ไม่น่าเชื่อ! เพิ่งเซ็นเอ็มโอยูเชื่อมโยงฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เป็นสักขีพยานเอ็มโอยูเชื่อมโยงฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบาง หวังช่วย ปชช.เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน-มีอาชีพสร้างรายได้อย่างทั่วถึง

18 มิ.ย.2568 - ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) “การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ และการจัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุตามสิทธิ/สวัสดิการที่จะได้รับรายบุคคลเพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ”

โดยก่อนพิธีลงนามฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำ นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการด้านข้อมูล One Data : All Right พร้อมรายงาน จากนั้นนายกฯ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายกฯ กล่าวภายหลังพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่า นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยที่จะวางรากฐานในเรื่องของข้อมูล เพื่อจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจากที่ รมว. พม.ได้พาดูบูธจากกระทรวงต่างๆ ถือว่าเป็นการรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ของประชาชนในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งทำให้มีฐานข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น และชัดเจนขึ้น หาง่ายขึ้น และลดเรื่องความซ้ำซ้อนได้ การเชื่อมโยงข้อมูลเข้าหากัน เป็นสิ่งที่ทำให้รัฐประหยัดเวลา ช่วยเหลือประชาชนได้ตรงเป้าหมายและตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า ในการที่เรามีข้อมูลร่วมกันและทำงานร่วมกันแบบบูรณาการจะลงไปใน 3 มิติสำคัญคือ 1. ลดความซ้ำซ้อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้งบประมาณและทรัพยากรของรัฐให้คุ้มค่า รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบสิ่งต่างๆ ก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดภาระทางการคลังของภาครัฐ

2. การสร้างความเป็นธรรม ลดการตกหล่นของประชาชนในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน หลายครั้งที่ผ่านมา เราจะพบว่ามีผู้ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือ สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนต่างๆจากรัฐ แต่รายชื่อนั้นกลับไม่อยู่ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความยากจนแต่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือคนพิการที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนผู้พิการ ซึ่งตรงนี้จะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ที่ตกหล่นไปอยู่ในสายตาของรัฐมากยิ่งขึ้น

3. การส่งเสริมศักยภาพของประชาชนอย่างตรงจุดด้วยข้อมูลแบบรายบุคคลและรายพื้นที่ ถ้าเรามีข้อมูลพื้นที่ต่างๆว่ามีกลุ่มเปราะบางกี่คนและอยู่ตรงไหนบ้าง ก็จะทำให้รัฐสามารถช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นการจำแนกว่ามีผู้ป่วยติดเตียงเท่าไหร่ การจัดสรรเรื่องเครื่องมือต่างๆ ก็จะไปถึงอย่างครบถ้วนและเพียงพอกับคนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ตรงนี้ก็จะส่งเสริมให้กลุ่มเปราะบางเข้าถึงและมีอาชีพมากยิ่งขึ้นก็เป็นการช่วยการหาเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้การที่เรามีข้อมูลครบถ้วนร่วมกัน ก็จะเปิดให้กลุ่มเปราะบาง นอกจากจะเข้าถึงโอกาสของรัฐ ก็ยังเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นด้วย การเริ่มต้นแบบนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลแบบบูรณาการ ซึ่งตนคิดว่าการที่ทำงานทุกอย่างแบบบูรณาการ ทำให้เราสามารถมีข้อมูลมากยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ประชาชน เป็นการทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เมื่อหลายๆ กระทรวงร่วมกัน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนได้จริงๆ ในเรื่องของเอกสาร เรื่องการขอสวัสดิการของรัฐต่างๆ บางท่านทราบอยู่แล้วว่า จะต้องยื่นเอกสารหลายที่ ตรงนี้ก็รัฐบาลก็รีบทำนโยบายนี้ ให้การยื่นเอกสาร การขอสวัสดิการของรัฐใช้เวลาน้อยลง และสะดวกสบายกับประชาชนมากยิ่งขึ้นเพื่อประหยัดเวลา ในนามของนายกฯ ตนต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอแสดงความยินดีกับทุกท่าน ที่วันนี้เรามีระบบบิ๊กดาต้ารวมข้อมูลของประชาชน เพื่อเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างทั่วถึง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐบาลอิ๊งค์' ตีปี๊บ! ยังอยู่ถึง ก.ย. แถลงผลงาน 1 ปี

'หมอมิ้ง' เผยรัฐบาลเตรียมแถลงผลงาน 1 ปี ก.ย.นี้ ปรับวิธีสื่อสาร อ้างทำงานเพียบแต่บกพร่องอธิบายไม่เยอะ พร้อมเดินหน้าตีปี๊บเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ใช่กาสิโน

จับตา! 17 ก.ค. 'อิ๊งค์' แก้ต่างคดีคลิปเสียง 'ปธ.ศาลรธน.' ชี้ขอยืดแจงได้

'ประธานศาลรธน.' เผย 'นายกฯอิ๊งค์' ขอขยายเวลาชี้แจงคดีจริยธรรมได้อย่างน้อย 1 ครั้ง ปัดตอบกรอบเวลาวินิจฉัย ชี้ให้เป็นไปตามกระบวนการ

ออกไป! 'จตุพร' ปลุกขจัด 'สทร.' ไล่นายกฯ 'ตระกูลชิน' พ้นแผ่นดินไทย

'จตุพร' เปิดภารกิจประชาชน ร่วมเอานายกฯ ตระกูลชินออกจากแผ่นดินไทย ขจัด 'สทร.' ลุอำนาจ ลั่นบ้านเมืองปกครองด้วยระบบ 'เสือกเป็นใหญ่' ไม่ได้