เปิดข้อมูลใหม่ปม 'ปมกระโดง' พิรุธแผนที่การรถไฟฯรุกสิทธิชาวบ้าน

25 ธ.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทพื้นที่บริเวณเขากระโดง หลังกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) และกรมที่ดิน ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน และหน่วยราชการ ในพื้นที่เขากระโดงในจังหวัดบุรีรัมย์ หลังการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) อ้างสิทธิ์เป็นของตัวเองบนพื้นที่ 5,000  กว่าไร่ 
 
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า  จากการฟังความของชาวบ้านพบพบว่า อยู่มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2460 ก่อนที่จะมีการออกพระราชกฤษฎีกาสำรวจแนวเขตของการรถไฟฯ    “หากฟังทั้งหมด ผมเข้าใจว่าเหมือนการรถไฟจะไปก้าวล่วงสิทธิของประชาชน” 

รมช.มหาดไทย ยืนยันว่า ได้รับทราบข้อมูลใหม่จากชาวบ้าน ที่นำเอกสารสิทธิมาแสดงว่าอยู่ในที่ดินนั้น ก่อนที่การรถไฟฯ จะเข้าไปในพื้นที่ และได้นำเอกสารสิทธิต่างๆมาแสดงด้วย ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ จากประชาชน ที่ไม่ได้ส่วนร่วมในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาครั้งที่แล้ว  

ขณะที่การรถไฟฯ ก็ออกแถลงการณ์โต้ทันทีว่าที่ดินบริเวณเขากระโดง 5,000 กว่าไร่เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. พร้อมมีเอกสาร ข้อมูลและคำตัดสินของศาลต่างๆ ถือเป็นที่สิ้นสุด พร้อมดำเนินการทุกอย่างให้ที่ดินกลับมาเป็นของ รฟท. 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นของการรถไฟฯ ถือเป็นมหากาพย์และมีรายละเอียด ข้อถกเถียงอีกมากที่สังคมยังไม่ได้รับรู้ โดยเฉพาะจากฝั่ง“กรมที่ดิน” ที่ถูกลากให้มาเป็นจำเลย   จึงขอนำเสนอข้อมูลอีกด้านเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องโดยแบงประเด็นเรื่อง “เขากระโดง ต้องแบ่งเป็น 2 ภาค   

โดยภาค1ประชาชน 35 ราย นำเอกสารการครอบครองที่ดิน  สค.1 ไปร้องต่อศาลฎีกา ขอให้กรมที่ดินออกโฉนดที่ดิน แต่การรถไฟฯคัดค้านและศาลฎีกาได้ตัดสินให้ยกคำร้องของประชาชนทั้ง 35 ราย เนื่องจากการรถไฟฯ นำแผนที่แสดงอาณาเขตที่ดินจำนวน 5,083 ไร่ แสดงต่อศาลฎีกาว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ รับถ่ายโอนมาจากกรมรถไฟหลวง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นที่ดินของการรถไฟ และให้กรมที่ดินเพิกถอนคำร้องของประชาชน 35 ราย ซึ่งกรมที่ดินได้ดำเนินการแล้ว  ถือได้ว่ากรมที่ดินได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกาโดยสมบูรณ์แล้ว 

สำหรับการสู้คดีในศาล ภาคที่ 1ของประชาชน 35  ราย นี้ ขณะที่ประชาชนอื่นๆมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน และ นส.3 ก. มากกว่า 900 ราย ซึ่งมีเอกสารสิทธิที่ดีกว่าประชาชน 35 ราย และกรมที่ดินในฐานะผู้ออกเอกสารสิทธิ์มีการจดทะเบียนซื้อ ขาย โอนที่ดิน มากกว่า 900 แปลง ในพื้นที่ที่การรถไฟฯ อ้างต่อศาล ว่าเป็นที่ดินของการรถไฟฯ  ไม่ได้เข้าร่วมในกระบวนการพิจารณาคดี ด้วยเพราะไม่ใช่คู่กรณี หรือคู่ความ ในครั้งนั้น ดังนั้นการดำเนินคดีในภาคแรก ถือว่าเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์​ 

ส่วนภาค2 ต่อมาการรถไฟฯ ฟ้องศาลปกครองให้ กรมที่ดินเพิกถอนการจดทะเบียนนเอกสารสิทธิ์ ทุกแปลง ในพื้นที่ 5,083 ไร่ ซึ่งการรถไฟฯ บรรยายฟ้องว่าเป็นการออกโฉนดที่ดิน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นที่ดินของการรถไฟฯ โดยอ้างว่าเป็นแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462 และศาลฎีกาได้วินิจฉัย ตามหลักฐานที่การรถไฟฯ นำมาแสดงต่อศาล  (ตามภาค 1) 

ต่อมา ศาลปกครอง ได้มีคำพิพากษายกฟ้องคำร้องของการรถไฟและให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ตามมาตรา 61 ของกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ  ทุกกรณีที่มีการฟ้องร้องให้กรมที่ดิน เพิกถอนการจดทะเบียนออกเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือผิดกฎหมาย  

เมื่อการรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน ทำผิดกฎหมาย ให้ศาลสั่งเพิกถอนการออกโฉนดและเอกสารสิทธิมากกว่า 900 แปลง จึงเป็นเหตุให้กรมที่ดิน ผู้ถูกฟ้องต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี และ ประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ และเป็นผู้เสียสิทธิ์ ต้องเข้าสู่การพิจารณาคดีด้วย เมื่อศาลสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนการได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการสอบสวนสิทธิ์การถือครองที่ดินของทั้งการรถไฟฯ และ ประชาชน 

ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตามมาตรา 61 พบว่าแผนที่ที่การรถไฟฯ นำไปอ้างในศาลฎีกา ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462 และสัดส่วนในแผนที่ผิดจากความเป็นจริงในพื้นที่ เช่นทางรถไฟฯ ระบุในแผนที่มีความยาว 8 กิโลเมตร แต่รางรถไฟที่มีอยู่จริงในพื้นที่ ความยาว 6.2 กิโลเมตร อีก 1.8 กิโลเมตร เป็นที่ดินของประชาชน ซึ่งมีการออกเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีผู้แทนของการรถไฟฯ เป็นผู้ชี้แนวเขตการรถไฟ ซึ่งไม่ทับซ้อนที่ดินของประชาชน ปรากฎเป็นหลักฐานอยู่ในเอกสารที่ประชาชน นำมาแสดง

จากการสอบสวน พบว่า แผนที่ฉบับที่การรถไฟฯ นำมาอ้าง เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นในปี พ.ศ. 2539 ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดิน และ พนักงานการรถไฟ ร่วมกันจัดทำขึ้นเอง เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินของประชาชน ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา  และเมื่อกรมที่ดิน ให้การรถไฟฯ นำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462  แสดงเขตที่ดินการของการรถไฟ เป็นหลักฐานประกอบการรังวัดชี้แนวเขตที่ดิน การรถไฟฯ ไม่สามารถนำมาแสดง ได้ ในขณะที่ประชาชน นำเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมาย มาแสดงและคัดค้านการชี้แนวเขตของผู้แทนการรถไฟฯ 

คณะกรรมการสอบสวน พิจารณาแล้ว เห็นว่าเมื่อการรถไฟฯ ไม่สามารนำเอกสารสิทธิที่ดีกว่าประชาชนมาแสดงต่อคณะกรรมการ ได้  และมีประชาชนถือครองเอกสารสิทธิ์ ยื่นคัดค้าน จึงยังไม่มีเหตุให้เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน จึงได้รายงานต่ออธิบดีกรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดินได้รายงานกระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการ ต่อศาลปกครอง  ซึ่งเป็นผู้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการแล้ว  กระบวนการของกรมที่ดิน เสร็จสิ้นแล้ว  จากนี้ไป ทั้ง การรถไฟฯ และ กรมที่ดิน ต้องรอการพิจารณาของศาลปกครองว่าจะมีคำสั่งอย่างไร 

การดำเนินคดีภาค 2 ยังไม่เป็นที่ยุติ ที่มีการกล่าวอ้างว่า ศาลฎีกาและศาลปกครอง ได้ตัดสินให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง แล้ว จึงไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่มีเจตนาทำให้ประชาชนสับสน เข้าใจผิดว่ากรมที่ดิน ขัดคำสั่งศาล

นอกจากนี้ ยังพบว่า คำพิพากษาศาลปกครองกลาง หน้าที่ 30  ยังรับรองความเป็นอิสระหรือดุลพินิจของกรมที่ดินไว้แล้ว ศาลปกครองไม่อาจก้าวล่วงได้ ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญของคำพิพากษาของศาลปกครอง

เนื่องจาก “ คำร้องที่ รฟท.ขอให้ศาลสั่งกรมที่ดินเพิกถอน ศาลให้ยกคำร้องและ ให้ไปตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 เมื่อคณะกรรมการทำตามกฎหมายแล้ว ชี้อย่างไรให้เป็นไปตามความเห็นของคณะคณะกรรมการ ศาลไม่อาจก้าวล่วงผู้ถูกร้องที่สอง(อธิบดีกรมที่ดิน)ได้”

ฉะนั้นการออกมาโต้ตอบกันไปมาของคู่กรณี ยืนยันว่าตนเป็นฝ่ายถูก เป็นเรื่องปกติของคู่กรณี แต่เมื่อนำความขึ้นสู่ศาลแล้ว ควรจะรอศาลตัดสิน ดีกว่าที่จะมาโต้ตอบกันไปมา  

สุดท้าย กรมที่ดิน ไม่ได้ปิดกั้นการรถไฟฯ ใช้สิทธิฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินการรถไฟฯ เป็นรายแปลง และได้แนะนำการรถไฟฯไปแล้ว  หากศาลมีคำสั่งให้การรถไฟฯ ชนะคดีต่อกรมที่ดิน พร้อมจะดำเนินการเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์เป็นรายแปลงตามคำสั่งศาลแพ่งต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า

สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ

ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ

เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช  ปุ๋ย  และค่ารถตัดที่แพงขึ้น 

ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง บิ๊ก มท. 20 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯคนใหม่ 18 จังหวัด-2 ผู้ตรวจราชการ

ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างจากการโยกย้ายและเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ตำแหน่ง ดังนี้

ไฟเขียวจ่ายเยียวยาน้ำท่วมสงขลา 5 แสนครัวเรือน 4.75 พันล้าน

'ก.ช.ภ.จ.' สงขลา เคาะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5.28 แสนครัวเรือน วงเงิน 4.75 พันล้านบาท 'ปลัด มท.' สั่งเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด

นายกฯ ชี้โยกย้ายทั้งวงรอบและตามความเหมาะสม เป็นเรื่องปกติการบริหารราชการแผ่นดิน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้ายของกระทรวงมหาดไทยจะมีโยกย้ายนอกฤดูหรือไม่