รัฐบาลเดินหน้าแผนปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 68 พบการกระทำผิดกว่า 18,000 คดี มูลค่าปรับทะลุ 2.7 พันล้านบาท โดยสุราเป็นสินค้าผิดกฎหมายยอดฮิต ตามมาด้วยยาสูบและน้ำมัน พร้อมเตือนประชาชนแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมง
5 เมษายน 2568 - นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายงานผลการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายของกรมสรรพสามิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ช่วง 6 เดือนแรก (1 ต.ค. 2567 – 31 มี.ค. 2568) จากกระทรวงการคลัง พบว่า มีการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งผลการดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 18,254 คดี
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ผลการปราบปรามดังกล่าว สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.68% คิดเป็นเงินค่าปรับ 402.70 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,705.22 ล้านบาท โดย 5 อันดับแรกของการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายดังนี้
1.สุรา จำนวน 8,396 คดี ค่าปรับ 81.27 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 7.49 ล้านบาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นสุราในประเทศ 65,241.03 ลิตร และสุราต่างประเทศ 14,347.50 ลิตร
2.ยาสูบ จำนวน 7,597 คดี ค่าปรับ 217.68 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 2,675.08 ล้านบาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นยาสูบในประเทศ 298,002 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,122,273 ซอง
3.น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 707 คดี ค่าปรับ 24.23 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 4.61 ล้านบาท จำนวนของกลาง 686,650 ลิตร
4.รถจักรยานยนต์ จำนวน 661 คดี ค่าปรับ 20.66 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 0.95 ล้านบาท จำนวนของกลาง 3,387 คัน
5.ไพ่ จำนวน 289 คดี ค่าปรับ 2.14 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 3.74 ล้านบาท จำนวนของกลาง 12,283 สำรับ
การปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย ตามนโยบาย ‘Zero Tolerance: สินค้าหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิตต้องเป็นศูนย์’ ได้มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่ลักลอบนำเข้าโดยไม่เสียภาษี โดยเฉพาะตามแนวชายแดนและช่องทางออนไลน์ รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบการกระทำผิด ผ่านศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ของกรมสรรพสามิตอีกด้วย
หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.excise.go.th ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสจะถูกเก็บเป็นความลับอย่างเคร่งครัด
“รัฐบาลมุ่งมั่นดำเนินนโยบายปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ คุ้มครองผู้บริโภค และเสริมสร้างความมั่นคงทางการคลังของประเทศ ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนทุกคน” นางสาวศศิกานต์ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โครงสร้างตลาดอี-คอมเมิร์ซเปลี่ยน Shopee ยืนหนึ่ง TikTok แซง Lazada คนไทยต้องการ ‘แพลตฟอร์มซื้อ-ขายออนไลน์’ แบบไหน
มิลิเยอ อินไซต์ (Milieu Insight) บริษัทวิจัยการตลาด ได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรม ของนักช็อปออนไลน์ชาวไทย จำนวน 500 คน ที่ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของการ
ทลายแหล่งโดรนเถื่อนขายผ่าน TikTok ยึด 162 ลำจากจีน
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง
ปล่อยแถวกองกำลัง 4 ฝ่าย คุมเข้ม 'เบตง' ป้องโจรใต้ป่วนเมือง
ยะลาปล่อยแถวกองกำลังพิทักษ์เมืองเบตง 4 ฝ่าย ตำรวจ-ทหาร-ปกครอง-ภาคประชาชน ป้องกันผู้ก่อเหตุสร้างความรุนแรงในพื้นที่
รัฐบาลเปิดระบบ 'มอก.วอทช์' ดึง AI ล่าของเถื่อนออนไลน์ ตรวจจับ 24 ชั่วโมง
รัฐบาลเปิดตัว “มอก.วอทช์” ระบบอัจฉริยะใช้ AI ตรวจสอบสินค้าละเมิดมาตรฐานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พบลิงก์ต้องสงสัยกว่าแสนรายการ เร่งยกระดับให้ครอบคลุมสินค้าปลอม ใบอนุญาตปลอม พร้อมเปิดช่องทางให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสผ่านไลน์ “แจ้งอุตฯ” หวังยกระดับความปลอดภัยผู้บริโภคและสร้างความเป็นธรรมในตลาดดิจิทัล

