รัฐบาลร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ประกาศขึ้นทะเบียน GI 'กระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า'
31 ก.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นยกระดับมูลค่าสินค้าเกษตรไทย ด้วยการใช้เครื่องมือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI เพิ่มการรับรองคุณภาพสินค้าชุมชน บ่งบอกถึงแหล่งที่มา คุณภาพ คุณลักษณะเฉพาะของสินค้า และ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นโอกาสในการร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการประกาศขึ้นทะเบียนGI กระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า ซึ่งเป็นกระท้อนทรงปลูก ดำรงไว้ซึ่งพันธุ์ผลไม้ท้องถิ่นไทยที่มีเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น เพื่อสร้างอาชีพ สร้างมูลค่าให้กับสินค้า ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย พร้อมผลักดัน Soft Power ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การผลักดัน Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล ผ่านการขับเคลื่อนการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) สำหรับสินค้าจำพวก สินค้าเกษตร สินค้าหัตถกรรม และ สินค้าอุตสาหกรรม (เกษตรแปรรูป) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน คุ้มครองเอกลักษณ์ของสินค้าในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น โดยปัจจุบันมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ทั่วประเทศแล้ว 206 สินค้า สร้างมูลค่าการค้ากว่า 71,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ดำเนินการขึ้นทะเบียนกระท้อนทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า โดยเป็นกระท้อนที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปลูก ต้นกระท้อนพันธุ์ทองใบใหญ่ ณ วัดยางทอง ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2550 และได้พระราชทานพันธุ์กระท้อนให้แก่ราษฎรจังหวัดอ่างทอง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร พัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรในชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยกระท้อนพันธุ์ทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่าได้รับรางวัลชนะเลิศด้านรสชาติอันดับ 1 ของจังหวัดอ่างทอง และมีงานมหกรรมกระท้อนทองใบใหญ่ทรงปลูก เพื่อเผยแพร่ผลผลิตกระท้อนให้เป็นที่นิยมของตลาด สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชนกว่า 6 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดที่สนใจนำสินค้าชุมชนในประเภท สินค้าเกษตร สินค้าหัตถกรรม และ สินค้าอุตสาหกรรม (เกษตรแปรรูป) ที่มีอัตลักษณ์และเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ สามารถปรึกษาเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368
“รัฐบาลร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กระท้อนทรงปลูกพันธุ์ “ทองใบใหญ่บางเจ้าฉ่า” เชื่อมั่นว่าการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะมีส่วนสนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรไทย ยกระดับผลผลิตการเกษตรท้องถิ่น สะท้อนวิถีชีวิตชาวไทยผ่านการเพาะปลูก เพิ่มคุณภาพ รักษามาตรฐานด้วยการสนับสนุนของรัฐบาล เพื่อความยั่งยืนของชุมชน ต่อยอดให้เกษตรกรไทยมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต” นายชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
กระทรวงอุตฯคลอดมาตรการช่วยเหลือธุรกิจภาคใต้
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
'สิริพงศ์' ถอนหงอก 'วันนอร์' ปมยื่นซักฟอกยุบสภาไม่ได้
โฆษกรัฐบาล สวน 'วันนอร์' ย้อนแย้งตีความคับแคบ หลังชี้ช่องฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ปิดทางนายกฯยุบสภา ชี้ ประธานสภาต้องตรวจญัตติ แจ้งนายกฯ ทราบก่อน ถึงยุบไม่ได้
'โฆษกรัฐบาล' ย้ำทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ ปรามสื่อมาเลย์ให้ระวังมากขึ้น
'โฆษกรัฐบาล' ย้ำทหารไทยเหยียบ 'ทุ่นระเบิดใหม่' หลังสื่อมาเลเซียรายงานข้อมูลคลาดเคลื่อน เตือนเรื่องละเอียด่อน ขอระมัดระวังการสื่อสาร
บ่ายนี้นายกฯ ไป 'อ่างทอง-อยุธยา' ติด ตามสถานการณ์น้ำท่วม
นายกฯอนุทิน ลงพื้นที่อ่างทอง - อยุธยา บ่ายวันนี้! ลุยติดตามสถานการณ์น้ำท่วม - เร่งช่วยเหลือประชาชนถึงพื้นที่เร่งด่วน
7 พ.ย.'นายกฯ หนู' เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
นายกฯ อนุทิน เตรียมเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ 7 พ.ย. นี้ ฉลอง 60 ปีมิตรภาพ จ่อลงนามความร่วมมือ 2 ฉบับด้านเศรษฐกิจ-สาธารณสุข


