
“อธิรัฐ” สั่งกรมเจ้าท่าเร่งตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน ป.อันดามัน 2 อับปางกลางอ่าวไทย จี้ออกคำสั่งงดใช้เรือดังกล่าว และให้เจ้าของเรือดำเนินการกู้เรือโดยด่วน หวั่นน้ำมันมีกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
23 ม.ค.2565-นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ “ป.อันดามัน 2” ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล เหตุเกิดเมื่อเวลา เวลา 19.15 น. ของวันที่ 22 ม.ค.65 จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ทราบว่า เรือ ป.อันดามัน 2 มีนายวายุ หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งทั้งหมดปลอดภัย โดยได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21 เรือจมที่ความลึกประมาณ 50 เมตร มีน้ำมันในเรือ ประมาณ 5 แสนลิตร เป็นดีเซลน้ำมันเขียว
ทั้งนี้สาเหตุการจมเกิดจากมีน้ำเข้าเรือ แต่ไม่สามารถสูบออกได้ทัน เนื่องจากมีคลื่นลมแรง ทั้งนี้เป็นเรือจอดเพื่อการจ่ายน้ำมันเขียวให้เรือประมง จากการประเมินการไหลของกระแสน้ำในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค.2565 พบว่าไหลขึ้นไปทางด้านทิศเหนือเข้าเลียบชายฝั่ง จึงคาดการณ์คราบน้ำมันมีโอกาสจะถูกคลื่นและกระแสน้ำพัดไหลเข้าชายฝั่งบริเวณ อ.ปะทิว อ.บางสะพานน้อย อ.บางสะพาน อ.ทับสะแก ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตามน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวัง
นายอธิรัฐ กล่าวว่า ซึ่งภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าของเรือ (บริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด) เพื่อเตรียมน้ำยาสลายน้ำมัน วางทุ่นล้อมน้ำมัน บริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว ทั้งนี้ได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการตรวจสอบคราบน้ำมันที่พบเป็นน้ำมันชนิดอะไร มีปริมาณเท่าไหร่ ทิศทางการเคลื่อนที่ และมีแผนจะดำเนินการป้องกันและกำจัดอย่างไร หากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล
นายอธิรัฐ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่าดำเนินการเพิ่มเติมดังนี้ 1.ออกคำสั่งงดใช้เรือดังกล่าว และให้เจ้าของเรือดำเนินการกู้เรือโดยด่วน 2.ออกประกาศแจ้งเตือนให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ 3.เตรียมพร้อมเรือตรวจการณ์และเรือขจัดคราบน้ำมัน 4.ให้บูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน 5.รายงานสถานการณ์ และความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และ 6. ให้เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆ ที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ชุมพร’เมืองประตูสู่ภาคใต้ เสน่ห์แห่งทะเลและไลฟ์สไตล์ชุมชนจุดยุทธศาสตร์พลังงานภูมิภาค
“ชุมพร” ชื่อนี้อาจเป็นภาพจำของประตูสู่ภาคใต้ สำหรับนักเดินทาง แต่หากได้ลองแวะพักและสัมผัสอย่างลึกซึ้ง จังหวัดริมฝั่งอ่าวไทยแห่งนี้จะเผยให้เห็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบ
รถทัวร์ชนสนั่นกระบะ เจ็บสาหัส 4 เหตุผู้รับเหมาชุ่ย ซ่อมถนนให้รถวิ่งสวนเลนไร้แสงสว่างแจ้งเตือน
ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถทัวร์ปรับอากาศชนกับรถยนต์กระบะบนถนนสายเพชรเกษม กม.ที่ 507 ม.7 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์
ผบ.กองกำลังเทพสตรี ขอบคุณ ตชด. จับกำนันดังชุมพร ลักลอบขนแรงงานเมียนมา
ผบ.กองกำลังเทพสตรี รุดให้กำลังใจ ตชด.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนไทย-เมียนมา หลังจับ “กำนันทร” คนดัง กับพวก ฝ่าฝืนเข้าออกนอกประเทศและร่วมกันขนด่างด้าว
กรมอุตุฯ เตือน 30 ต.ค.-2 พ.ย.รับอากาศแปรปรวนโดยเฉพาะ 8 จังหวัด
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
ทช. เดินหน้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกป่าชายเลน 'หาดทรายรี' คืนพื้นที่ให้ธรรมชาติ
นายจักรี ตั้งอั้น ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 3 (ปะทิว ชุมพร) ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดชุมพรศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดชุมพร
ครั้งแรกในไทย! ยิงพลุดัดแปลงสภาพอากาศ แนวทางใหม่ 'ฝนหลวง' บรรเทาภัยแล้ง
ทัพฟ้าจับมือฝนหลวง ยิงพลุระเบิดแคลเซียมคลอไรด์สูง 1,500 ฟุต ปรับสภาพอากาศ รวมเมฆฝน พลิกเกมภัยแล้ง ครั้งประวัติศาสตร์ที่ชุมพร หวังวิจัยเป็นอาวุธใหม่ช่วยประชาชน


