เครื่องบินรบล้ำยุค เอฟ-35 สหรัฐฯโชว์ “ด็อกไฟว์”ในการฝึก โคปไทเกอร์ ที่โคราช จับมือทอ.ไทย- สิงคโปร์ แสดงพลังพันธมิตร ครองน่านฟ้า200ไมล์ เผยทอ.ไทยมีศักยภาพพอรองรับเครื่องบินทันสมัยรุ่นนี้ได้ สหรัฐฯ โปรยยาหอม ทอ.เป็นกองทัพหนึ่งที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก
19 มี.ค.2567 - ที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา กองทัพอากาศได้เชิญสื่อมวลชนเยี่ยมชมการฝึกร่วมผสมทางอากาศใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้รหัสโคป ไทเกอร์2024 (Cope Tiger ) โดยการสนธิกำลังทางอากาศ จาก 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา และเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-35 เครื่องบินขับไล่ในเจนเนอเรชั่นที่ 5 เข้าร่วมฝึก 8เครื่อง เข้าวางกำลังที่กองบิน 1 ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.2567
สำหรับรอบสื่อมวลชน (media day) ได้จัดหมู่เครื่องบิน 9 เครื่อง จาก 3 ชาติ ได้แก่ F-35 ,F-5 TH ,F-15 ,F-16A/B, F-16C/D, Jas-39(gripen), Alfa jet , Airbus A330 MRTT ทำการบิน Fly by และ ในบางช่วงมีการ Dog flight หรือโชว์การรบระยะประชิดด้วย หลังจากนั้น ผู้อำนวยการฝึก 3 คนทำการบิน F-16 เข้าจอดที่หน้าบก.กองบิน 1 โดย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้การต้อนรับ และมอบของที่ระลึกให้
น.อ.อานนท์ จารุสมบัติ ผู้อำนวยการกองการฝึกผสมโคปไทเกอร์ฝ่ายไทย เปิดเผยว่า การฝึกในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศของแต่ละชาติ นั่นหมายถึงว่าเวลาที่ขึ้นไปทำการบิน จะมีภารกิจในด้านการป้องกันภัยทางอากาศ การโจมตีทางอากาศ รวมทั้งภารกิจทางภาคพื้น เช่น การควบคุมบังคับบัญชา การส่งกำลังบำรุง เป็นต้น การที่มาฝึกบินร่วมกันจะมีโอกาสได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อที่จะส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาค
“ปีนี้ครบรอบ30ปีอาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ ที่สหรัฐได้นำเอฟ-35 เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 มาจริงๆแล้วกองทัพอากาศสหรัฐและกองทัพอากาศชาติพันธ์มิตรทั้งในนาโต้และนอกนาโต้ ก็เริ่มประจำการ เอฟ-35 อยู่แล้ว ซึ่งการที่เขานำเข้ามาก็แสดงให้เห็นว่ากองทัพอากาศไทยมีความพร้อมในการรองรับกับเครื่องมือที่มีความทันสมัยแบบนี้ ซึ่งในปีนี้ได้สร้างธีมขึ้นมาว่า Friendship Blue sky"น.อ.อานนท์ กล่าว
น.อ.เซบาสเตียน ไชน์ ผู้อำนวยการกองการฝึกผสมโคปไทเกอร์ฝ่ายสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ตนเองเคยเข้าร่วมการฝึก โคปไทเกอร์มาแล้วหลายครั้ง จากที่เข้าร่วมการฝึกมาช่วยให้เสริมสร้างทักษะหลายด้าน สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆได้ โดย กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้เข้าร่วมการฝึกในพื้นที่นี้เป็นประจำทุกปี โดยคาดหวังว่าการฝึกในครั้งนี้จะได้รับการฝึกที่ดี เพราะว่าประเทศไทยมีพื้นที่การฝึกที่เหมาะสม รองรับการปฎิบัติงานได้ทั้งหมด ซึ่งบางอย่างไม่สามารถทำได้ในสาธารณรัฐสิงคโปร์ แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือการได้รับประสบการณ์ที่ดี และเรียนรู้จากกองทัพอากาศไทย และกองทัพสหรัฐฯ
น.อ.เจฟฟรี่ย์ ดี. ชูลแมน ผู้อำนวยการกองฝึกร่วมฝ่ายสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เราเรียนรู้จากการฝึกครั้งนี้อย่างมาก ซึ่งได้นำนักบิน fighting jet รุ่นใหม่ๆหลายนายร่วมการฝึกนี้ ซึ่งเราสามารถบินประสานร่วมกันระหว่างเครื่องบินได้ถึง 50-60 ลำในระยะการบินประมาณ 200 ไมล์และฝึกซ้อมในหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้การที่ไทยเป็นประเทศเจ้าภาพ การฝึกถือเป็นโอกาสดีสำหรับ 3 ประเทศที่มีโอกาสได้ฝึกร่วมกัน สำหรับ ความพร้อมและศักยภาพของกองทัพอากาศไทยในการฝึกนั้น ในฐานะที่ตนบินเครื่องบินขับไล่มามากกว่า 2 ทศวรรษและไปทั่วโลกกับประเทศพันธมิตรมากมาย กองทัพอากาศไทยเป็นกองทัพหนึ่งที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมือชีพ ด้านวัฒนธรรม การเป็นเจ้าบ้าน รวมถึงความสามารถ ตนประทับใจมาก และ นักบินของพวกเราจะได้เรียนรู้การบินจากพวกเขาอีกมากมายในช่วงสัปดาห์หน้า
ด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมกองอำนวยการฝึก และเยี่ยมชมเครื่องบิน เอฟ-35 ว่า รูปแบบการฝึกโคปไทเกอร์มีประเด็นในเรื่องการใช้กำลังทางอากาศขนาดใหญ่ และฝึกเรื่องการรักษาความปลอดภัย การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ วันนี้มีความละเอียดมากขึ้นโดยใช้ทั้งเครื่องบินถ่ายภาพอากาศและใช้ระบบโดรนหรือ ไอเอสอาร์ มาผสมเพื่อเป้าหมายการวิเคราะห์ทางอากาศ นอกจากนี้ยังไปดูระบบการควบคุมบังคับบัญชา ทั้งหมดนี้ ตนก็กำลังเรียนรู้อยู่ โดยกองทัพไทยมีความจำเป็นต้องนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปพัฒนาในอนาคต
ส่วนการที่สหรัฐฯนำเครื่องบิน F-35 มาฝึกเป็นครั้งแรกนั้น ถือว่าเขามีความไว้วางใจเรา ในฐานะที่เป็นพันธมิตรต่อกัน ทั้งในแง่ของการฝึกร่วม และส่วนที่เป็นสนธิสัญญา ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เรามีประเทศที่เป็นพันธมิตรและมีความไว้วางใจเรา รวมถึงสิงคโปร์ด้วย ที่นำเอา F16 และ F15 มาร่วมฝึกด้วย ซึ่งวันนี้ตั้งใจมนำข้อมูลไปทำแผนพัฒนากองทัพ ปี 71-80 ตอนนี้กำลังก่อร่างสร้างตัวและพยายามทำอยู่ วันนี้สิ่งที่ผู้บัญชาการทหารอากาศทำ อยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่าเราจะนำกองทัพอากาศไปสู่คีย์เวิร์ดที่ว่า unbeatable AirForce
ส่วนความพร้อมของ ทอ.ซึ่งเป็นปัจจัยในการให้สหรัฐฯ ยอมขาย F-35 ให้เรานั้น ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของการพัฒนาขีดความสามารถเพื่อดูว่าในอนาคตข้างหน้า ทอ.จะมีฝูงบินใหม่กี่ฝูงเพื่อทดแทนของเดิม ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคขอให้ทางกองทัพอากาศพูด ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็มีลิมิตในการรับรู้ ซึ่งหลักๆวันนี้เรารับรู้เรื่องที่น่าดีใจดีใจ 2 เรื่องคือ การอำนวยการระหว่างเหล่าทัพในการรบ โดยใช้ระบบดาต้าลิ้งค์ซึ่งเราประสบความสำเร็จในระบบต่างๆไปพอสมควร อีกส่วนหนึ่งคือระบบป้องกันภัยทางอากาศที่สามารถเชื่อมโยงระบบป้องกันทางอากาศ ระหว่างหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ของ กองทัพบก กับ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ. ) ของกองทัพเรือ คิดว่าถ้าเราสามารถจัดกำลังรบรวมกันได้ พี่น้องประชาชนชาวไทยจะได้กองทัพที่มีประสิทธิภาพ พร้อมปฎิบัติงานในการป้องกันประเทศที่มีขีดความสามารถสูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรโคราชปลูกต้นไม้ 9 พันต้น เฉลิมพระเกียรติ 'ในหลวง ร.9'
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวามหาราช
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'
'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง
GULF ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมจับมือกองทัพอากาศ ส่งมอบถุงยังชีพช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่
บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นางสาวธีรตีพิศา เตวิชพศุตม์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ ระดมทีม ‘กัลฟ์อาสา’ ซึ่งเป็นตัวแทนพนักงานจากสำนักงานใหญ่ และโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ อาทิ โรงไฟฟ้าอุทัย โรงไฟฟ้าหนองแซง ร่วมกันแพ็คถุงยังชีพ ‘GULF Care ส่งต่อความห่วงใยให้คนไทย’ จำนวน 1,000 ชุด ซึ่งภายในบรรจุของใช้ที่จำเป็นต่าง ๆ อาทิ นมกล่อง อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยาสามัญประจำบ้าน และน้ำดื่ม โดยร่วมกับกองทัพอากาศ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้
ทอ.ส่ง SAAB340 ลำเลียงถุงยังชีพ-เวชภัณฑ์ ลงภาคใต้ช่วยน้ำท่วม
กองทัพอากาศส่งเครื่องบินจากกองบิน 6 ไปกองบิน 7 เพื่อเร่งนำถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ส่งต่อถึงพื้นที่ประสบอุทกภัยให้เร็วที่สุด
กองทัพอากาศ เตือนประชาชนงดเผยแพร่ภาพ-ข้อมูลปฎิบัติการทางทหาร
ทอ. แจ้งเตือนประชาชนงดเผยแพร่ภาพ -ข้อมูล การปฎิบัติการทางทหาร ขณะที่กองทัพภาคที่2 แจง สภาพแวดล้อมแบบ VUCA ผันผวนไม่แน่นอน-ซับซ้อน-คลุมเคลือ แต่ขอให้มั่นใจทุกสถานการณ์อยู่
ทอ. ประกาศยุติทุกข้อตกลงไทย-กัมพูชา จนกว่าจะไร้ความเป็นปฏิปักษ์
เพจ Royal Thai Air Force กองทัพอากาศ โพสต์ข้อความว่า ยุติการดำเนินการทุกข้อตกลงระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา จนกว่าการปฏิบัติการใดๆ ของกัมพูชาที่แสดงความเป็นปฏิปักษ์จะไม่มี กองทัพอากาศขอยืนยัน จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี และผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง


