กสม.ปลื้ม กทม.ทำตามข้อเสนอแนะ!

กสม. ชื่นชม กทม.ดำเนินการตามข้อเสนอแนะ ส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติที่ซื้อบัตรประกันสุขภาพให้สามารถใช้บริการสาธารณสุขได้ในทุกโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัดกรุงเทพฯ

07 ธ.ค.2566 - น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)​ กล่าวว่า ในช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.2566 กสม. ได้ประชุมหารือร่วมกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 กสม.ได้เข้าพบและหารือกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพให้แรงงานต่างด้าวและคนต่างด้าวในพื้นที่ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานข้ามชาติขึ้นทะเบียนสูงสุดของประเทศ โดยในทางปฏิบัติพบปัญหาว่าแรงงานข้ามชาติหรือคนต่างด้าวที่ซื้อบัตรประกันสุขภาพจากโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยมักจะไปใช้บริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. แต่ศูนย์บริการดังกล่าวไม่สามารถเบิกค่าบริการได้ แรงงานจึงต้องจ่ายค่าบริการเอง เนื่องจากยังไม่มีนโยบายของกรุงเทพมหานครในการเข้ารับบริการในศูนย์บริการสาธารณสุขดังกล่าว และ กสม. เสนอให้กรุงเทพมหานครพิจารณารับตรวจสุขภาพและรับทำประกันสุขภาพแรงงานข้ามชาติทั้งระบบ เพื่อนำงบประมาณที่ได้มาบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพทั้งการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและการรักษาพยาบาลในคนกลุ่มนี้

นอกจากการหารือถึงปัญหาดังกล่าวร่วมกับ กทม.แล้ว กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ได้มีข้อเสนอแนะเรื่องการตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพให้แรงงานต่างด้าวและคนต่างด้าวในพื้นที่ กทม. ให้เป็นไปในลักษณะการจัดบริการสุขภาพเชิงรุกโดยใช้โรงพยาบาล จำนวน 8 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 69 แห่งของ กทม. เป็นจุดบริการ เนื่องจากศูนย์บริการสาธารณสุขถือว่าเป็นหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ที่สามารถพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิได้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 สำนักการแพทย์ กทม. ได้ออกประกาศเรื่อง การรับบริการสุขภาพกรณีแรงงานต่างด้าวที่ซื้อประกันสุขภาพของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ โดยกำหนดแนวทางการรับบริการสุขภาพให้แก่แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม หรือสัญชาติอื่นตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดเพิ่มเติม ในเขตพื้นที่ กทม. ให้สามารถซื้อประกันสุขภาพและตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลสิริธร

น.ส.สุภัทรา​ กล่าวอีกว่า ประกาศดังกล่าวยังกำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่ซื้อประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลในสำนักการแพทย์ สามารถรับบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขกับโรงพยาบาลในสำนักการแพทย์ได้ทุกแห่ง (รวม 11 แห่ง โดยมีโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน โรงพยาบาลคลองสามวา และโรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร เพิ่มมาอีก 3 แห่ง จาก 8 แห่งข้างต้น) รวมตลอดทั้งสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย อีก 69 แห่ง ของ กทม. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการตรวจและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งที่ 4204/2566 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2566 แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการและจัดบริการสุขภาพกลุ่มแรงงานข้ามชาติในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีรองศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการพัฒนาระบบบริหารจัดการ และจัดบริการด้านสุขภาพแรงงานข้ามชาติในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประสานความร่วมมือและบูรณาการการจัดกิจกรรม แผนงาน โครงการ ร่วมกับหน่วยงานภายในและภายนอกสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งกำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานด้านสาธารณสุขสำหรับแรงงานข้ามชาติ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกลไกที่มีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและเป็นกลไกเชิงนโยบายที่สำคัญ

“กสม. ขอชื่นชม กทม. ที่เห็นความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ และดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะของ กสม. ซึ่งเป็นผลให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวสามารถเข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพในประเด็นที่ว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบวันที่ 27 ธ.ค. 2565” น.ส.สุภัทรา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทศกาลกีฬากรุงเทพ' ตลอดเดือนพฤษภาคม ส่งเสริมสุขภาพ-ออกกำลังกาย

กรุงเทพมหานคร จัดงาน “เทศกาลกีฬากรุงเทพ” ตลอดเดือนพฤษภาคม ชูนโยบายการส่งเสริมสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยมีสุขภาวะที่ดี เมื่อวันเสาร์ที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงว่าในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

'เศรษฐา' ควง 'ภริยา' เดินตลาดเช้าหัวหิน คุยสงกรานต์ปีนี้คึกคัก

“เศรษฐา“ ควง “ภริยา” เดินตลาดเช้าหัวหิน ใส่บาตรพระ โอ่ สงกรานต์เศรษฐกิจคึกคัก ลั่น ปีหน้าดีกว่านี้ ย้ำไตรมาส4 ได้เงินหมื่นแน่ พร้อมโพสต์ ฝากปชช. ให้ความรักเวลาคนในครอบครัว