
กสม.ลงพื้นที่ประจวบฯ- รอนอง พบคนไทยพลัดถิ่นจำนวนมากเข้าไม่ถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน การพิสูจน์สถานะบุคคลเป็นไปด้วยความล่าช้า จี้ มท.เร่งทำงาน
27 ม.ค.2565 - น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ว่า เมื่อวันที่ 19 - 21 ม.ค.นางปรีดา คงแป้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาติ เศรษฐมาลินี และตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดระนอง เพื่อรับฟังสถานการณ์และหารือถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคม และผู้แทนส่วนราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดระนอง โดยเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่น 4 จังหวัด (ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา) ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านยังคงได้รับความเดือดร้อนจากกระบวนการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิสูจน์รับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น ดำเนินไปด้วยความล่าช้า ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานจากรัฐ เช่น การรักษาพยาบาล หรือการเข้าเรียนในสถานศึกษา ได้ โดยเครือข่ายฯ ได้ยื่นข้อเสนอให้ กสม. เร่งติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น เร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สถานะ การตั้งคณะทำงานติดตามการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด หรือการให้รับเด็กเข้าเรียนในชั้นอนุบาลและประถมศึกษา เป็นต้น
ในโอกาสเดียวกันนี้ กสม. ได้รับทราบข้อมูลจากผู้แทนส่วนราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และระนอง ระบุว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์มีข้อมูลการยื่นคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นกว่า 1,200 ราย ขณะที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอราว 1,700 ราย ส่วน จ.ระนองมีข้อมูลการยื่นคำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นกว่า 2,900 ราย ขณะที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอราว 1,400 ราย (ข้อมูล ณ ปลายปี 2564) ซึ่งการดำเนินการแก้ไขปัญหามีความล่าช้าเนื่องจากกระบวนการตรวจพิสูจน์ต้องอาศัยเวลาในการสอบพยานบุคคล พยานเอกสาร รวมทั้งความเชื่อมโยงผังเครือญาติ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาบุคลากรทางทะเบียนมีจำนวนไม่เพียงพอกับภาระงาน ซึ่งบางอำเภอสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ยื่นคำขอพิสูจน์สถานะได้เพียงวันละ 1 รายเท่านั้น
เรื่องสถานะบุคคลและการตรวจพิสูจน์เพื่อรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนสำคัญที่นำไปสู่โอกาสในเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานด้านต่าง ๆ เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา การประกอบอาชีพ อันเป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับและรัฐต้องจัดหาให้อย่างเสมอภาค ดังที่อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (CERD) ข้อ 5 มีหลักการไว้ให้รัฐภาคีห้ามและขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบและประกันสิทธิของทุกคนให้มีความเสมอภาคกันตามกฎหมาย โดยไม่จำแนกตามเชื้อชาติ สีผิว หรือชาติหรือเผ่าพันธุ์กำเนิด
สำหรับกรณีปัญหาของคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาต่อเนื่องยาวนานนี้ เป็นประเด็นที่ กสม. ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมา กสม. ชุดที่ 2 เมื่อปี 2558 เคยมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสัญชาติของคนไทยพลัดถิ่นไปยังกระทรวงมหาดไทย และล่าสุด กสม. ชุดที่ 4 ในคราวประชุมด้านบริหาร เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 มีมติเห็นชอบให้มีการดำเนินโครงการสำรวจและจัดทำข้อมูล ตลอดจนจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการ หรือแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะบุคคลให้แก่คนไทยพลัดถิ่นในเชิงโครงสร้างด้วย ส่วนข้อมูลสภาพปัญหาที่ได้รับฟังจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ กสม. จะประสานไปยังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่เพื่อดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปด้วยความถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง บิ๊ก มท. 20 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯคนใหม่ 18 จังหวัด-2 ผู้ตรวจราชการ
ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างจากการโยกย้ายและเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ตำแหน่ง ดังนี้
ไฟเขียวจ่ายเยียวยาน้ำท่วมสงขลา 5 แสนครัวเรือน 4.75 พันล้าน
'ก.ช.ภ.จ.' สงขลา เคาะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5.28 แสนครัวเรือน วงเงิน 4.75 พันล้านบาท 'ปลัด มท.' สั่งเร่งเบิกจ่ายให้ถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
'อดีตนอภ.หาดใหญ่' แจงอยู่พื้นที่ทุกวัน น้ำท่วมหนักกว่า 3 เมตร ไม่มีเนต โทรไม่ได้
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Eak Youngapai Na Songkhla ระบุว่า
สั่งให้ออกจากราชการ ‘นายอำเภอหาดใหญ่’ หายตัว 5 วันกลางน้ำท่วม-คดีทุจริตโผล่
กรมการปกครองมีคำสั่ง ให้นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ออกจากราชการไว้ก่อน หลังไม่โผล่พื้นที่หาดใหญ่ตั้งแต่ 22 พ.ย. ทำให้สั่งการช่วยผู้ประสบภัยไม่ได้ ขณะเดียวกันตรวจพบถูก ป.ป.ช. ชี้มูลคดีใช้รถ-กำลัง อส. ไปสร้างบ้านส่วนตัว จึงตั้ง นายดำรงศักดิ์ แก้วดวง ผู้ตรวจราชการฯ เข้ารักษาการทันที
เด้งด่วน ‘นายอำเภอหาดใหญ่’ ไปช่วยราชการ มีผลทันที 26 พ.ย.
กรมการปกครองออกคำสั่งให้ “นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา” นายอำเภอหาดใหญ่ ไปช่วยราชการที่วิทยาลัยการปกครอง มีผลวันเดียวกับที่หาดใหญ่กำลังเจอวิกฤตน้ำท่วมหนัก


