
‘เหยื่อเมาแล้วขับ’ นั่งวีลแชร์ ร้องอัยการสูงสุด สั่งคดีเมาแล้วขับทั่วประเทศ ฟ้องศาลลงโทษสถานหนัก พบช่องโหว่กฎหมาย ตำรวจนอกรีตตบทรัพย์ขี้เมา
11 ต.ค. 2567 – ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ นายประศม สุขแสวง แกนนำเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ พร้อมด้วยเหยื่อเมาแล้วขับผู้สูญเสีย จำนวน 10 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นคนพิการนั่งวีลแชร์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุดคนใหม่ เพื่อขอให้อัยการสูงสุดกำหนดนโยบายในการสั่งคดีเมาแล้วขับ กรณีเมาแล้วขับซ้ำไปยังอัยการทั่วประเทศ โดยขอให้บรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษผู้ที่เมาแล้วขับซ้ำด้วยบทลงโทษสถานหนัก คือจำคุกไม่รอลงอาญา ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ( ฉบับที่ 13 ) พ.ศ.2565 มาตรา 160 ตรี/1 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 5 หมื่น – 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมกันนี้ขอให้อัยการทั่วประเทศตรวจสำนวนคดีเมาแล้วขับที่ตำรวจส่งสำนวนมายังอัยการด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีตำรวจนอกแถวบางราย อาศัยช่องว่างทางกฎหมายไม่ส่งฟ้องผู้ที่เมาแล้วขับซ้ำ โดยมีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ที่เมาแล้วขับซ้ำ พฤติกรรมของตำรวจนอกแถวบางคน บางกลุ่ม บางพวก เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้คนที่เมาแล้วขับไม่หวั่นเกรงต่อบทบัญญัติของกฎหมายและก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง
นายประศม กล่าวว่า ในฐานะที่ตนและเพื่อนๆ ที่เป็นเหยื่อเมาแล้วขับ พวกเรารณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายมานานกว่า 20 ปี เห็นผู้บริสุทธิ์ที่ต้องตกเป็นเหยื่อจากคนเมาแล้วขับมากมาย หลายคนต้องหมดสิ้นซึ่งอนาคต สิ้นเนื้อประดาตัว หลายครอบครัวล่มสลายเพราะคนเมาแล้วขับ ที่คิดถึงแต่ตนเองโดยไม่คิดถึงผลกระทบ จากพฤติกรรมของตนเองที่เมาแล้วขับ ไปก่อให้เกิดโศกนาฎกรรมกับหลายชีวิต หลายครอบครัว หากเป็นการเมาแล้วขับครั้งแรก และศาลให้โอกาส ให้รอลงอาญาไว้ พวกเรายังพอรับได้ แต่มีคนที่เมาแล้วขับจำนวนมากไม่รู้สำนึกยังเมาแล้วขับซ้ำซาก ทั้งๆ ที่กฎหมายกำหนดโทษหนักไว้แล้ว แต่เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกแถวบางคน บางกลุ่ม บางพวก ไปเรียกรับเงิน เพื่อช่วยเหลือทำให้คนกลุ่มนี้ได้ใจ และไม่เกิดความเกรงกลัว
“ผมว่าถึงเวลาแล้วที่สังคมไทย ต้องลุกขึ้นมาจัดการกับพฤติกรรมเมาแล้วขับซ้ำ เฉกเช่นนานาอารยประเทศที่เจริญแล้ว อย่าปล่อยให้คนทำผิดได้ใจ เพราะมีเงินจ่ายให้ตำรวจนอกแถวบางคน บางกลุ่ม บางพวก เพื่อไม่ต้องรับผิด ถ้าสังคมไทย คนไทยยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ วันหนึ่งเหยื่อเมาแล้วขับบนท้องถนนอาจเกิดกับคนในครอบครัวของเรา หรือคนที่เรารัก ถึงเวลานั้นจะมาโทษว่าเป็นเวรเป็นกรรมไม่ได้ ต้องโทษที่สังคมไทยปล่อยปะละเลย” นายประศม ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อสส. ไฟเขียว 'อัยการธนกฤต' นั่งที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน
อัยการสูงสุด ได้อนุญาตให้ ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายสัญญาและหารือ 4 สํานักงานที่ปรึกษา กฎหมายปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้
ซวยแล้ว! อสส. รับคดีพ่อลูกตระกูลฮุนสั่งยิง เป็นคดีนอกราชอาณาจักร
อัยการสูงสุดรับคดี พ่อลูกตระกูลฮุนฯ สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว “วัชรินทร์”อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบคดี
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ 'นายพล' 17 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

