ครม. มีมติรับทราบผลดำเนินการสิทธิของมารดา กรณีบริโภคโฟลิก เอซิด

27 ก.พ.2567 - นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบตามที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เสนอสรุปผลการพิจารณา ผลการดำเนินการ ความเห็นในภาพรวมของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เรื่อง สิทธิของมารดา ในช่วงระหว่างก่อน และหลังการคลอดบุตร กรณีการบริโภคโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) มาเพื่อดำเนินการ

โดย นางรัดเกล้า กล่าวว่า กระทรวง สธ. ได้รวบรวม และสรุปผลพิจารณา ในภาพรวม ซึ่งสรุปได้ ดังนี้ 1. การผลักดันเรื่องการป้องกันความพิการแต่กำเนิดเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ สธ. เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนานโยบายและแผนการดำเนินงานด้านการป้องกันความพิการแต่กำเนิดในระดับชาติ โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิด และการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ

2. การจัดให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน สธ. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนงานระดับประเทศในการดูแลรักษาและป้องกันเด็กพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างจัดทำคำสั่ง สธ. เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและกรดโฟลิกอีกด้วย

3. การผลักดันให้มีการจัดทำกฎหมายสิทธิของมารดาในช่วงระหว่างก่อน และหลังการคลอดบุตร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนดให้มีรายการเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และลดความพิการแต่กำเนิดอยู่ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

4. การสนับสนุนงบประมาณในด้านการบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในระยะยาว สธ. และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดสรรงบประมาณ และหาแหล่งเงินทุนเพื่อการวิจัยเกี่ยวกับวิตามินโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) รวมทั้งสนับสนุนโครงการสร้างเสริมสุขภาพต่างๆ

5. การให้หน่วยงานของรัฐบูรณาการความร่วมมือในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้หญิงวัยเจริญพันธุ์และมารดาในช่วงระหว่างก่อน และหลังการคลอดบุตรทราบถึงประโยชน์ของโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) สธ. ได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์ ในเรื่องสิทธิและประโยชน์ของการได้รับบริการยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและวิตามินโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) กระทรวงศึกษาธิการจัดทำกรอบหลักสูตร และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาการเรียนรู้ด้านสุขศึกษา แก่เยาวชนทุกระดับ กระทรวงแรงงานสนับสนุนการบูรณาการการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวในสถานประกอบการ และกำกับ ดูแล และส่งเสริมให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

6. การเร่งรัดดำเนินการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพเข้าสู่ระบบคลังข้อมูลสุขภาพ (HDC) สธ. พัฒนาระบบเฝ้าระวังความพิการแต่กำเนิดระดับประเทศ จากแหล่งข้อมูลความพิการแต่กำเนิดที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากโรงพยาบาล สังกัด สธ. ทั่วประเทศ

7. การให้มีการอบรมให้ความรู้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชน สธ. ได้ผลิตสื่อสำหรับ อสม. เพื่อใช้สื่อสารและติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ รวมทั้งพัฒนาทักษะและให้คำปรึกษาเรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์และความสำคัญของการได้รับวิตามินโฟลิก เอซิด (วิตามิน B9) แก่ อสม.

8. ให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องของการป้องกันความพิการแต่กำเนิด และ 9.ให้ สธ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีจำหวัดนำร่องเรื่องการป้องกันความพิการแต่กำเนิด ทั้งนี้ ข้อ 8 และ ข้อ 9 สธ. อยู่ระหว่างเตรียมการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิจารณาหารือต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่

ครม.ไฟเขียว ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย มีผลถึง 31 ก.ค.67 ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาประเทศไทยมากกว่า 1.61 ล้านคนซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปและมากเป็น

พรรคร่วมรัฐบาลเคาะ 'ทำประชามติ' 3 รอบ เข้า ครม. อังคารนี้

'ภูมิธรรม' คอนเฟิร์มทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อความปลอดภัย ชง ครม. อังคารนี้ คาดทำรอบแรกเดือน ส.ค. ซัดกลุ่มจ้องเคลื่อนไหวห้ามปชช.ใช้สิทธิ์ ปัดหารือหัวหน้าพรรคร่วมเรื่องนิรโทษกรรม

เร่งทำงานหนัก 'ชลน่าน' ลงพื้นที่ปัตตานีพาหมอไปหาประชาชนฯ

หมอชลน่านลงปัตตานีเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ จัดคลินิกคัดกรองความผิดปกติบนใบหน้าและมือเด็ก ช่วยเข้าถึงการผ่าตัดแก้ไขปัญหา