึ้น ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ให้เข้มงวดตรวจสอบโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารประกอบระเบิด พร้อมเร่งรัดการช่วยเหลือ ฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานพลุดอกไม้เพลิงระเบิดที่ผ่านมาโดยเร็วด้วย
จากนั้น ที่ประชุม กบฉ.ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ปรับลดพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ออกจากพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาใช้แทน และขอขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ยกเว้น อ.ศรีสาคร, อ.สุไหงโก-ลก, อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง, อ.มายอ, อ.ไม้แก่น และ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.เบตง และ อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ตั้งแต่ 20 ก.ย. 66 ถึง 19 ธ.ค. 66 โดยเป็นการขยายระยะเวลา ครั้งที่ 73 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน ป้องกัน ระงับ ยับยั้งเหตุการณ์ในพื้นที่ให้ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาความสงบ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯ หน่วยงานความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และกำลังพลทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท และกล้าหาญ อย่างน่าภาคภูมิใจ สามารถแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยที่ผ่านมาและมีสถิติการก่อเหตุลดลง ตามลำดับ พร้อมทั้งได้ขอบคุณประชาชนในพื้นที่ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมทั้งได้กำชับ สมช. ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการเตรียมความพร้อมแก้ปัญหา จชต. ในระดับนโยบาย ที่ต้องขับเคลื่อนให้ต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเตรียมรับนโยบายจาก ครม.ชุดใหม่ ที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วยต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บิ๊กป้อม' นำ พปชร. ถวายราชสักการะเฉลิมพระเกียรติในหลวง ครบ 6 รอบ
'บิ๊กป้อม' นำทีม พปชร. สวมเสื้อเหลืองรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ถวายราชสักการะเฉลิมพระเกียรติในหลวง ครบ 6 รอบ
'ลุงป้อม' บินปารีส 1 ส.ค. ให้กำลังใจนักกีฬาไทย สู้ศึกโอลิมปิก
ที่พรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567
รู้แล้ว! ทำไม 'เฉลิม' กับ 'อุ๊งอิ๊ง' ยังเปิดศึกไม่เลิก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทั้ง อุ๊งอิ๊ง และ เฉลิม ต่างก็หวงเก้าอี้ สส.
“ลุง”กับ“อา”ใจถึงพึ่งได้ เฮือกสุดท้ายใน”บ้านป่า”?
“เปิดต้อนรับนักการเมืองเทรนด์เดียวกัน ที่รสนิยมในเรื่องของ พรรคพวก เพื่อนฝูง พี่น้อง ต้องมาก่อน เรื่องคำมั่นสัญญา การไม่หักหลังกัน เปรียบเหมือน ปฏิญญา-กฎเหล็ก ในการคบหากันของแวดวงคนใจนักเลง”
'ลุงป้อม' มอบงานใหญ่ 'วัน อยู่บำรุง' ขึ้นแท่นคุม กทม. แทน 'สกลธี'
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดตัวนายวัน อยู่บำรุง เข้ามาสมัครสมาชิกพรรคว่า ตนกับนายวันสนิทกันตั้งแต่ตอนที่นายวันเป็นสส.ก็คุยกันมาตลอด
'วัน-อยู่บำลุง' เปิดหมดเปลือกซบ พปชร. เร้าเพื่อไทยขับ 'เหลิม' กัดฟันยังเคารพอาแม้ว
นายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดใจถึงการลาออกจากพรรคเพื่อไทย การย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นอกจากข่าวลาออกจากกรรมการผู้ช่วย