'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่าย' ยันเข้าชี้แจงด้วยวาจา ก.พ.ค.ตร. ปมคำสั่งออกราชการ คาดทราบผลสรุปในสัปดาห์นี้

30 ก.ค.3567- ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) กล่าวถึงการเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้เข้าชี้แจงด้วยวาจาปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการชั่วคราวที่ลงนามโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ขณะที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.)

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมพิจารณาคำอุทธรณ์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจกรณีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมองว่าเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตามกระบวนการจะต้องเชิญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยตำแหน่ง มาให้ถ้อยคำด้วยวาจา แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เข้าชี้แจง เนื่องจากเป็นผู้ลงนามคำสั่ง

ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯ ได้แจ้งให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาดำเนินการชี้แจงอุทธรณ์เพิ่มเติมด้วยวาจากับกรรมการเจ้าของสำนวน ซึ่งเห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัยและนำไปสู่การนัดพิจารณาได้แล้ว ที่ประชุมจึงต้องการเปิดโอกาสให้ 2 ฝ่ายแถลงด้วยวาจาและยื่นเอกสารประกอบคำแถลง โดยรูปแบบคือทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าห้องวินิจฉัยเพื่อชี้แจงต่อหน้ากรรมการทั้ง 6 ท่านพร้อมกัน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีสิทธิโต้แย้งกันเอง ซึ่งคณะกรรมการจะรับฟังเหตุผลทีละฝ่าย และให้อีกฝ่ายฟังไปด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนส่วนนี้ คณะกรรมการฯจะนำสำนวนหลักฐานที่ได้ทำไว้เสร็จแล้วประกอบกับการให้ถ้อยคำวันนี้ พิจารณาร่วมกันโดยจะสรุปผลวินิจฉัยในรอบการประชุม ซึ่งจะมีทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์

พล.ต.ท.อนุชา กล่าวอีกว่า เมื่อได้ข้อสิ้นสุดคำวินิจฉัยทางคณะกรรมการฯ จะส่งผลทั้ง 2 ฝ่ายให้รับทราบก่อนที่จะมีการแถลงให้สาธารณะชนรับทราบ ส่วนจะส่งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าทางสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เรียกขอเอกสารส่วนนี้หรือไม่

“หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯออกมาเป็นลบ (คำสั่งออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย) ต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันหลังทราบผล เพื่อขอให้คุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจชั่วคราว แต่ในทางกลับกันหากผลเป็นบวก (คำสั่งออกจากราชการมิชอบด้วยกฎหมาย) ต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ คำสั่งออกจากราชการ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการเพิกถอนและ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะกลับมารับตำแหน่งดังเดิม สิทธิประโยชน์คงเดิมรวมทั้งได้เป็นแคนดิเดตในการคัดเลือก ผบ.ตร.” พล.ต.ท.อนุชา กล่าว

ส่วนประเด็นว่าผลวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร. จะเสร็จสิ้นทันการคัดเลือก ผบ.ตร.เดือนกันยายนนี้หรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า ผลวินิจฉัยคาดว่าเสร็จสิ้นภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้ ส่วนการลงมติผลครั้งนี้ของคณะกรรมการฯ จะออกมาลักษณะเป็นการลงเสียงข้างมากไปในทิศทางเดียวกัน โดยในเบื้องต้นวันนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันว่าจะเดินทางมาชี้แจงกับคณะกรรมการฯ ด้วยตนเอง เวลา 13.30 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' สั่งตำรวจภาค 8-9 เร่งดูแลประชาชนในพื้นที่อุทกภัยด้ามขวานเต็มที่

'ผบ.ตร.' สั่งตำรวจ ภ.8-ภ.9 ดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัยอย่างเต็มที่ นำแนวทางที่สั่งถอดบทเรียนในพื้นที่ประสบภัยที่ผ่านมา มาปรับใช้

นายกฯ ถึงไทย ‘บิ๊กต่าย’ เข้ารายงานปมร้อน จัดโผแต่งตั้ง รองผบ.ตร- ผบช. 20 พ.ย.นี้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เข้ารายงานนายกฯถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่10/2567 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 14.30 น.

‘บิ๊กต่าย’ นัด 19 พ.ย. ถกบอร์ดกลั่นกรอง ตรวจคุณสมบัติตั้งสีกากีล็อตแรก

ผบ.ตร ในฐานะประธานกรรมการฯ ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งตั้ง ข้าราชการดำรวจดำรงตำแหน่งระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จดช. ลงมาถึง ผบช. และ จตร. วาระจำปี 2567