ทบ. ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น เลื่อนยศ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน เป็นสิบเอก พร้อมดูแลช่วยเหลือกำลังพลที่บาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดอย่างเต็มที่ ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับบัญชาเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ขอบคุณในความกล้าหาญและเสียสละเพื่อประเทศชาติ
18 กรกฎาคม 2568 - จากเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 16 ก.ค.68 จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน, พลทหาร ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม และ สิบเอก ปฏิพัทธ์ ศรีลาภักดิ์ ซึ่งปัจจุบันอาการปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลรักษาจากทีมแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์อย่างใกล้ชิด
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยกำลังพลทั้ง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาอธิปไตยของชาติในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนอกจากการส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุดแล้ว ผู้บัญชาการทหารบกยังได้มอบหมายให้กรมกำลังพลทหารบกตรวจสอบและดูแลด้านสิทธิและสวัสดิการให้กับกำลังพลทั้ง 3 นายในทันที ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการแล้ว ดังนี้
พลทหาร ธนพัฒน์ หุยวัน จากบาดเจ็บข้อเท้าซ้ายขาด ปัจจุบันเข้ารับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อย ได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และเลื่อนยศเป็นสิบเอก พร้อมเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ประกอบด้วย เงินพระราชทาน กรณีพิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ของทหารกองประจำการ, เงินบำรุงขวัญ, สินไหมทดแทนภัยสงคราม และเงินช่วยเหลือมูลนิธิสายใจไทย รวม 964,057 บาท ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการรักษา ปลดเหตุสูญเสียฯ จากการรบ จะได้รับเงินบำนาญเดือนละ 15,600 บาท และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ประมาณเดือนละ 16,200 บาท รวมทั้งได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น 2 ประเภท 1 พร้อมบัตรทหารผ่านศึก ชั้น 1 ได้รับเงินผดุงเกียรติและเงินเลึ้ยงชีพรายเดือน ตลอดจนได้รับสิทธิในการบรรจุทายาททดแทนเป็นนายทหารชั้นประทวน 1 นาย
ในส่วนของ สิบเอก ปฏิพัทธ์ ศรีลาภักดิ์ และ พลทหาร ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีอาการแน่นหน้าอกจากแรงระเบิด ได้รับเงินบำรุงขวัญเนื่องจากบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เบื้องต้นรายละ 10,000 บาท พร้อมเงินช่วยเหลืออื่นๆ จากกองทัพบก
นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกทุกระดับได้เข้าเยี่ยมเยียน ติดตามอาการบาดเจ็บ และให้กำลังใจกำลังพลพร้อมครอบครัวอย่างต่อเนื่อง กองทัพบกขอแสดงความขอบคุณในความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญเพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตยของชาติ และยืนยันความพร้อมในการดูแลสวัสดิการและการช่วยเหลือกำลังพลอย่างดีที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา
เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน สร้างรั้วชายแดน บังเกอร์ หลุมหลบภัย ถนนตรวจการณ์
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิง
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่


