ชง ‘กระชายดำ–กระท่อม’ ขึ้นแท่นสมุนไพรแห่งปี ดันส่งออกหมื่นล้าน

คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ชง “กระชายดำ-กระท่อม” เป็น “Herb of the year” ดันส่งออกต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการตลาดนับหมื่นล้าน ปั้น “กระชายดำ” สู่ผลิตภัณฑ์ลดไขมันในช่องท้อง-โภชนาการการกีฬา-เสริมความงาม

8 มิถุนายน 2568 - นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในฐานะรองประธานอนุกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติเตรียมเสนอให้คณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ พิจารณาขับเคลื่อนกระชายดำและกระท่อม เป็น “Herb of the year” โดยมองว่าสามารถพัฒนาเป็นสมุนไพรที่สร้างเศรษฐกิจ ส่งเสริมสรรพคุณให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก จะทำให้ประเทศไทยมีมูลค่าและโอกาสทางการตลาดนับหมื่นล้านบาท อีกทั้งส่งเสริมการปลูกเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

สำหรับกระชายดำ ในปี 2567 มีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 1.94 พันล้านบาท ในปี 2032 คาดการณ์มูลค่าประมาณ 3.52 พันล้านบาท ส่วนมูลค่าตลาดในประเทศมี มูลค่า 377.87 ล้านบาท โดยมีแนวทางในการขับเคลื่อนกระชายดำ ด้วยการพัฒนาสายพันธุ์กระชายดําที่ให้ผลผลิตเร็วกว่า 1 ปี ส่งเสริมเกษตรกรไทยปลูกกระชายดําคุณภาพ ตรงตามหลัก GAP ส่งเสริมการปลูกในโรงเรือนระบบปิดหรือ การปลูกแบบ Vertical Farming ส่งเสริมการใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยา และ อาหารเสริม ผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์กระชายดําสำหรับลดไขมันในช่องท้อง Sport nutrition และความงาม (Anti-aging) พัฒนาเทคโนโลยีการสกัดกระชายดําเพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) ที่มีคุณภาพและปริมาณสูง วิจัยและพัฒนาการใช้กระชายดําเพื่อผลักดันออกสู่ตลาด

หากมีการขับเคลื่อนตามแนวทางดังกล่าว คาดว่าในระยะเวลา 1 ปี กระชายดำจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยในแง่ของสรรพคุณลดไขมันในช่องท้องจะเพิ่มมูลค่าได้ 305 ล้านบาทต่อปี จากโอกาสทางการตลาด 6,104 ล้านบาทต่อปี ในแง่ของการส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้าน Sport Nutrition เพิ่มขึ้น 250 ล้านบาทต่อปี โอกาสทางการตลาด 25,154 ล้านบาทต่อปี ส่งเสริมภาพลักษณ์ในด้านความงาม เพิ่มขึ้น 74 ล้านบาทต่อปี โอกาสทางการตลาด 745 ล้านบาทต่อปี

ขณะที่การขับเคลื่อนพืชกระท่อม จะอาศัยความร่วมมือของทุกหน่วยงาน การสนับสนุนครอบคลุมทั้งมิติการผลิต การแปรรูป การตลาด และการวิจัยที่มีมาตรฐาน เพื่อสร้างคุณค่าจากพืชกระท่อมในการใช้ประโยชน์ในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ยกระดับพืชให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย

ขณะที่การขับเคลื่อนพืชกระท่อม มุ่งยกระดับสู่การเป็นสมุนไพรเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายในการพัฒนาเพื่อรองรับการส่งออกเชิงพาณิชย์และการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ควบคู่กัน โดยในปีแรกคาดว่ากระท่อมจะสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกได้ถึง 1,191 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าหมายในการใช้กระท่อมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยมีมูลค่าคาดการณ์สูงถึง 900 ล้านบาท

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานจะครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานและตรวจสอบย้อนกลับได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนการพัฒนาระบบกำกับดูแลให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยและสร้างความเชื่อมั่นในระดับสากล

พร้อมกันนี้ ยังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูง อาทิ ตำรับยาอดยาบ้า และตำรับยาแก้ปวดเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยเน้นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ในหลากหลายมิติ ทั้งด้านความปลอดภัย ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา กลไกการออกฤทธิ์ และเทคโนโลยีการสกัด เพื่อสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมแพทย์แผนไทยฯ ปั้นแหล่งท่องเที่ยวสมุนไพรทั่วไทย ดึงนักท่องเที่ยว–เสริมรายได้ชุมชนกว่า 256 ล้าน

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชูจุดขายแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร หวังเป็นจุดหมาย

'บิ๊กหลวง' รีบแจงบอก ป.ป.ส.มีหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศ สธ.

'บิ๊กหลวง' พบผลวิจัยผู้เสพ 'กัญชา-กระท่อม' หลังปลดล็อกจากยาเสพติดสูงเป็นเท่าตัว ชี้ ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานปฏิบัติบังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศ สธ.

กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะ ประชาชนรักษากับหมอพื้นบ้าน ควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่าไม่ใช่หมอเถื่อน

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ประชาชนรักษากับหมอพื้นบ้าน ควรตรวจสอบใบรับรองตามระเบียบกระท

'สมศักดิ์' ดันสมุนไพรไทยแทนยาแผนปัจจุบัน ชู 5 รายการใช้ได้ทันที รพ.ไหนใช้เยอะรับรางวัล 60 ล้าน

รมว.สาธารณสุข เปิดประชุมแพทย์ทั่วประเทศ เร่งส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในระบบ สปสช. หวังลดการนำเข้ายาต่างประเทศ พร้อมชูสมุนไพร 5 รายการใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้ทันที เผย สปสช.เตรียมงบ 60 ล้านเป็นรางวัลให้โรงพยาบาลที่ปรับใช้สำเร็จ ตั้งเป้าปี 69 ยอดใช้สมุนไพรในระบบไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท