นายกฯ ปลื้มคนไทยใช้ระบบดิจิทัลทางการค้าระหว่างประเทศ ติดอันดับ 32 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เชื่อเป็นโอกาสเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
12 มิ.ย.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงผลสำรวจของ Global Trade Modernization Index 2024 (GTMI) ดัชนีประเมินความพร้อมทางเศรษฐกิจสำหรับการใช้ระบบดิจิทัลทางการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศ (https://www.asiaglobalinstitute.hku.hk/global-trade-modernization-index) ประเทศไทยติดอันดับที่ 32 จากทั้งหมด 65 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจทั่วโลก และเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย สะท้อนความสำเร็จของการผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเพิ่มความทันสมัยให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยี ต่อยอดยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าว จัดทำโดย Asia Global Institute, ICC Digital Standards Initiative และ Milken Institute โดยได้รวบรวมข้อมูลของ 65 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจทั่วโลก พิจารณาจากดัชนีชี้วัดสู่ความพร้อมทางการค้าดิจิทัล (Digital Trade) ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมในระบบเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ 5 ประการ ได้แก่ 1.การลดการใช้กระดาษทางการค้า (Paperless Trade) 30% 2.การเปิดกว้างทางการค้า (Trade Openness) 10% 3.สภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบ (Regulatory Environment) 25% 4.ความพร้อมของภาคธุรกิจ (Business Readiness) 25% และ 5.ทุนมนุษย์ (Human Capital) 10%
โดยประเทศไทยติดอันดับที่ 32 ด้วยคะแนนรวม 66.4 คะแนน จำแนกเป็น การลดการใช้กระดาษทางการค้า 22.5% การเปิดกว้างทางการค้า 7.2% สภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบ 16.1% ความพร้อมของภาคธุรกิจ 14.5% และทุนมนุษย์ 6.1% ซึ่งเห็นได้ว่าแต่ละดัชนีชี้วัดของไทยล้วนได้รับการประเมินด้วยผลคะแนนที่เกินครึ่งตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ ปัจจุบัน รัฐบาลเน้นย้ำถึงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล สอดรับกับวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) พร้อมดำเนินการเพื่อพัฒนาให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ เช่น นโยบายรัฐบาลดิจิทัลและการใช้บริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Cloud First Policy) การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาการให้บริการประชาชน โครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ตลอดจน การเสริมสร้างทักษะ เพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ของประเทศด้านดิจิทัล (Human Capital)
“ผลสำรวจดังกล่าวถือเป็นความคืบหน้าในการพัฒนาประเทศที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี และการดำเนินนโยบายแบบมีแบบแผนเป็นขั้นเป็นตอน กระจายการทำงานแบบมีการบูรณาการ จึงทำให้เห็นแนวโน้มที่สะท้อนความคืบหน้าในการเร่งพัฒนาและผลักดันการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในด้านการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ดังที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเสมอว่า ประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการลงทุน และรัฐบาลจะยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูง (High Value Economy) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกภาคส่วน” นายชัยกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯอิ๊งค์ทัวร์ 'อุดรธานี-หนองคาย' 17 ต.ค.
นายกฯ บินหนองคาย 17 ต.ค. ตรวจฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท่วมอีสาน พร้อมเปิดงานบั้งไฟพญานาค ชู 'ซอฟต์พาวเวอร์'
นายกฯ อิ๊งค์สั่งแรงงงานเยียวยา 'ผู้ประกอบการ-ผู้ประกันตน' ที่เจอน้ำท่วมใน 41 จังหวัด
นายกฯ กำชับแรงงานดูแลผู้ประกอบการ-ผู้ประกันตน ม. 33 ,39,40 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใน 41 จังหวัด มั่นใจเป็นส่วนหนึ่งเยียวยาผู้ประสบภัยได้อย่างตรงจุด
ผู้แทนการค้าไทยหารือแก้ปัญหาส่งออกเนื้อ
'ชัย วัชรงค์' หารือนายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย ร่วมหาแนวทางส่งออกโคเนื้อสู่ตลาดเพื่อนบ้าน ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย แก้ปัญหาราคาตกต่ำและสารเร่งเนื้อแดง
เปิดภารกิจอาเซียน 'นายกฯอิ๊งค์' วันแรกที่ สปป.ลาว
เปิดกำหนดการประชุมอาเซียนวันแรก นายกฯ แพทองธาร ร่วมประชุมสุดยอด และหารือกับผู้นำอาเซียนหลายชาติ
'จิรายุ' ดีด๊า รอนั่ง 'โฆษกรัฐบาล' เข้าทำเนียบฯ พบ 'หมอมิ้ง'
'จิรายุ' ดี๊ด๊า เข้าทำเนียบฯ พบ 'หมอมิ้ง' ยันทำงานโฆษกมาตลอด การันตีความพร้อมนั่ง 'โทรโข่งรัฐบาล' บอกสื่อแล้วเจอกันบ่อยๆ
สะพัด 'จักรภพ' มาแรงคั่วเก้าอี้โฆษกรบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับการประชุมครม.อย่างเป็นทางการนัดแรก ในวันที่ 17 ก.ย.เวลา 10.00 น.จะมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง