'นฤมล' มั่นใจยางพาราไทยฉลุยกฎหมาย EUDR ของอียู

'นฤมล' มั่นใจยางพาราของไทย ไม่ติดปัญหา กฎหมาย EUDR ของสหภาพยุโรป เดินหน้าผลักดัน ขับเคลื่อน สนับสนุนส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา

21 ธ.ค.2566 – ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เป็นประธานประชุมโครงการยางล้อ เตรียมความพร้อมการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของสหภาพยุโรป ร่วมกับนายเสกสรร ไตรอุโฆษ ประธาน SNPT นายกรกฎ กิตติพล เลขาสมาคมยางพาราไทย และนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุม

ศ.นฤมลกล่าวว่า ตามที่สหภาพยุโรปเตรียมใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่สินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า การนำเข้ายางและผลิต ภัณฑ์จากยางจะต้องมาจากสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ และ พื้นที่ป่า รวมถึงการจัดการสวนยางพารา ที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระดับโลก และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยาง ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แล้วกว่า 90% สามารถระบุที่ตั้งของสวนยางได้ พร้อมรองรับตามกฎ EUDR โดย กยท. ได้ดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาระบบการจัดการสวนยางอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพิ่มโอกาสส่งออกยางไทยในตลาดโลก

ผู้แทนการค้า กล่าวย้ำว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามมาตรการ EUDR มาอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ กยท.ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานของสหภาพยุโรปในการผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน สร้างรายได้ และเพิ่มราคาให้กับชาวสวนยางของไทย

“การขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล หารือและสร้างแนวทางขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยเฉพาะแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยาง รวมถึงการตลาด เพื่อประโยชน์ต่อชาวสวนยาง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยจะนำปัญหา และข้อเสนอแนะไปดำเนินการ รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รองรับการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation ของสหภาพยุโรปตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา ผลักดันการส่งออกยางพาราปีละ 2.5 – 3 ล้านตัน” ผู้แทนการค้ากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กยท. ถอดบทเรียน รุกฆาตปราบปรามยางเถื่อน เพิ่มโทษยึดทรัพย์ ยันไม่เป็นมวยล้มมั่นใจราคาทะลุสามหลัก

กระทรวงเกษตรฯ เอาจริงปรับเกมส์รุกประกาศสงครามปราบปรามยางเถื่อน กยท. ถอดบทเรียนทบทวน แก้ไข อุดช่องโหว่กฎหมาย ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ปลื้ม EU ยกไทย 'เสี่ยงต่ำ' ตัดไม้ทำลายป่า เปิดทางส่งออก 7 สินค้าหลักง่ายขึ้น

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ถูกจัดในระบบ Benchmarking ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อประเทศตามระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

กยท.เร่งออกโฉนดต้นยางเป็นสินทรัพย์เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มมูลค่าสร้างเสถียรภาพ / ตั้งเป้าครบ 22 ล้านไร่ใน 2 ปี

กยท. เร่งขับเคลื่อนภายหลัง Kick Off การออกโฉนดต้นยาง รอ คทช. ไฟเขียวตั้งเป้าออกโฉนดให้ครบ 22 ล้านไร่ภายใน 2 ปี หวังยกระดับเกษตรกรเพิ่มมูลค่าต้นยาง

กยท.เร่งสร้างเสถียรภาพเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ คุมเข้มขนส่งยางผ่านไทยคลอดมาตรการTransit เตรียมทุ่ม3,000ล้านผลิตยางล้อ “Greenergy Tyre”

กยท. เดินหน้าปราบปรามยางเถื่อน พร้อมเร่งคลอดมาตรการ Transit คุมเข้มการขนส่งยางผ่านประเทศไทย เร่งสร้างเสถียรภาพราคายาง สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร