7 องค์กรสื่อฯไม่อยู่เฉยตั้งกรรมการสอบนักข่าวรับเงินบิ๊กโจ๊ก

27 ก.ย. 2566 – สืบเนื่องจากกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่ามีการจ่ายเงินให้สื่อมวลชนเพื่อเป็นค่าข่าว และช่วยเหลือด้านต่างๆ เนื่องจากเห็นว่านักข่าวเงินเดือนน้อย ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวต่อสาธารณะออกไปอย่างแพร่หลายนั้น

องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน 7 องค์กร ประกอบด้วย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย และสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมกันและขอแสดงจุดยืนต่อสาธารณะว่า สื่อมวลชนที่รับเงินจากแหล่งข่าวเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ ถือเป็นเรื่องที่ละเมิดจริยธรรมวิชาชีพอย่างร้ายแรง ไม่สามารถยอมรับได้

ดังนั้น ที่ประชุม 7 องค์กรวิชาชีพ จึงมีมติร่วมกันดังนี้

1. เห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความกระจ่างชัดในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณชนโดยคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนจากสภาวิชาชีพสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนขององค์กรสมาชิก องค์กรละ 2 คน (เป็นคนในวิชาชีพ 1 คน และผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 1 คน) รวมเป็น 6 คน และให้สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาเป็นประธานคณะกรรมการอีก 1 คน รวมเป็น 7 คน

2. ขอให้องค์กรต้นสังกัดที่ถูกระบุว่ามีนักข่าวรับเงิน รวมทั้งองค์กรสื่อมวลชนอื่นๆ ดำเนินการตรวจสอบว่านักข่าวในสังกัดว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกระบุหรือไม่ และพร้อมแจ้งผลการดำเนินการแจ้งต่อสาธารณะให้ทราบ ส่วนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่มีต้นสังกัด และกระทำการเป็นนักข่าวเพื่อส่งข่าวต่อไปยังสำนักข่าวต่างๆ แต่มีพฤติกรรมละเมิดจริยธรรมวิชาชีพนั้น ขอให้ทุกองค์กรสื่อมวลชน พิจารณายุติการซื้อข่าวจากบุคคลหรือกลุ่มดังกล่าว

3. กรณีที่มีนักข่าวมีส่วนพัวพันหรือไปเกี่ยวข้องกับการรับเงินในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย คณะกรรมการที่จะตั้งขึ้นโดยสภาวิชาชีพข้างต้น จะดำเนินการตรวจสอบด้านจริยธรรมวิชาชีพเช่นกัน  ส่วนความผิดตามกฎหมายนั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย

4. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอเรียกร้องให้บุคคลกลุ่มบุคคลที่เป็นอดีตนักข่าว และทำหน้าที่ส่งข่าวให้สำนักข่าวต่างๆ แสดงตัวตนให้ชัดเจนว่าการรับเงินดังกล่าวเป็นค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนในการทำข่าวและส่งประชาสัมพันธ์ โดยไม่แอบอ้างตนว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน แต่หลีกเลี่ยงการถูกกำกับดูแลด้านจริยธรรมจากองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย

สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย

27 กันยายน 2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จบนะ! 'จ๋า' ภริยานายกฯ ขอโทษสื่อมวลชน แจงไม่มีเจตนาคุกคาม น้อมรับคำวิจารณ์

น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เขียนข้อความลงบนสตอรี่อินสตราแกรมส่วนตัว ขอโทษสื่อมวลชนกรณีพูดหยอกกับสื่อว่า "ทำไมใจร้ายกับท่านนายกฯ จังเลย เดี๋ยวต่อไปจะจำไว้แล้วนะ เกินไปแล้วนะ" จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าปมมติ สว. ส่ง 'นันทนา' ให้ ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมร้ายแรง

สืบเนื่องจาก มติวุฒิสภาเสียงข้างมากวินิจฉัยชี้ขาดว่า นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และส่งให้ ปปช. เพื่อ

'นันทนา' นำ สว.อิสระ โวยโดนรุม จ่อฟันจริยธรรม ส่งปปช.เชือด

'นันทนา' โวยโดนฟ้องปิดปาก วุฒิสภาจ่อฟันจริยธรรม ส่ง ป.ป.ช. เชือด ลั่นไม่ยอมศิโรราบ ปัดด้อยค่า สว.ขายหมู 'วุฒิพงศ์' ชี้กลั่นแกล้งทางการเมือง

'ชูศักดิ์' ปัดฟ้อง MOA แต่กั๊กบอกรอดูโฉมหน้า ครม.ก่อน

ชูศักดิ์ย้ำ 'พท.' ไม่ได้มอบหมายให้ใครไปร้อง MOA เหตุสิทธิ์ขาดยังอยู่ที่พรรค จะทบทวนทําอะไรหรือไม่ ขอรอดูหน้า 'ครม.' ใหม่ก่อน ปัดลือดึง 'เอม พินทองทา' นั่งแคนดิเดตนายกฯ

'จุลพงศ์' เตือนเพื่อไทยคิดให้รอบคอบใช้เรื่องจริยธรรมมาทำลายล้าง!

'จุลพงศ์' เย้ย 'ทนายณัฐ' ร้องเพื่อไทย ฟัน 'อนุทิน-ณัฐพงษ์' ถอดถอน สส. 212 คน พร้อมยุบ 2 พรรค ไม่มีสาระพอ หวังมือกฎหมาย 'พท.' ตรึกตรองรอบคอบ ไม่ควรนำประเด็นจริยธรรมมาทำลายด้วยกันเอง