ศปถ.ปรับแผน สั่งจังหวัดคุมเข้มด่านชุมชน หลังปชช.เดินทางถึงภูมิลำเนา

29 ธ.ค.2567-นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 29 ธ.ค.2567 เปิดเผยว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว ในขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทางซึ่งยังคงมีจำนวนมาก ทั้งในส่วนของรถโดยสารประจำทางและรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.67) มีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมากถึง 1,100,000 เที่ยว และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทาง โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้เน้นย้ำจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนเพิ่มมาตรการตรวจสอบความพร้อมของคนขับรถ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะและความพร้อมของยานพาหนะในทุกจุดที่มีการรับ-ส่งประชาชน

กรณีเกิดอุบัติเหตุให้สืบสวนพฤติกรรมก่อนเกิดเหตุ อาทิ ขับรถต่อเนื่องกี่ชั่วโมง มีการจอดพักรถที่จุดบริการหรือไม่ มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และรับประทานยาที่มีมีฤทธิ์กดประสาทที่ส่งผลให้เกิดอาการง่วงซึมก่อนหรือระหว่างการเดินทางหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในเชิงป้องกันที่สาเหตุ ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายควบคุมความเร็วในการขับรถอย่างเข้มข้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลัก สายรอง และถนนใน อบต.และหมู่บ้าน เน้นการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน  ทางแยก ทางร่วม และเข้มงวดการจอดรถบนไหล่ทางที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ในเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการง่วงหลับใน ตลอดจนกำชับจุดตรวจ ด่านตรวจ ด่านชุมชน บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุรุนแรง สำหรับการจัดตั้งจุดบริการประชาชน ต้องไม่กีดขวางช่องทางจราจรมีระยะห่างจากขอบทาง จัดให้มีเครื่องหมาย กรวย หรือป้ายแสดงจุดบริการ และไม่แนะนำให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการ ออกไปยืนนอกจุดบริการที่ใกล้ถนน เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้รับบริการ

ทั้งนี้ ในส่วนการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ได้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค.) เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางบนโครงข่ายคมนาคมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดด้านข้อมูลการเดินทาง ด้วยระบบ CCTV จาก 8 หน่วยงาน 454 กล้อง ในทุกรูปแบบการเดินทางของประชาชน เพื่อติดตามข้อมูลสภาพจราจรและความหนาแน่นของผู้โดยสาร และข้อมูลความปลอดภัย ประกอบด้วย การตรวจความพร้อมระบบขนส่งสาธารณะ การตรวจติดตามข้อมูลการใช้ความเร็วของรถโดยสารสาธารณะ และระยะเวลาการทำงานของพนักงานขับรถ หากพบการขับรถเร็วเกินกำหนด การไม่แสดงตนในการขับขี่ การขับเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งระบบดังกล่าวจะแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อให้แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการให้ดำเนินการจัดการต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการสืบสวนอุบัติเหตุช่วงเทศกาล ซึ่งหากเกิดเหตุจะมีการบัญชาการเร่งด่วนผ่านระบบออนไลน์เพื่อบริหารจัดการเหตุอย่างทันท่วงที ตลอดจนขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถเช่าตรวจสอบใบอนุญาตขับรถของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศรับทราบ และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 กล่าวว่า ในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงจุดหมายปลายทางกันแล้ว แต่จะมีบางส่วนที่ยังอยู่ระหว่างเดินทาง กระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์อุบัติเหตุ เน้นการดูแลจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการเรียกตรวจของ “ด่านชุมชน” และ “ด่านครอบครัว” เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และตักเตือนผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่ให้ออกจากพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน ทั้งการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รถจักรยานยนต์ที่มีสภาพไม่ปลอดภัย การขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น และตรวจความพร้อมสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ ในบางพื้นที่เริ่มมีการเฉลิมฉลองแล้ว จึงได้กำชับจังหวัดเพิ่มความเข้มข้นการดูแลเส้นทางโดยรอบพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลอง และดูแลบริเวณสถานที่จัดงานให้มีความปลอดภัย

นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด บูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สนธิกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานในจุดตรวจ จุดบริการ และด่านชุมชน โดยเฉพาะเส้นทางสายรองและเส้นทางเลี่ยง ทางลัด ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในระยะนี้บางจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและอาจมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และระนอง ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยไม่ดี ศปถ. จึงประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกให้กวดขันการใช้ความเร็ว และขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการสัญจรผ่านเส้นทางที่มีฝนตก ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย สำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ย้ำเงินเยียวยาไม่ช้า! พื้นที่นอกเขตประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีหลักเกณฑ์ ปภ.

นายกฯ ย้ำเงินเยียวยาไม่ช้า ยันพื้นที่นอกเขตประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีหลักเกณฑ์เยียวยาของ ปภ. ชี้ ขยายพื้นที่ฉุกเฉิน สตูลหรือไม่ อำนาจผู้ว่าฯ

เงินเยียวยาน้ำท่วม 9 พัน ถึงมือผู้ประสบภัยสัปดาห์หน้า จ่ายชดเชยผู้ประกันตนให้สูงสุดทุกกรณี

"รัชดา" ย้ำเงิน 9 พัน ถึงมือผู้ประสบภัยสัปดาห์หน้า กรมการปกครอง เปิด 3 จุดหาดใหญ่ ทำบัตรปชช.-งานทะเบียนราษฎร อำนวยความสะดวกผู้ประสบภัย

ปภ.แจ้งเตือน 8 อำเภอนราธิวาส เร่งอพยพชาวบ้าน แม่น้ำบางนรา-สายบุรี เพิ่มสูงขึ้น

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง น้ำในแม่น้ำบางนราและแม่น้ำสายบุรี ในพื้นที่ อ.ตากใบ อ.เจาะไอร้อง อ.ระแงะ อ.เมืองนราธิวาส อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส น้ำล้นตลิ่ง

ชง​ ครม. เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได​​ 30-60-90-120 วัน​

'ภราดร' ชง​ ครม. เยียวยาอุทกภัยเพิ่ม จ่าย 4 ขั้นบันได​ ตามเวลาน้ำท่วม​ 30-60-90-120 วัน​ เป็นรายเดือน​นับตั้งแต่ประสบภัยวันแรก​ ใช้งบกลางให้สมน้ำสมเนื้อ

เช็กเลย! ประเดิมโอนเงินเยียวยาน้ำท่วม 6.85 หมื่นครัวเรือน

'โฆษกรัฐบาล' เผยประเดิมโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมเข้าบัญชีครั้งแรก 6.85 หมื่นครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 68 รวม 612 ล้านบาท