15 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมการบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ งานด้านความมั่นคง และด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ท. เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุม
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวสรุปงานความมั่นคงว่าการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ลดลง มีแนวโน้มที่ดีตามลำดับ แต่ยังพบการก่อเหตุเชิงสัญลักษณ์ผ่านรูปแบบต่าง ๆ เพื่อหล่อเลี้ยงความรุนแรงให้คงอยู่ โดยในปี 64 มีการก่อเหตุเพิ่มขึ้นจากปี 63 คิดเป็นร้อยละ 37.5 ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บลดลง ความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงในพื้นที่เพิ่มขึ้น
จากนั้นนายกฯกล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่บูรณาการร่วมมือทำงานแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ช่วยกันแก้ไขปัญหาไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลทำงานภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ภายใต้กรอบของกฎหมาย ยืนยันรัฐบาลทำทุกอย่างถูกต้องตามหลักสากล ขอให้ร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาทั่วโลกและไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณทำให้ต้องบริหารการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติมากที่สุด ในส่วนของการฉีดวัคซีนกำชับส่วนราชการในพื้นที่เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากที่สุด ส่งเสริมประชาชนให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในเบื้องต้น เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนต้องรับผิดชอบต่อสังคมและไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป ขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างมีเหตุผล ส่วนในด้านความมั่นคงให้เตรียมรับมือภัยในรูปแบบใหม่ด้านต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่าสร้างความเกลียดชังขึ้นในสังคม ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข และที่สำคัญทุกคนต้องเข้มแข็ง มีความสามัคคี มีความรักชาติ ศาสนา ต้องยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาไปให้ได้ด้วยความเป็นไทย
นายกฯยังกล่าวย้ำว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคง และงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกให้เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน โดยกำหนดเป้าหมายตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ว่าเหตุการณ์ในพื้นที่ต้องลดลง ขณะที่อัตราการพัฒนาทางเศรษฐกิจต้องสูงขึ้นในทุกด้าน เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานของทุกส่วนราชการร่วมกัน เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนและประเทศชาติต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แหล่งท่องเที่ยวไทย คว้ารางวัลระดับโลก ติดอันดับ 'Top 100 Green Destinations'
แหล่งท่องเที่ยวไทยคว้ารางวัลระดับโลก ติดอันดับ “Top 100 Green Destinations” ยืนยันศักยภาพการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท
โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ
รบ.ชวนภาคธุรกิจ ใช้สิทธิจัดประชุมสัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า หนุน ศก.ภูมิภาค
รัฐบาลชวนภาคธุรกิจใช้สิทธิ ‘จัดประชุม–สัมมนาเมืองรอง ลดภาษี 2 เท่า’ หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค หมดเขต 15 ธ.ค.นี้
สมาคมสถาบันการเงิน ผนึกกำลังแบงก์รัฐ ผุด 3 โครงการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายรัฐบาล ผนึกกำลังแบงก์รัฐประกาศช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผุด 3 โครงการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู
นายกฯ ปฏิเสธตอบปมนายก อบจ.สงขลาด้อยค่า อส.-คนไทยบาดเจ็บสู้รบเมียนมา
นายกฯปฎิเสธให้สัมภาษณ์กรณี นายก อบจ.หาดใหญ่ กล่าวด้อยค่า อส. และกรณีคนไทยในแม่สอดบาดเจ็บจากการสู้รบในเมียนมา

