'เศรษฐา' ต้อนรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย

นายกฯ ต้อนรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ย้ำมิตรภาพไทย - ออสเตรเลียที่ใกล้ชิด ร่วมผลักดันความร่วมมือ การค้า การลงทุน แลกเปลี่ยนระดับประชาชนและกลาโหม

14 ก.พ.2567 - ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับกับ พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ (His Excellency General the Honourable David Hurley AC DSC (Retd)) ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

โดยนายกฯ และผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้น ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กันบริเวณห้องสีงาช้างด้านนอก จากนั้น เวลา 11.00 น. ทั้งสองฝ่ายร่วมหารือข้อราชการ ณ ห้องสีงาช้างด้านใน

โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือว่า นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งที่ได้ต้อนรับผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการเยือนในระดับผู้สำเร็จราชการฯ ครั้งแรกในรอบ 7 ปี สะท้อนมิตรภาพที่แข็งแกร่งระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนที่ใกล้ชิดกันในทุกระดับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (ASEAN - Australia Special Summit) ที่เมืองเมลเบิร์นในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งจะได้พบปะภาคเอกชนของออสเตรเลีย เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ

นายชัย กล่าวว่า ด้านผู้สำเร็จราชการฯ ขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ยินดีที่ได้เดินทางมายังประเทศไทยอีกครั้ง ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียที่ใกล้ชิดมายาวนานในทุกระดับ โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ (72 พรรษา) ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 72 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย - ออสเตรเลียเช่นกัน เชื่อว่าความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียที่ใกล้ชิดยาวนาน แข็งแกร่งมาก เป็นรากฐานที่สำคัญของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน

นายชัย กล่าวว่า โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความสัมพันธ์และความร่วมมือในภาพรวม ดังนี้ ด้านเศรษฐกิจ นายกฯ ยินดีต่อรายงานยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ปี ค.ศ. 2040 (Invested: Australia’s Southeast Asia Economic Strategy to 2040) ของออสเตรเลีย ซึ่งมุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจระหว่างออสเตรเลียกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ยุทธศาสตร์นี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญ สนับสนุนการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและออสเตรเลียควรเพิ่มพูนความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นสาขาที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีศักยภาพ ประกอบกับบริบททางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน โดยนายกรัฐมนตรีประสงค์ให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวปฏิบัติ และเทคโนโลยีจากออสเตรเลีย โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านเกษตรกรรม ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีความรู้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งผู้สำเร็จราชการฯ เห็นว่า ออสเตรเลียมีความพร้อม และมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่มีศักยภาพในด้านนี้ จึงยินดีสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน

โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวว่า ด้านการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและออสเตรเลียควรร่วมมือกันเพิ่มศักยภาพของความตกลงการค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) ซึ่งจะสนับสนุนมูลค่าและปริมาณการค้าระหว่างกันให้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ และในด้านการลงทุน นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนชาวออสเตรเลียพิจารณาเพิ่มพูนการลงทุนในไทย โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีอัจฉริยะ และพลังงานสีเขียว ซึ่งรัฐบาลได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต และสนับสนุนด้านนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะในโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งผู้สำเร็จราชการฯ เห็นว่า การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ของนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยภาคเอกชนไทย จะเป็นโอกาสอันดีในการสนับสนุนการลงทุนระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นสาขาที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญและเห็นพ้องเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน และกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตลอดจนความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

นายชัย กล่าวอีกว่า ด้านความร่วมมือด้านกลาโหม เป็นเสาหลักสำคัญในความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและออสเตรเลียมีส่วนร่วมด้านการทหารที่ใกล้ชิด ทั้งการฝึกร่วม การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการฝึกอบรม โดยนายกรัฐมนตรีต้องการเพิ่มพูนความร่วมมือกับออสเตรเลียมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการทหารกับออสเตรเลีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนสนับสนุนความพร้อมด้านการทหารของทั้งสองประเทศในการตอบสนองและรับมือกับความท้าทายในอนาคต

นายชัย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ในระดับประชาชน การศึกษา นายกฯ เห็นว่า ไทยและออสเตรเลียยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในระดับประชาชนระหว่างกันได้อีกมากขึ้น โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ซึ่งออสเตรเลียถือเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ที่นักเรียน/นักศึกษาไทยเลือกไปศึกษาต่อ ขณะเดียวกัน ไทยมีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพ ซึ่งทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกันมากขึ้น

ส่วนการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่กับจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยนายกฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีหวังว่า ไทยและออสเตรเลียจะร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการเจรจาเพื่อยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนการเดินทางและธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกฯ และภริยาเชิญผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียและภริยาไปยังโถงกลางตึกสันติไมตรีเพื่อชมการแสดงศิลปะมวยไทย และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียและภริยา ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ

'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ

ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย​

นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย​ หลังสื่อถาม​ 12 ธ.ค.​ไม่มีอุบัติเหตุ​ทาง​การเมืองใช่หรือไม่​ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.

'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!

นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด

นายกฯ บอกให้ทุกคนระบายแต่ย้ำเชื่อตัวเลขหมอ-สธ.

นายกฯ ชี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต เชื่อแพทย์ - สถาบันนิติเวช บอก ปกปิดไม่ได้ หลังสะพัดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยหลักพัน บอกปล่อยให้ระบายแล้วจบ ทำงานต่อ หลังมีคลิปชาดา ไล่นายกฯแป้น

นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน.เร่งปราบภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์

'นายกฯ' มอบนโยบาย 'กอ.รมน.' กำหนดทิศทางปี 69 มุ่ง 'ยั่งยืน-ทันสมัย' เร่งปราบปรามภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์ ชูงานเชิงรุกร่วมมือชุมชน เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน

มิตรแท้! จีนมอบเงินช่วยน้ำใต้อีกกว่า 30 ล้าน

'ทูตจีน' มอบเงินช่วยน้ำท่วมใต้อีก 30 กว่าล้าน ย้ำความสัมพันธ์ไทย - จีน มิตรภาพแน่นแฟ้น มั่นใจภายใต้การนำ 'นายกฯ อนุทิน' ช่วยฟื้นฟูได้รวดเร็ว 'นายกฯ' ขอบคุณรัฐบาลจีน ยันนำเงินเยียวยาช่วย ปชช.- ศก.ใต้ รวดเร็วโปร่งใสเป็นธรรม