'เกณิกา' เผย 'สันติ' สนับสนุน สวรส. ยกระดับวิจัยด้านสาธารณสุข เจาะปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มบริการสุขภาพเท่าเทียม
08 พ.ย.2566 - น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ครั้งที่ 10/2566 ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กรรมการเเละเลขานุการ กรรมการจากผู้เเทน กระทรวงเเละผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ร่วมประชุมฯ ได้กำหนดแผนขับเคลื่อนองค์กรในระยะ 3 ปี ให้สอดรับกับนโยบายรัฐด้านสาธารณสุขที่มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยนำ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค มายกระดับความสำคัญกับการให้บริการประชาชนให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเพื่อความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม โดยมุ่งเน้นให้มีการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์และวิจัยก้าวหน้า (Frontier Research) เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้านโยบาย ในปี 2567 การดำเนินการเป็นไปตาม แผน Quick win ทั้งในด้านการเพิ่มการเข้าถึงบริการเขตเมือง, สุขภาพจิต/ยาเสพติด, การป้องกันรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจร, สร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร, การแพทย์ปฐมภูมิ, ดิจิทัลสุขภาพ, ส่งเสริมการมีบุตร ฯลฯ รวมถึงแผนวิทยาศาสตร์ ด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของประเทศ พ.ศ. 2566-2570 ที่มุ่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สิ่งแวดล้อม โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรม
น.ส.เกณิกากล่าวต่อว่า สวรส. เป็นองค์กรวิชาการระบบสุขภาพของประเทศ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านสาธารณสุขและการพัฒนาประเทศ ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์ด้านสำคัญ ประกอบด้วย 1.สร้างและจัดการองค์ความรู้การวิจัยด้านสุขภาพ 2.พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ 3.สร้างและพัฒนาบุคลากรวิจัยและเครือข่ายวิจัย และ 4. พัฒนากลไกสนับสนุนการบริหารจัดการองค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า สำหรับแผนปีงบ 2567 นี้ มีเป้าหมายที่จะพัฒนา สวรส. ไปสู่ “Smarter HSRI for Better Health” เพื่อเป้าหมายการพัฒนาการดำเนินงานและระบบสุขภาพที่ดีกว่า ในระยะ 3 ปี ให้เป็นองค์กร ที่สามารถรองรับเป้าหมายการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางแนวทางสื่อสารนโยบายและสื่อสารสังคม จัดตั้งกลไกการเชื่อมประสานเครือข่าย การพัฒนากฎ/ระเบียบที่เกี่ยวข้องและการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ตลอดจนด้านบุคลากรและการบริหารทุน กิจกรรมที่จะเร่งให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม อาทิ การจัดทำ Research Mapping เพื่อหาโจทย์วิจัยมุ่งเป้า โดยเฉพาะการหาโจทย์วิจัยเชิงรุก ซึ่งคาดหวังให้แล้วเสร็จโดยมีแนวทางและโจทย์วิจัยภายในปี 2567, การสร้างความร่วมมือในงานวิจัยด้านสุขภาพ กับหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งองค์การมหาชนในกำกับและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น WHO Thailand, Global Fund และหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัย (PMU) ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยสุขภาพ โดยจะพัฒนาให้เกิดกลไกความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ มีแผนจัดตั้ง HSIU (Health System Intelligence Unit) เป็นหน่วยบริหารจัดการองค์ความรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของฝ่ายนโยบายและสังคมทั้งภาวะปกติและเร่งด่วน สามารถนำเสนอองค์ความรู้อย่างเป็นระบบและทันการณ์
"รมช.สันติ ได้เสนอให้ ทำการศึกษาทางเลือกเชิงนโยบาย เพื่อให้เกิดการกระจายแพทย์ไปยังหน่วยบริการสุขภาพในพื้นที่ขาดเเคลนหรือห่างไกลในชนบท โดยการวิเคราะห์สถานการณ์การขาดแคลนแพทย์ว่าปัจจุบันขาดแคลนหรือไม่ ถ้าขาดแคลน ขาดแคลนเท่าไหร่ อย่างไร ตลอดจนการเสนอทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบในระยะยาวต่อไปประเด็นด้านบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพถ้วนหน้า"น.ส. เกณิกา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลคาดวันหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดหมื่นล้าน
รัฐบาลคาดช่วงหยุดยาว คนไทยแห่เที่ยว เงินสะพัดกว่าหมื่นล้าน เหตุอากาศเย็นสบาย-มาตรการรัฐหนุนท่องเที่ยวคึกคัก
ไทยพร้อม 100%นับถอยหลังเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี
นับถอยหลังกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพพร้อม 100% 'แบมแบม' เตรียมขึ้นเวทีโชว์ รัฐบาลเชิญชวน 9 ธ.ค. นี้ จองตั๋วเข้าชมพิธีเปิดฟรี ผ่านเว็บไซต์ทางการ www.seagames2025.org
ข่าวดี! ผู้ป่วยมะเร็งปอดใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว
เริ่ม 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ผู้ป่วยมะเร็งปอด สามารถใช้ยา 'Erlotinib–Gefitinib' เป็นยาขนานแรกได้แล้ว ช่วยให้ผู้ป่วยคุมโรคได้นาน 9 เดือนถึง 1 ปี ยับยั้งการกลายพันธุ์ที่เป็นตัวเร่งให้มะเร็งเติบโต
ค่าฝุ่นพิษพุ่ง! รัฐบาลสั่งเดินหน้า 90 วันอันตรายลด PM2.5
ค่าฝุ่นพุ่งทั้งประเทศ–กทม.เจอหนัก 49 เขตสีแดง–ส้ม รัฐบาลสั่งเดินหน้า '90 วันอันตราย' ตรวจควันดำเข้ม ลด PM2.5
ประเดิมแจ้งเตือน 'ฝุ่นPM2.5' ผ่าน Cell Broadcast 'กทม.' โหมดส้ม
เริ่มแล้ว! แจ้งเตือน PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast 'กรุงเทพฯ–ปริมณฑล' เข้าสู่โหมดสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 'รมว.สุชาติ' กำชับ ทส. ติดตามใกล้ชิด หลังแนวโน้มฝุ่นสะสมต่อเนื่องถึง 2 ธ.ค.
รมช.มหาดไทยบอก 26 พ.ย.ช่วยชาวบ้านได้ 1 พันคน
'ศักดิ์ดา' ระบุภาพรวมเมื่อวานช่วยประชาชนได้ 1 พันคน เผยคุย ผวจ.สงขลา น้ำลดลงมาก แจง ปภ.ไม่ล่าช้า เหตุพื้นที่กว้าง ชี้ความโกลาหลเป็นเรื่องปกติ บอกอยู่ระหว่างตรวจสอบปมชาวบ้านไล่ยิงกู้ภัย-อาสาสมัคร


